ลุ้นทดสอบ 1,400 จุด

รวมทั้ง ราคาน้ำมันที่ฟื้นตัวแรงช่วยหนุนกลุ่ม ENERG นอกจากนี้ เริ่มเห็นสัญญาณนักลงทุนต่างชาติเริ่มกลับมาซื้อต่อเนื่องอีกครั้ง ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,374.18 จุด (+21.81 จุด) Volume 7.1 หมื่นลบ. ต่างชาติ +2,089.51 ลบ. TFEX Net +3,186 สัญญา ตราสารหนี้ +5,893 ลบ.

ปัจจัยบวก / ปัจจัยลบ

+ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 527.24 จุด +2.05% ขานรับตัวเลขจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐดีกว่าคาด และคาดการณ์ศก.สหรัฐจะฟื้นตัวหลังจากรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์

+การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐลดลง 2.76 ล้านตำแหน่งในเดือนพ.ค. ดีกว่าที่คาดว่าจะลดลง 8.75 ล้านตำแหน่ง และดีกว่าในเดือนเม.ย.ที่ย่ำแย่

+ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดบวก 48 เซนต์ +1.3% ปิดที่ 37.29 ดอลลาร์/บาร์เรล ขานรับรายงานสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดมากกว่าคาด แม้มีปัจจัยกดดันจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการประชุมของกลุ่มโอเปก

 +/-ดัชนี PMI ภาคบริการขั้นสุดท้ายของสหรัฐดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 37.5 ในเดือนพ.ค. จาก 26.7 ในเดือนเม.ย. แต่ดัชนีต่ำกว่า 50 บ่งชี้ถึงภาวะหดตัว

+ISM เผยดัชนีภาคบริการสหรัฐดีดตัวสูงกว่าคาดในเดือนพ.ค.

+ดัชนี PMI ภาคบริการยูโรโซนฟื้นตัว หลังดิ่งต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

-สหรัฐเตรียมแบนสายการบินจีนหวังกดดันจีนเปิดทางสายการบินสหรัฐเข้าประเทศ

+/- เช้าดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิด +8.47 จุด

+เช้านี้ดัชนีนิกเกอิเปิด +271.38 จุด ขานรับข้อมูลจ้างงานสหรัฐดีกว่าคาด

-Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD 1.90 แสนลบ. ค่าเงินบาท 31.56 บาท/US

*จับตาการประชุมสภาฯวันแรกพิจารณาร่างพ.ร.บ.โอนงบประมาณรายจ่ายวงเงินกว่า 8.8 หมื่นล้านบาท สหรัฐเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดุลการค้าเดือนเม.ย. และผลิตภาพ-ต้นทุนแรงงานต่อหน่วยไตรมาส 1/2563 การประชุมกลุ่มโอเปกหารือขยายเวลาลดกำลังการผลิต และการประชุม ECB

 

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวขึ้นตามทิศทางตลาดโลก โดยตลาดคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรํฐมจะเริ่มฟื้นตัวขึ้นหลังผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ประกอบกับราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,370-1,400 จุด

หุ้นรายงานพิเศษ

SSP Analyst  meeting (ซื้อ Bloomberg consensus 9.51)

        โรงไฟฟ้ายามากะ ประเทศญี่ปุ่น กำลังการผลิต 30 เมกะวัตต์ ขายไฟก่อนกำหนดดันกำลังการผลิตไฟฟ้าในมือเพิ่มขึ้นเป็น 135 เมกะวัตต์ หนุนผลงานปี 2563 นิวไฮ พร้อมตั้งเป้า 3-5 ปี ข้างหน้า กำลังการผลิตแตะ 400 เมกะวัตต์ เดินหน้าลงทุนไม่หยุด (ที่มาทันหุ้น)

        การเติบโตในอนาคต อยู่ระหว่างพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนอีก 3 โครงการ 1) Leo (26MW, COD3Q21) 2)โรงไฟฟ้าพลังลมเวียดนาม(48MW, COD3Q21) และ3) Leo2 (14MW, COD 3Q22) ซึ่งทั้ง 3 โครงการจะเข้ามาช่วยหนุนการเติบโตในปี 20-22 ต่อไป นอกจากนี้อยู่ระหว่างการศึกษาโรงไฟฟ้าพลังลมที่เวียดนามอีก 40 MW

        ความเห็น เรามีมุมมองเชิงบวกต่อผลประกอบการใน 2Q63 เนื่องจากเข้าสู่ฤดูร้อนทั้งในไทย เวียดนาม และญี่ปุ่นซึ่งจะปริมาณการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าช่วยหนุนราคาขายต่อหน่วยของเวียดนามและญี่ปุ่นให้สูงขึ้น ขณะที่ต้นทุนการผลิตส่วนใหญ่เป็นต้นทุนคงที่ เราจึงแนะนำ ซื้อ

 

