'อินทัช' คงนโยบายปันผลดึงนักลงทุน

นางสาวทมยันตี คงพูลศิลป์ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยอาวุโส ส่วนงานบริหารการลงทุนและการลงทุนสัมพันธ์ บมจ. อินทัช โฮลดิ้งส์(INTUCH) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่ารายได้ปีนี้จะปรับตัวลดลงจากปีก่อน เนื่องจากผลการดำเนินงานบริษัทที่ INTUCH เข้าไปลงทุน เช่น บมจ. แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส(ADVANC)  ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เช่นเดียวกับ บมจ.ไทยคม (THCOM)

ทั้งนี้ บริษัทยังคงนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราเหมือนเดิม คือจ่ายจากเงินปันผลส่วนใหญ่ที่ได้รับจากบริษัทร่วมและบริษัทย่อย หลังหักค่าใช้จ่ายะจ่ายให้กับผู้ถือหุ้นทั้งหมด เพราะเงินปันผลเป็นปัจจัยสำคัญที่นักลงทุนระยะยาวให้ความสำคัญ  ส่วนกรณีที่อดีตผู้ถือหุ้นใหญ่ "เทมาเส็ก" ได้ทยอยขายหุ้นของบริษัทออกไป เหลือ 5.2%  ไม่สามารถตอบได้ว่าจะมีการขายออกไปอีกหรือไม่ ประเด็นนี้ ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบริหารงาน หรือผลการดำเนินงานของบริษัท

สำหรับธุรกิจร่วมลงทุนภายใต้โครงการอินเว้นท์ ยังมองหาโอกาสลงทุนต่อเนื่อง โดยจะเน้นต่างประเทศมากขึ้น เช่น ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย และอิสราเอล โดยไตรมาสแรกปีนี้ บริษัทได้เข้าลงทุนแล้ว 3 บริษัท รวม 100 ล้านบาท โดยบริษัทตั้งงบลงทุนปีละ 200 ล้านบาท ตั้งเป้าปี 2565-2567 มีมูลค่าพอร์ตลงทุนเพิ่มขึ้นเป็น2,500 ล้านบาท จากปัจจุบัน 1,208 ล้านบาท

นางสาวนัฐยา พัวพงศกร หัวหน้าฝ่ายงาน นักลงทุนสัมพันธ์และกำกับการดูแลปฎิบัติงาน ADVANC กล่าวว่า คาดผลประกอบการในช่วงไตรมาส 2 ปี2563 จะปรับตัวลดลงต่ำสุดของปีนี้ เนื่องจากมีแรงกดดันจากมาตรการอินเทอร์เน็ตฟรี 10 กิกะไบต์ (GB) และโทรฟรี 100 นาที เพื่อช่วยเหลือประชาชนในช่วงวิกฤติโควิด-19 ซึ่งมาตรการโทรฟรี 100 นาทีนั้น บริษัทจะไม่ได้รับเงินชดเชย จึงกระทบต่อรายได้พอสมควร

อย่างไรก็ตาม ปีนี้บริษัทยังเดินหน้าลงทุนขยายโครงข่ายการให้บริการในระบบ 4G และ5G ด้วยงบ 35,000-40,000 ล้านบาท เน้นลงทุนการขยายโครงข่าย 5G ในคลื่น 2600MHz เป็นหลัก