พักก่อน

พักก่อน

สัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนีปรับตัวขึ้นเพียง 2.46 จุด หรือ +0.2% อย่างไรก็ดี ในระหว่างสัปดาห์ดัชนีแกว่งบวกลบเฉลี่ยกว่า 30 จุด

โดยมีปัจจัยบวกจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกที่เริ่มมีแนวโน้มดีขึ้น ประกอบกับสหรัฐพบว่ายา Remdesivir  สามารถใช้รักษาผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จนหายดีได้ อย่างไรก็ดี ดัชนีถูกกดันจากกลุ่ม ENERG หลังราคาน้ำมันดิบโลกร่วงลงแตะระดับจุดต่ำสุดใหม่ ขณะที่วันศุกร์ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,239.24 จุด (+39.09 จุด) Volume 5.9 หมื่นลบ. ต่างชาติ -196.85 ลบ. TFEX Net +1,166 สัญญา ตราสารหนี้ -794 ลบ.

ปัจจัยบวก / ปัจจัยลบ

+ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 704.81 จุด +2.99% ขานรับข่าวการพัฒนายารักษาโรคโควิด-19 และปธน.ทรัมป์ ประกาศแนวทางสำหรับการเปิดเศรษฐกิจสหรัฐอีกครั้ง

+สหรัฐและหลายประเทศในยุโรปประกาศขั้นตอนการเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง หลังจากยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 เริ่มชะลอตัวเพิ่มความหวังเกี่ยวกับการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจหลังจากล็อกดาวน์มานานหลายสัปดาห์

+การพัฒนายาต้านไวรัสโควิด-19 มีความคืบหน้าในหลายประเทศ สหรัฐ จีน (อยู่ในขั้นตอน 3 ทดลองในคน) และอังกฤษ ในไทยทดลองวัคซีนโควิด-19 ในสัตว์ (ขั้น 2)

+เมื่อวานนี้ (19 เม.ย.) ศบค.เผยผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 32 ราย และไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น

+ราคาทองคำลงจากแรงขายทำกำไรเนื่องจากนลท.หันไปถือครองสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มขึ้น

+แบงก์ชาติจีนลดดอกเบี้ยเงินกู้ LPR ประเภท 1 ปีลง 0.2%, ประเภท 5 ปีลง 0.1%

+ธปท.ทบทวนแผนออกหลักเกณฑ์คิด"ดอกเบี้ย-ค่าธรรมเนียม"ทั้งระบบที่เป็นแนวปฏิบัติจากเดิมคาดออกกลางปีนี้

-ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 1.60 ดอลลาร์ -8.1% ปิดที่ 18.27 ดอลลาร์/บาร์เรลแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 18 ปีเนื่องจากวิตกอุปสงค์น้ำมันที่ทรุดตัวลงเพราะผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19-ญี่ปุ่นเผยยอดส่งออกเดือนมี.ค.ร่วง 11.7% เหตุโควิด-19 ฉุดอุปสงค์สินค้าญี่ปุ่นในตลาดโลก

+ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตบวก 18.55 จุด +0.66%

+ดัชนีนิกเกอิปิดบวก 607.06 จุด +3.15%

-Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD 1.42 แสนลบ. ค่าเงินบาท 32.65 บาท/US

*จับตาสหรัฐเผยดัชนีกิจกรรมเศรษฐกิจทั่วประเทศ มี.ค. อียูเปิดเผยดุลการค้าก.พ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาสแกว่งตัวผันผวนในลักษณะ Sideway หลังจากปรับตัวขึ้นแรงในวันศุกร์ โดยแรงหนุนจากข่าวการพัฒนายารักษาโรคโควิด-19  หลังการทดลองพบว่า ผู้ป่วยที่ได้รับยา Remdesivir สามารถฟื้นตัวขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวลง ยังเป็นตัวกดดันตลาด คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,226-1,250 จุด

หุ้นรายงานพิเศษ

KTC (ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 36.61) มีมุมมองบวกจาก TFRS9 ไม่กดผลการดำเนินงาน

