ครม.ต่ออายุข้อบังคับต่อต้านการฟอกเงินเอเชียแปซิฟิก
ครม.ต่ออายุกรอบข้อบังคับต่อต้านการฟอกเงินเอเชียแปซิฟิก(APG) ตัดเส้นทางการเงินกลุ่มก่อการร้ายและอาวุธอานุภาพทำลายล้างสูง
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยเมื่อวันที่ 5 พ.ค. 63 ว่า คณะรัฐมนตรีเห็นชอบการต่ออายุกรอบข้อบังคับของกลุ่มต่อต้านการฟอกเงินเอเชียแปซิฟิก (Asia/Pacific Group on Money Laundering - APG) ซึ่งกลุ่ม APG เป็นองค์การระหว่างประเทศก่อตั้งเมื่อ ปี พ.ศ.2540 โดยปัจจุบันมีประเทศสมาชิกรวมทั้งสิ้น 41 ประเทศ มีภารกิจหลักในการต่อต้านการฟอกเงิน การต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกโดยให้เป็นมาตรฐานสากล
นางสาวรัชดา กล่าวว่า กรอบข้อบังคับที่ประเทศสมาชิกต้องปฏิบัติ เช่น 1. ตระหนักถึงความจำเป็นที่ต้องมีมาตรการในการต่อต้านการฟอกเงิน 2. ประเมินระดับมาตรฐานภายในประเทศว่าสอดคล้องกับมาตรฐานสากลมากน้อยเพียงใดผ่านการประเมินร่วมกันของประเทศสมาชิก 3. จัดให้มีการออกกฎหมายเพื่อต่อต้านการฟอกเงิน และการออกมาตรการต่างๆ ตามมาตรฐานสากล
และ 4. ประสานงานและการให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกันระหว่างประเทศ ซึ่งมีระยะเวลา 8 ปี และจะสิ้นผลบังคับใช้ในเดือนธันวาคมปีนี้ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) จึงจำเป็นต้องเสนอขอความเห็นชอบต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อต่ออายุกรอบข้อบังคับไปอีกรอบหนึ่ง คือ พ.ศ. 2564-2571 ซึ่ง ป.ป.ง. ได้ประมาณการรายจ่ายค่าสมาชิกของกลุ่มฯ ไว้แล้ว รวม 13.5 ล้านบาท
สำหรับผลการประเมินของประเทศไทย ล่าสุดเมื่อปี 2560 มีการดำเนินการด้านกฎหมายที่สอดคล้องกับมาตรฐานสากลจำนวน 27 ข้อ จาก 40 ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการปรับปรุงในข้อด้อย และในส่วนของ ป.ป.ง. จะต้องจัดทำรายงานส่งกลุ่มAPGตามรอบการประเมินทุกปี เมื่อตุลาคมปีที่แล้ว คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบร่างกฎกระทรวงการตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงกับลูกค้า เป็นการยกระดับมาตรฐานการทำงานของ ป.ป.ง. ในการปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้าที่มีความเสี่ยงด้านการฟอกเงิน/สนับสนุนการเงินแก่ผู้ก่อการร้าย ให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล