Focus รายตัว

Focus รายตัว

คาดหวังการประชุมครม.วันพรุ่งนี้ (28 เม.ย.) จะผ่อนปรนการ Lock down หลังสถานการณ์ผู้ติดเชื้อ Covid-19 รายใหม่ในไทยชะลอตัวลงต่อเนื่องซึ่งเป็นบวกต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและทิศทางตลาดหุ้นไทย

ตลาดหุ้นเมื่อวันศุกร์

SET วันก่อนปรับตัวลงปิดที่ 1,258 จุด (-13.75 จุด) หรือ -1.08% ด้วย Volume ซื้อขาย 6.9 หมื่นล้านบาท เนื่องจากนักลงทุนกลับมากังวลการระบาดไวรัส Covid-19 อีกครั้ง หลัง WHO ระบุว่ายา Remdisivir ของสหรัฐไม่มีประสิทธิภาพในการรักษาโรค Covid-19 ได้ ประกอบกับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐหลายตัวอ่อนแอส่งผลให้มีแรงขายในกลุ่ม Petro Bank Fin และ Trans กดดันดัชนี ส่วนนักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิ 3,156 ล้านบาท  , Net Short TFEX SET50 1,602 สัญญา และขายสุทธิในตลาดพันธบัตร 83 ล้านบาท

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้     

เรามีมุมมองเป็นกลางคาด SET แกว่งตัว 1,250 – 1,270 จุด โดยแม้ว่าภาวะตลาดจะได้ sentiment เชิงบวกจากปธน.ทรัมป์ลงนามกฏหมายมาตรการเยียวยาธุรกิจขนาดเล็กและโรงพยาบาลวงเงิน 4.84 แสนล้านดอลลาร์ , รัฐจอร์เจียของสหรัฐผ่อนคลาย Lock down โดยให้ธุรกิจขนาดเล็กเปิดทำการได้ รวมถึงความคาดหวังการประชุมครม.วันพรุ่งนี้ (28 เม.ย.) จะผ่อนปรนการ Lock down หลังสถานการณ์ผู้ติดเชื้อ Covid-19 รายใหม่ในไทยชะลอตัวลงต่อเนื่องซึ่งเป็นบวกต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและทิศทางตลาดหุ้นไทย อย่างไรก็ตาม ความกังวลผลประกอบการ 1Q20 ของหลายบริษัทฯที่จะหดตัวลง (สัปดาห์นี้ PTTEP SCC คาดว่าจะประกาศงบ 1Q20 หดตัวลงทั้ง qoq และ yoy) ประกอบกับข่าวสหรัฐฯตัด GSP สินค้าส่งออกไทย 573 รายการ มูลค่า 40,000 ล้านบาทนั้นจะเป็นแรงกดดันต่อดัชนีให้สลับอ่อนตัวลง

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

  • กลุ่มค้าปลีก (CRC, CPN, HMPRO, GLOBAL, COM7) และกลุ่มโรงแรม (CENTEL, MINT, ERW) คาดครม.ผ่อนปรนมาตรการ Lockdown หลังยอดผู้ติดเชื้อ Covid-19 ในไทยชะลอตัวลงต่อเนื่อง
  • กลุ่มที่ได้รับผลกระทบจาก Covid-19 ค่อนข้างน้อย ICT (ADVANC, INTUCH, DTAC) กลุ่มอาหาร (CPF)
  • กลุ่มที่คาดว่างบ 1Q20 จะปรับตัวขึ้น (CPF, IVL, BCPG, RS)

หุ้นแนะนำวันนี้

  • CRC (ปิด 36.25 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 38) ทยอยสะสมคาดหวังภาครัฐประกาศผ่อนคลายมาตรการ Lockdown ในสัปดาห์นี้หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อ Covid-19 ในไทยทยอยลดลงอย่างต่อเนื่อง เราคาดว่ากลุ่มธุรกิจห้างสรรพสินค้า และกลุ่มร้านอาหารน่าจะถูกจัดเป็นกลุ่มธุรกิจสีเขียวซึ่งมีสิทธิได้กลับมาเปิดก่อน
  • INTUCH (ปิด 52.5 ซื้อ/เป้า 78) ผลประกอบการยังแข็งแกร่งคาดมีกำไรสุทธิ 1Q20 ที่ 2.6 พันล้านบาทเพิ่มขึ้น 36%qoq แต่หดตัว 9%yoy ราคาหุ้นถูกกดดันจากกลุ่มเทมาเสกทยอยลดสัดส่วน ทำให้ราคาหุ้นปัจจุบันยังไม่สะท้อน NAV ที่ INTUCH ลงทุนใน ADVANC และ THCOM ซึ่งในอดีตมูลค่าหุ้น INTUCH จะ Discount จาก NAV ประมาณ 20-25% แต่ปัจจุบันมี Discount ถึง 33% จึงน่าซื้อ

บทวิเคราะห์วันนี้

CKP (ปิด 3.62 ซื้อ/เป้าใหม่ 4.5 เดิม 4.7), DTAC (ปิด 45 ซื้อ/เป้า 64)