1Q63 มีกำไรสุทธิภายใต้มาตรฐานบัญชีใหม่ TFRS9 จำนวน 1,641 ล้านบาท ต่ำกว่าคาดการณ์ของ Bloomberg Consensus 7% หากใช้มาตรฐานเดิมจะมีกำไรสุทธิ 1,161 ล้านบาทกำไรเพิ่มขึ้น 41%  โดยมีรายได้รวม +2% มาจากรายได้ดอกเบี้ยรวมค่าธรรมเนียมในการใช้วงเงิน +11%YoY จากพอร์ตลูกหนี้เพิ่มขึ้นแบ่งเป็นสินเชื่อบัตรเครดิต +10.4% จากฐานสมาชิกที่เติบโต 5.5%YTD ขณะที่สินเชื่อบุคคล -6% จากการปิดบัญชีที่ไม่เคลื่อนไหว  ปริมาณใช้จ่ายผ่านบัตรในเดือนม.ค. ก.พ.63 +10% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม +6.2% แต่การเติบโตชะลอตัวเหลือ +2.2% ในเดือนมี.ค.

ผลจากการใช้มาตรฐาน TFRS9 ทำให้คชจ.สำรองหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญ 1,308 ล้านบาท เทียบกับ 1,886 ล้านบาทตามมาตรฐานเดิม ลดลง 31% ทำให้มียอดลูกหนี้จัดชั้น NPL เท่ากับ 3,288 ล้านบาท+240% เทียบกับ 966 ล้านบาทภายใต้มาตรฐานเดิม  และมีผลให้ %NPL ภายใต้ TFRS9 อยู่ที่ 4.01% หากใช้มาตรฐานบัญชีแบบเดิม %NPL เท่ากับ 1.21% และ NPL Coverage Ratio ลดเหลือ 203% ลดลงจาก 595% ภายใต้มาตรฐานเดิม

ผลกระทบจากโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรและเติบโตของพอร์ตลูกหนี้ ทั้งนี้ก.คลังและธปท.ได้ออกมาตรการช่วยเหลือด้านสินเชื่อสำหรับลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ในการปรับลดอัตราผ่อนชำระขั้นต่ำจากเดิม 10% เหลือ 5% ให้สมาชิกทุกรายอัตโนมัติโดยไม่ต้องแจ้งความประสงค์ ส่วนมาตรการอื่นที่เหลือจะเริ่มในวันที่ 20 เม.ย.ซึ่งผู้บริหารยังไม่สามารถประเมินผลกระทบได้ชัดเจนในช่วงไตรมาสแรก แต่คาดจะเห็นชัดเจนในช่วง 2Q63

ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกจากการใช้มาตรฐานบัญชี TFRS9  ส่งผลให้คชจ.สำรองฯกลับลดลดแม้ %NPL เพิ่มขึ้น และคาดว่าอาจจะเห็นการปรับประมาณใน Bloomberg Consensus ปัจจุบันที่คาดกำไรสุทธิปี 63 เฉลี่ย 5,524 +7.5%

กลยุทธ์การลงทุน

  • หุ้น Defensive (RATCH TTW ADVANC CHG)
  • หุ้น High Dividend Yield (KKP TISCO INTUCH)
  • หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก Lockdown (MAKRO BJC CPALL TU TFMAMA)
  • หุ้นได้ประโยชน์จากการ Work from home (ADVANC INTUCH DTAC TRUE JAS JASIF DIF COM7 SIS SYNEX)
  • 5 หุ้นเด่น IAA (ADVANC CPF CPALL INTUCH RATCH)

ส่องหุ้น

        SISB        แนวรับ 7.50 บาท                  แนวต้าน 7.90 , 8.20-8.35 บาท

        SAWAD    แนวรับ 50.50-50.00 บาท       แนวต้าน 53.00, 55.50-57.00 บาท

        MTC         แนวรับ 44.50 บาท                 แนวต้าน 46.50 , 49.00-49.75 บาท

หุ้นมีข่าว   

·         (+) คณะกรรมการกำกับดูแลการประกอบวิชาชีพบัญชี (กกบ.) ไฟเขียวผ่อนเกณฑ์ TFRS 9 ให้กลับไปใช้แบบเดิม หนี้เสียไม่เกิน 3 เดือนตั้งสำรองเล็กน้อยกว่าเกณฑ์ใหม่ การพักหนี้ไม่ต้องตั้งสำรอง โบรกฯคาดส่งผลดีต่องบแบงก์และนอนแบงก์ ต้นทุนทางการเงินลดฮวบ ค่าใช้จ่ายต้นทุนที่ลดลงทุก 0.1% จะนำไปสู่การเพิ่มขึ้น 7% ของกำไร KBANK และ BBL เด่นสุดมีลุ้น Q1 ดีขึ้น ขณะที่กลุ่มไฟแนนซ์รับผลบวกทุกตัว (ที่มา ข่าวหุ้น)

