'ค้าปลีก' เข้มความปลอดภัยขั้นสุด ชู 'นวัตกรรม-หนุนสังคมไร้เงินสด'
ห้างสรรพสินค้า-ศูนย์การค้า เตรียมพร้อมรอไฟเขียวรัฐคลายล็อกดาวน์ เดินหน้ายกระดับ "ความปลอดภัย" ลงทุน "นวัตกรรม-เทคโนโลยี" หนุนสังคมไร้เงินสด เสริมความมั่นในคุมเข้มต่อเนื่องระยะยาว
มหันตภัย “โควิด-19” สร้างผลกระทบรุนแรงทั่วโลก ถือเป็น ดิสรัปชัน (Disruption) ครั้งใหญ่ ที่ทุกธุรกิจต้องปรับตัวสร้างมาตรการทางด้านความปลอดภัยขั้นสูงสุดในการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาด โดยเฉพาะพื้นที่สาธารณะที่ผู้คนออกมาใช้ชีวิตอย่าง ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า ร้านค้าปลีกต่างๆ ซึ่งเตรียมนับถอยหลังการผ่อนคลายมาตรการปิดห้าง
นางสาววัลยา จิราธิวัฒน์รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอ็น ผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์, เซ็นทรัลพลาซา, เซ็นทรัลเฟสติวัล, เซ็นทรัล ภูเก็ต และ เซ็นทรัล วิลเลจ ลักชูรี่เอาท์เล็ต กล่าวว่า ซีพีเอ็น จัดทำแผนแม่บทในการดำเนินกิจการค้าปลีก ภายใต้ “เซ็นทรัล สะอาด มั่นใจ” ครอบคลุมเรื่องความสะอาดและความปลอดภัยรวมกว่า 75 มาตรการภายใต้ 5 แกนหลัก
ประกอบด้วย 1.การคัดกรองอย่างเข้มงวด (Extra Screening) 2.มาตรฐาน Social Distancing ทุกจุด 3.การติดตามเพื่อความปลอดภัย(Safety Tracking) 4.การใส่ใจในความสะอาดทุกจุดสัมผัส(Extra Cleaning)และ 5.แนวทางลดการสัมผัส (Touchless) เป็นกรอบปฏิบัติกับศูนย์การค้า ร้านค้า และพนักงานทุกคน ทั่วประเทศ อย่างไรก็ตาม การเปิดให้บริการศูนย์การค้าของซีพีเอ็นจะขึ้นอยู่กับคำสั่งของภาครัฐเท่านั้น
จำกัดคนเข้าศูนย์ 1 คนต่อ 5 ตร.ม.
ทั้งนี้ แนวทางปฎิบัติที่สำคัญของการเปิดใช้พื้นที่นั้นยังต้องเว้นระยะย่างทางสังคมเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นก่อนเข้าศูนย์และทุกร้านค้าจะต้องมีการวัดอุณหภูมิ สวมหน้ากากตลอดเวลา พนักงานที่บริการใกล้ชิดลูกค้าต้องสวม Face shield และถุงมือ มีมาตรการเข้มงวดพิเศษสำหรับดีลิเวอรีแมน
มีการจำกัดจำนวนคนเข้าศูนย์การค้า ไม่เกิน 1 คน ต่อ 5 ตร.ม. สำหรับร้านค้าและพื้นที่ส่วนกลาง ลิฟท์-บันไดเลื่อน-ห้องน้ำ รักษาระยะห่าง 1.5-2 ม. ทุกจุด จัดคิวขณะรอ มีพื้นที่นั่งคอย สำหรับร้านค้า และดีลิเวอรีแมนมีฉากกั้นแบ่งส่วนด้วย 5 Shields (Face Shield/Food/Table/Counter/Cashier) สร้างการตระหนักรู้วิธีปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง มีการ Tracking ข้อมูลสุขภาพ การเดินทางของพนักงานในศูนย์และร้านค้าย้อนหลัง 14 วัน ก่อนเปิดศูนย์และทุกวันก่อนเริ่มงาน อาหารสั่งกลับบ้าน (Take-away) ทุกกล่อง ต้องระบุข้อมูลชื่อร้าน สาขา เวลา ชื่อและอุณหภูมิของผู้ประกอบอาหารติดบนกล่องอาหาร
