CHG - ซื้อ
แนวโน้มใน 2H63 ยังดูแข็งแกร่ง
Event
Conference call หลังรายงานผลประกอบการงวด 1Q63
lmpact
คาดว่าผลการดำเนินงานใน 2Q63 จะแผ่วลง QoQ
เรามองแนวโน้มผลประกอบการของ CHG ใน 2Q63 จะอ่อนแอลง QoQ เหมือนกับโรงพยาบาลอื่น ๆเพราะเราคิดว่าผลกระทบจาก COVID-19 จะหนักสุดในเดือนเมษายน อย่างไรก็ตาม เราคิดว่า CHG จะได้รับผลกระทบด้านลบเบากว่าโรงพยาบาลอื่น ๆ เพราะรายได้จากผู้ป่ วยต่างชาติคิดเป็นสัดส่วนแค่ 3% เท่านั้น (ในขณะที่ของ BH สูงถึง 66% และ BDMS อยู่ที่ 33%) ดังนั้น เราจึงคาดว่าผลประกอบการของ CHG ใน 2Q63 จะเป็นตรมาสที่ต่ำสุดของปี แต่คาดว่าผลประกอบการน่าจะทรงตัว YoY เนื่องจากในงวด 2Q62 ถูกกระทบจาก i) SSO จ่าย HCC ต่ำกว่าที่คาด และ ii) มีการตั้งสำรองผลประโยชน์พนักงาน
จำนวน 16 ล้านบาท
แนวโน้มทางบบวกของโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 304 และ RPC ยังคงเหมือนเดิม
รายได้จากโรงพยาบาลใหม่สองแห่งของ CHG (จุฬารัตน์ 304 & รวมแพทย์ ฉะเชิงเทรา) คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 7% ของรายได้รวมใน 1Q63 เรายังเชื่อว่าผลการดำเนินงานจะดีขึ้นต่อเนื่องในอีกสองสามปีข้างหน้า ถึงแม้ว่าการระบาดของ COVID-19 จะทำให้ต้องใช้เวลานานขึ้นกว่าจะถึงจุดคุ้มทุน แต่เรายังคง
คิดว่าโรงพยาบาลทั้งสองแห่งจะถึงจุดคุ้มทุนได้ภายใน 2H63 หลังจากที่ส่งผลขาดทุนสุทธิมาที่ CHG เพียงแค่ 20 ล้านบาทเท่านั้นใน 1Q63 นอกจากนี้ CHG ยังตั้งเป้าจะเปิดโรงพยาบาลใหม่อีกสองแห่ง (ศูนย์มะเร็งสุวรรณภูมิ & จุฬารัตน์ แม่สอด) ภายในสิ้นปี 2564 ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้จากผู้ป่วยที่ชำระเงิน
สดในระยะยาว
คงประมาณการกำไรเอาไว้เท่าเดิม
สำหรับใน 2H63 เรายังคงมองบวกกับแนวโน้มธุรกิจของ CHG เนื่องจาก i) เข้าสู่ช่วงที่ผลประกอบการแข็งแกร่งตามฤดูกาล (หน้าฝนและหน้าหนาว) ii) มี pent-up demand มาจาก 1H63 (จากการเลื่อนมาใช้บริการเพราะโรคระบาด) iii) ได้อานิสงส์จากการปรับขึ้นอัตราค่ารักษาประกันสังคม และ iv) ไม่ถูก
กระทบจากประเด็น HCC ในปีนี้ ส่วนผลประกอบการใน 1Q63 คิดเป็น 21.4% ของประมาณการกำไรปีนี้ของเรา ดังนั้น เราจึงยังคงประมาณการกำไรสุทธิของ CHG ในปี 2563 เอาไว้ที่ 872 ล้านบาท (+23.7%YoY) และปี 2564 ที่ 938 ล้านบาท (+7.6% YoY)
Valuation & Action
เรายังคงชอบ CHG เนื่องจากอานิสงส์ของการที่ SSO ปรับขึ้นค่ารักษาพยาบาลในปีนี้ นอกจากนี้ CHG ก็ยังดูดีกว่าหุ้นอื่นในกลุ่มเพราะสัดส่วนรายได้จากผู้ป่ วยต่างชาติต่ำกว่า ในขณะที่ ROE ค่อนข้างสูงที่ 18-19% (เมื่อเทียบกับโรงพยาบาลอื่น ๆ ที่ 8-16%) เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ และให้ราคาเป้าหมาย DCF ปี
2563 ที่ 3.10 บาท (ใช้ WACC ที่ 7.9% และ TG ที่ 3.0%) เราเลือก CHG เป็นหุ้นเด่นของเราในกลุ่มนี้
Risks
การแทรกแซงของรัฐบาล ปัญหาเสถียรภาพทางการเมืองรอบใหม่ของไทย เกิดเหตุก่อการร้ายครั้งใหญ่