·         (+) KTC (Bloomberg Consensus 36.61 บาท) เผยกำไรไตรมาส 1/63 เป๋าตุง 1,641 พันล้านบาท เพิ่ม 3.27% พร้อมโชว์เป็นงบการเงินตามมาตรฐานบัญชีใหม่ (TFRS 9) บัตรเครดิต ยอดลูกหนี้ยังขยายตัว NPL ตาม TFRS 9 อยู่ที่ 4.01% เท่านั้น วันนี้จับตา 4 แบงก์แจ้งงบการเงินไตรมาสแรก TMB TISCO KKP กำไรเพิ่ม ลุ้น SCB ปรับลงเล็กน้อย (ที่มา ข่าวหุ้น)

·         (+) EGCO (Bloomberg Consensus 341.58 บาท)  ปิดดีลซื้อหุ้น 25% วินด์ฟาร์มนอกชายฝั่งทะเล หยุนหลินกำลังการผลิต 640 เมกะวัตต์ในไต้หวัน เตรียม COD เฟสแรก 352 เมกะวัตต์ไตรมาส 4 ปีนี้ โบรกฯเชียร์ ซื้อ” เป้าราคา 321 บาท คาดปีนี้กำไรพุ่ง 1.36 หมื่นล้านบาท (ที่มา ข่าวหุ้น)

·         (+) ITD (Bloomberg Consensus 1.67 บาท)  บอร์ด รฟท.ไฟเขียวผลประมูลไฮสปีดไทย-จีนอีก 2 สัญญา ITD คว้าได้ 1 สัญญา มูลค่า 9.9 พันล้านบาท พร้อมเคาะขยายเวลาเจรจาสัญญางานระบบที่ 2.3 ออกไปอีก 155 วัน เหตุโควิด-19 ระบาด ไม่สามารถนัดประชุมคณะกรรมการร่วมรถไฟไทย-จีนได้ (ที่มา ข่าวหุ้น)

·         (+) SIS (Bloomberg Consensus - บาท)  เผยยอดขายสินค้าไอทีปรับตัวดีขึ้น รับอานิสงส์ Work From Home ช่วงวิกฤติโควิด-19 เล็งเพิ่มช่องทางจัดส่งสินค้า-เน้นทำตลาดออนไลน์มากขึ้น ระบุเตรียมจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.55 บาทต่อหุ้น ขึ้น XD วันที่ 7 พฤษภาคมนี้ (ที่มา ทันหุ้น)

·         (+/-) AOT (Bloomberg Consensus 64.59 บาท)  จับตา AOT เตรียมพิจารณามาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติมให้แก่ธุรกิจการบิน และที่ไม่เกี่ยวกับการบิน ในวันที่ 22 เมษายนนี้ หลังผู้ประกอบการได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 พร้อมประเมินผลประกอบการไตรมาส 3/2563 (สิ้นสุด มิ.ย.63) จะกระทบหนักสุด พร้อมปรับลดกำไรและราคาเป้าหมายลง (ที่มา ทันหุ้น)

·         (-) SISB (Bloomberg Consensus 9.50 บาท) ปรับกลยุทธ์เตรียมแผนเปิดเทอม 3 ทำการเรียนการสอนผ่านออนไลน์ แถมลดค่าเทอมลง 12% บรรเทาความเดือดร้อนผู้ปกครอง คาดจบครึ่งปีแรกจะทบทวนแผนธุรกิจใหม่ ยังเดินหน้าขยายโรงเรียนต่อเนื่อง พร้อมเจรจาซื้อกิจการโรงเรียนเข้าพอร์ต (ที่มา ทันหุ้น)

·         (+/-) GLOBAL (Bloomberg Consensus 14.32 บาท)  ผู้บริหาร GLOBAL ลุ้นปลดล็อกห้างสรรพสินค้า ดันธุรกิจเดินหน้า แม้ช่วงที่ผ่านมาปิดสาขา แต่มีการขายผ่านออนไลน์ มองผลงานครึ่งปีหลังฟื้นตัว รุกเปิดสาขาใหม่อีก 6-7 สาขา โบรกคาดไตรมาส 2 นี้ เป็นจุดต่ำสุดของปี เคาะพื้นฐาน 13.30 บาท (ที่มา ทันหุ้น)