เช็ดทำความสะอาดทุกจุดสัมผัสทุก 30 นาที ฆ่าเชื้อหลังปิดศูนย์ บิ๊กคลีนนิ่งทุกสัปดาห์ บริการฆ่าเชื้อที่ถุงสินค้าก่อนกลับบ้าน ทำความสะอาดฆ่าเชื้อบัตรศูนย์อาหาร บัตรจอดรถ และมีมาตรการพิเศษสำหรับห้องแม่และเด็ก ห้องละหมาด ห้องลองส่งเสริมสังคมไร้เงินสด ใช้อีเพย์เมนท์บริการถุงใส่เงินทอนที่จุดแคชเชียร์ จัดพนักงานเปิดปิดประตูศูนย์ ร้านค้า และกดลิฟท์
เฟ้นนวัตกรรมคุมระยะยาว
สำหรับ เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล กรุ๊ป ผู้บริหาร ท็อปส์ มาร์เก็ต, ท็อปส์ เดลี่ และแฟมิลี่มาร์ทในเครือเซ็นทรัล รีเทล เตรียมแผนเฝ้าระวัง และเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสในระยะยาว โดยมีการลงทุนนวัตกรรมใหม่ ซึ่งร่วมกับทีม “เซ็นทรัลเทค” ผู้พัฒนาด้านนวัตกรรมของกลุ่มเซ็นทรัล พัฒนา “เครื่องช่วยวัดอุณหภูมิอัจฉริยะ” เครื่องมือทางเทคโนโลยีที่มีระบบการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายด้วยการสแกนใบหน้าอย่างแม่นยำ เพิ่มความมั่นใจและปลอดภัยให้แก่ลูกค้าและพนักงาน ในเฟสแรก จะมีการติดตั้งเครื่องช่วยวัดอุณหภูมิอัจฉริยะใน 15 สาขา
เครื่องช่วยตรวจจับอุณหภูมิอัจฉริยะ ถูกพัฒนาต่อยอดจากนวัตกรรมกล้องสแกนใบหน้าที่ใช้อยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพสูงยิ่งขึ้น เพื่อนำมาใช้ที่ ท็อปส์ มาร์เก็ต, ท็อปส์ เดลี่ และ แฟมิลี่มาร์ท โดยเพิ่มฟังก์ชันให้สามารถตรวจจับอุณหภูมิในร่างกายของผู้ที่สแกนใบหน้าได้อัตโนมัติผ่านหน้าจอขนาด 8 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริมจากภายนอกได้ สามารถวัดอุณหภูมิร่างกายด้วยความแม่นยำสูง แม้จะใส่หน้ากากอนามัยอยู่ก็ตาม พร้อมมีระบบแจ้งเตือนหากพบว่าผู้ตรวจวัดอุณหภูมิไม่ได้ใส่หน้ากากอนามัย โดยไม่ต้องมีการสัมผัส ซึ่งจะช่วยลดโอกาสการเข้าใกล้กันระหว่างพนักงานกับลูกค้า และสอดคล้องกับนโยบายเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ลดอัตราการแพร่กระจายของไวรัสโควิด-19
เร่งปูพรมย่านชุมชน
“เครื่องช่วยตรวจจับอุณหภูมิอัจฉริยะ ติดตั้งและใช้งานง่าย มีระบบตรวจสอบ ประมวลผล สามารถแยกแยะใบหน้าของบุคคลในระยะเวลาเพียงสั้นๆ ได้แม่นยำ ทำให้ตรวจจับใบหน้าและวัดอุณหภูมิร่างกายอย่างมีประสิทธิภาพสมบูรณ์แบบ ซึ่งลูกค้าทุกคนจะต้องมีการตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้าจับจ่ายสินค้าทุกครั้ง”
สำหรับอุณหภูมิปกติต้องไม่เกิน 37.5 องศาเซลเซียส กล้องจะแสดงสัญลักษณ์ไฟสีเขียว แต่หากตรวจพบว่าบุคคลใดอุณหภูมิสูงกว่า37.5องศา สัญญาณไฟจะเป็นสีแดงพร้อมมีเสียงเตือน และระบบจะส่งข้อความไปยังเจ้าหน้าที่ของร้านเพื่อดำเนินการตรวจวัดอีกครั้ง หากพบว่าอุณหภูมิยังคงเกิน37.5องศา พนักงานจะแนะนำให้บุคคลนั้นไปพบแพทย์ในทันที