ประเด็นสำคัญวันนี้

  • (+) ดาวโจนส์บวกต่อ รับข่าวสหรัฐเริ่มผ่อนคลายมาตรการ lockdown, น้ำมันยังเพิ่มขึ้นหลังจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี: เมื่อวันศุกร์ดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 260 จุด (+1.1%) ปิดที่ระดับ 23,775 จุด รับข่าวสหรัฐเริ่มผ่อนคลายมาตรการ lockdown โดยรัฐจอร์เจียเป็นรัฐแรกของสหรัฐที่ผ่อนคลายมาตรการ lockdown และอนุญาตให้ธุรกิจขนาดเล็กสามารถเปิดทำการได้ตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามยังต้องติดตามการแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 ในสหรัฐอย่างใกล้ชิดเนื่องจากในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 3.8 หมื่นรายมากที่สุดนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดในสหรัฐซึ่งอาจจะทำให้การผ่อนคลาย lockdown ของรัฐอื่นๆล่าช้าออกไป ส่วนตลาดน้ำมันราคาน้ำมันดิบยังฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องเมื่อวันศุกร์ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้นอีก 44 เซนต์ (+2.7%) ปิดที่ระดับ 16.94 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ตอบรับรายงานตัวเลขแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบในสหรัฐลดลง 64 แท่นเป็น 465 แท่นต่ำสุดในรอบ 3 ปี และมีแนวโน้มจะลดลงอีก โดยมีการคาดการณ์ว่า ณ สิ้นปี 63 สหรัฐจะเหลือแท่นการผลิตน้ำมันดิบเพียง 200 แท่น
  • (-) สหรัฐตัดสิทธิ GSP สินค้าไทย 573 รายการเริ่มมีผลตั้งแต่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา คาดกระทบภาคส่งออกและบริษัทจดทะเบียนไทยจำกัด: เมื่อวันที่ 25 ต.ค. 19 สหรัฐประกาศตัดสิทธิ GSP สินค้าไทยจำนวน 573 รายการ โดยให้มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา การถูกตัดสิทธิจะทำให้ไทยสูญเสียความสามารถในการแข่งขัน เนื่องจากจะมีต้นทุนส่งออกสูงขึ้นเพราะสินค้าไทยจะถูกสหรัฐเก็บภาษีนำเข้าทันที่ที่มาตรการบังคับใช้ อย่างไรก็ตามคาดผลกระทบต่อภาคการส่งออกรวมค่อนข้างจำกัด โดยกระทรวงพาณิชย์คาดว่าสินค้าไทยที่ถูกตัดสิทธิจะมีอัตราภาษีเพิ่มขึ้นเฉลี่ยเพียง 4.7% หรือคิดเป็นยอดภาษีรวมประมาณ 1,500-1,800 ล้านบาท เท่านั้น ด้านบริษัทจดทะเบียนอาจจะมี Sentiment ลบโดยเฉพาะบริษัทที่มีสัดส่วนการส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐ อาทิ CPF(1%) TU(2%), STA(5%), ASIAN CFRESH(ประมาณ10-20%), MALEE TIPCO SAPPE(ประมาณ 10%) DELTA HANA KCE (ประมาณ 10-25%) อย่างไรก็ตามคาดผลกระทบต่อผลการดำเนินงานค่อนข้างจำกัดเนื่องจากผู้ประกอบการมีเวลาปรับตัวมาแล้ว 6 เดือน และส่วนใหญ่แทบจะไม่ได้สิทธิ GSP จากสหรัฐอยู่แล้ว และหากได้รับสิทธิ GSP ก็มีอัตราภาษีเพิ่มขึ้นเท่าที่กระทรวงพาณิชย์ระบุ (4.5%)ซึ่งถือว่าไม่มาก
  • (-) จำนวนผู้ติดเชื้อ Covid-19 ในไทยพุ่งสูงในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาแต่ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มแรงงานต่างด้าว เรายังมองบวกและคาดหวังภาครัฐผ่อนคลายมาตรการ lockdown:แม้ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาประเทศไทยจะมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีกกว่า 60 รายโดยเฉพาะวันเสาร์วันเดียวมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นถึง 53 ราย อย่างไรก็ตามจากการตรวจเช็คข้อมูลโดยละเอียดพบว่าจำนวผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่พุ่งขึ้นดังกล่าวมาจากกลุ่มแรงงานต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมือง อ.สะเดา จ.สงขลา หากตัดรายการดังกล่าวออกจะมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่ทำการตรวจปกติเพิ่มขึ้นเพียง 11 ราย ส่วนวันอาทิตย์แม้จะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 15 ราย แต่โดยรวมถือว่าทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ จึงเป็นไปได้สูงที่การประชุมของภาครัฐในสัปดาห์นี้จะมีการประกาศผ่อนคลายมาตรการ lockdown ซึ่งจะส่งผลบวกต่อภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องอาทิ ห้างฯ ร้านอาหาร ร้านวัสดุก่อสร้าง และร้านสะดวกซื้อ