กลยุทธ์การลงทุน

• หุ้นที่มีแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2 ดี (WICE TASCO CPF)
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากรัฐออกแพคเกจกระตุ้นเที่ยวในประเทศ (ERW CENTEL AOT AAV BA)
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากมาตรการผ่อนคลาย Lockdown เฟส 3 (SPA MAJOR CRC CPN SF HMPRO)

หุ้นมีข่าว   

(+) DDD (Bloomberg Consensus 13.60 บาท)  วางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่ IONIE เครื่องฟอกอากาศพกพาจากเกาหลี ลั่นครึ่งปีหลังวางแผนรุกห้างสรรพสินค้า-ช่องทางออนไลน์ เชื่อบุ๊กรายได้ “คิวรอน” หนุนผลงานปีนี้โต ฟากบอร์ดได้กำหนดมาตรการและแนวทางปฏิบัติในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นฯ วันที่ 19 มิ.ยนี้ (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) DEMCO (Bloomberg Consensus 2.85 บาท)   เซ็นรับงานก่อสร้าง ติดตั้ง และทดสอบระบบไฟฟ้า “โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่” มูลค่า 132.68 ล้านบาท  โชว์แบ็กล็อกแน่นกว่า 3,707 ล้านบาท พร้อมลุยประมูลงานภาครัฐและเอกชนมูลค่ารวม 5 หมื่นล้านบาท (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+/-) SGP (Bloomberg Consensus -บาท)   เผยคงเป้ายอดขาย LPG ปีนี้ 4 ล้านตัน โต 5-6% จากปีก่อน หลังคำสั่งซื้อลูกค้าเริ่มกลับสู่ภาวะปกติ พร้อมลุยนำเข้า LNG ภายใน 1-2 ปีนี้ ล่าสุดเตรียมทุ่ม 6 พันล้านบาท เดินหน้าสร้างคลัง LNG หนองแฟบ มาบตาพุด (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) J (Bloomberg Consensus - บาท) ผลงานมีสิทธิ์พลิกกลับมาบวกครึ่งแรกปี 2563 หลังไตรมาส 1 ทำไว้ดี ธุรกิจอสังหามียอดรอโอนอีก ด้านซีอีโอยิ้มคลายล็อกดาวน์ ดันรายได้ค่าเช่าฟื้นตัว ดีเดย์เปิดห้าง "เดอะแจส อมตะนคร" ช่วง Q3/2563 อัพฐานโกยเงินเพิ่ม (ที่มา ทันหุ้น)

(+) NER (Bloomberg Consensus 3.03 บาท)   เผยโรงงานใหม่เริ่มผลิตไตรมาส 3/2563 ราว 70% คาดเดินเครื่องเต็ม 100% ปีหน้า มองธุรกิจยางปีนี้เป็นปีที่ดี ดีมานด์ยางทยอยฟื้นตัวโดยเฉพาะตลาดจีน รับออเดอร์ลูกค้าใหม่ 2 ราย กำลังการผลิตราว 7.2 หมื่นตันต่อปี จ่อบุ๊กรายได้โครงการผลิตก๊าซชีวภาพไตรมาส 2/2563 นี้ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) กลุ่มนิคมปลื้มคมนาคมเดินเครื่องโครงสร้างพื้นฐาน-สาธารณูปโภค EEC เร่งพัฒนา 168 โครงการ 9.8 แสนล้านบาท พร้อมรับอานิสงส์ลดภาษีที่ดิน 90% กูรูชี้ทำให้กลุ่มนิคมกล้าซื้อที่ดินพัฒนารอรับต่างชาติย้ายฐานหนีภัยสงครามการค้า ชู WHA เด่นกระจายพอร์ตการลงทุน เคาะเป้า 4.89 บาท ด้าน AMATA ตุน Backlog รอโอนสูงสุดเป้า 35.70 บาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+/-) SAWAD (Bloomberg Consensus 55.15 บาท) แปลงวอร์แรนต์ SAWAD-W1 คึกคัก ได้เงินเพิ่มทุนกว่า 1,789 ล้านบาท หนุนฐานะแข็งแกร่ง กดสัดส่วนหนี้สินต่อทุนเหลือ 1.2 เท่า กลุ่มแก้วบุตตาควัก 1.3 พันล้านบาท เพื่อใช้สิทธิ ชี้นักลงทุนเชื่อมั่นธุรกิจ ระบุสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 แค่ผลกระทบช่วงสั้น (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) SELIC (ราคาเหมาะสม - บาท)  ยิ้มรับสติกเกอร์กาวกลุ่มอาหาร-เครื่องดื่มขายดี ช่วงโควิด-19 ระบาด หนุนยอดขายพุ่งพรวด เล็งส่งสติกเกอร์ใหม่ในกลุ่มอาหารแช่แข็งทำเงินต่อ คาดชัดเจนไตรมาส 3/2563 ชี้ลูกค้าอุตสาหกรรมรองเท้า เครื่องหนัง กลับสู่ภาวะปกติ เล็งปรับตัวเลขยอดขายจากต้นปีที่ตั้งเป้าโต 10% พร้อมบริหารเงินสดในมือ 114 ล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)