โดยนำร่องติดตั้งเครื่องช่วยตรวจจับอุณหภูมิสาขาแรกแล้ววันนี้ที่ท็อปส์ มาร์เก็ต สาขานางลิ้นจี่ ต้นเดือน พ.ค.นี้จะขยายไปอีก 14 สาขา ย่านชุมชน ได้แก่ ท็อปส์ มาร์เก็ต สาขาสุขุมวิท41, เซ็นทรัล สีลม คอมเพล็กซ์, เมกาบางนา2 และสาขาอาร์ ซี เอ ท็อปส์ เดลี่ สาขาสุขุมวิท101/1, กรุงเทพกรีฑา32, โรงพยาบาลศิครินทร์ บางนา, ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา และ นาคนิวาส มาร์เก็ต ส่วนแฟมิลี่มาร์ท ติดตั้งที่สาขาสวนพลู (ปั๊มน้ำมัน), สีลม32, พัฒนาการ51, พลัมคอนโด รังสิต และหมู่บ้านพระปิ่น7
เคอีชู 4 มาตรการBKER
นางศุภานวิต เอี่ยมสกุลรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท เค.อี. และผู้บริหารกองรีท BKER กล่าวว่า หลังสิ้นสุดมาตรการล็อกดาวน์และรัฐบาลอนุมัติให้เปิดบริการได้นั้น ศูนย์การค้าภายใต้การบริหารกองรีท BKER ทั้ง 11 แห่ง ได้แก่ คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ (ซีดีซี), เดอะ คริสตัล (เอกมัย-รามอินทรา,ราชพฤกษ์,ชัยพฤกษ์), เพลินนารี่ มอลล์, เดอะซีน (ทาวน์อินทาวน์), อมอรินี่, แอมพาร์ค (จุฬา), สัมมากร (รามคำแหง, ราชพฤกษ์, รังสิต) พร้อมดำเนินการด้านความปลอดภัยอย่างเคร่งครัดต่อเนื่อง
โดยเน้นให้ความสำคัญกับ "4 มาตรการBKER" เพื่อสร้างความมั่นใจในเรื่องความสะอาดและความปลอดภัยให้กับผู้ใช้บริการทั้ง 11 ศูนย์การค้า ประกอบด้วย "B-Be clean“ ต้องสะอาดปลอดเชื้อโรค ทุกพื้นที่ ”K-Keep mask“ ใส่หน้ากากทุกคน ถ้าลูกค้าไม่มีหน้ากาก ทางศูนย์จัดเตรียมให้ ”E-E Payment“ เลี่ยงใช้เงินแบบจับธนบัตร เตรียมคิวอาร์โค้ดและเครดิตการ์ด ”R-Ready" เตรียมพร้อมกับทุกสถานการณ์
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
เพิ่มระยะห่างทางสังคม
นอกจากนี้ ให้ความสำคัญกับการเว้นระยะห่างทางสังคม หรือการเพิ่มระยะห่างทางสังคม เพื่อช่วยลดการแพร่กระจายของโควิด-19 เช่น การจำกัดจำนวนการเข้าใช้บริการแต่ละร้านค้าเพื่อลดความแออัด กำหนดการยืนนั่งในพื้นที่ส่วนกลางให้ห่างกันอย่างน้อย 1.5-2 เมตร ลดความหนาแน่นในลิฟต์โดยการกำหนดจุดยืน เว้นระยะห่างการจัดวางเก้าอี้ในร้านค้าร้านอาหาร จัดระเบียบการเข้าคิวให้มีระยะห่างในการใช้บริการ การกำหนดพื้นที่นั่งรอโดยเว้นระยะอย่างชัดเจน กำชับการรักษาระยะห่างระหว่างการสนทนาของพนักงานกับลูกค้า
ทั้งนี้ ศูนย์การค้าได้ให้ความสำคัญกับสุขภาพอนามัยทั้งลูกค้า พนักงาน รวมถึงพนักงานในร้านค้าต่างๆ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการทั้ง11ศูนย์การค้า และพร้อมปฏิบัติตามเงื่อนไขมาตรการของรัฐบาลอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่วนการเปิดให้เข้าใช้บริการนั้นจะเปิดในรูปแบบใดต้องรอประกาศอย่างเป็นทางการจากทางรัฐบาล
ยกระดับมาตรการปลอดภัย
นายอนันต์ ตันติปัญญาคุณ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายปฏิบัติการ บริษัท โรบินสัน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โรบินสันพร้อมยกระดับมาตรการความปลอดภัยตามแนวทางของภาครัฐ นอกเหนือจากมาตรการหลักของกลุ่มเซ็นทรัลที่เป็นกรอบปฎิบัติ ทั้งการสวมใส่หน้ากากอนามัย การเว้นระยะห่างทางสังคม
นอกจากนี้ได้เพิ่มจุดติดตั้งเจลแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อล้างมือในจุดต่างๆ เพิ่มมากขึ้น เพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดพื้นที่ที่มีการสัมผัสบ่อย โดยการใช้น้ำยาฆ่าเชื้อทุก 2 ชั่วโมง ฉีดสเปรย์ฆ่าเชื้อในลิฟต์โดยสาร และห้องลองเสื้อผ้าทุก 2 ชั่วโมง เติมสบู่เหลว และกระดาษชำระในห้องน้ำอย่างเพียงพอตลอดเวลา
ในส่วนห้างสรรพสินค้า โดยเฉพาะแผนกสินค้าแม่และเด็ก ให้เพิ่มมาตรการในการทำความสะอาด ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ ทุก2ชั่วโมง แผนกฟูดคอร์ท ให้รักษามาตรการดูแลความสะอาดอย่างเคร่งครัด เน้นย้ำกับทุกร้านค้า คุมเข้มมากขึ้น โดยบริษัท ได้ใช้เครื่องล้างจานที่มีระบบไอน้ำอุณหภูมิสูงและผสมน้ำยาฆ่าเชื้อในการล้างจานชามอยู่แล้ว และทำความสะอาดบัตรฟูดคอร์ตด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อทุกครั้งก่อนนำไปใช้ใหม่ ให้ดำเนินการ คัดแยกผู้ป่วยที่เป็นไข้หวัดและมาใช้บริการห้องพยาบาลออกจากผู้ป่วยอื่นๆ เพิ่มการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อเข้าไปในระบบปรับอากาศภายในห้าง และศูนย์การค้า
ย้ำมาตรการป้องกันระดับสูงสุด
นางสาวชนิสา แก้วเรือน รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เจ้าของและผู้บริหารศูนย์การค้ากลุ่มวันสยาม (One Siam) ใจกลางกรุงเทพฯ ได้แก่ สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ และหนึ่งในพันธมิตรเจ้าของไอคอนสยาม กล่าวว่า ศูนย์การค้าในกลุ่มวันสยามขานรับและปฏิบัติตามคำสั่งภาครัฐขานรับนโยบายลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ขณะเดียวกันได้เตรียมความพร้อมทางธุรกิจรองรับสถานการณ์เมื่อกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
โดยเตรียมความพร้อมมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันระดับสูงสุดตั้งจุดคัดกรอง พร้อมติดตั้งเครื่องสแกนวัดอุณหภูมิร่างกาย บริเวณทางเข้าออกหลักของอาคาร ระบบฆ่าเชื้อโรคการเช็คทำความสะอาดจุดสัมผัสสาธารณะ ปุ่มกดลิฟท์ ที่จับบันไดเลื่อน ที่จับประตูห้องน้ำ ที่จับประตูอาคารทุกจุด สิ่งเหล่านี้ยังดำเนินการอย่างเข้มข้น