'ศุภาลัย' ชี้คนรุ่นใหม่อยากอยู่บ้าน

นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงการพลิกกลยุทธ์การสื่อสารหลังการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่(โควิด-19) ว่า ได้ใช้ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์มากว่า 30 ปี ครอบคลุมที่พักอาศัย ทั้งคอนโดมิเนียม และแนวราบ ในกรุงเทพฯ ปริมณฑล รวมถึงจังหวัดสำคัญทั่วทุกหัวเมืองภูมิภาค ทำให้มีโอกาสสัมผัสกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าหลากหลาย จนตกผลึกความเข้าใจในความต้องการที่แท้จริง(insight) ของคนซื้อบ้าน นำไปสู่การปรับกลยุทธ์การตลาดให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปในยุคภาวะปกติใหม่ (New Normal)

 ทั้งนี้จากการสำรวจความต้องการของลูกค้า เพื่อนำความต้องการมาพัฒนาด้านการออกแบบบ้านจากประสบการณ์จริงในการใช้ชีวิต พบว่ามีแนวคิดเปลี่ยนไปจากจากความชื่นชอบอยู่อาศัยในห้องชุดพักอาศัย หรือโครงการคอนโดมิเนียมปรับมาสู่บ้านที่มีพื้นที่ส่วนตัวสำหรับทุกคนในครอบครัวมากขึ้น ดังนั้นการออกแบบที่อยู่อาศัยจึงต้องเหมาะสมกับการใช้งานเพื่อรองรับทุกกิจกรรมของครอบครัว ตลอดจนประเทศไทยเป็นเมืองร้อน การวางผังโครงการจึงให้ความสำคัญกับทิศทางลม และเลือกใช้วัสดุที่ทำให้บ้านเย็นสบายและประหยัดพลังงาน

“สิ่งที่ศุภาลัยค้นพบจากประสบการณ์ของผู้อยู่อาศัยจริงคือคำตอบของผู้ที่ตัดสินใจซื้อบ้าน กลับไม่ได้มองหาแค่บ้านหลังแรก แต่ต้องการบ้านที่สามารถอยู่ได้ตลอดชีวิต ดังนั้นพื้นที่อยู่อาศัยจึงต้องตอบโจทย์ให้สมาชิกทุกคนในบ้านได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน อีกทั้งสมาชิกในบ้านต้องการความเป็นส่วนตัว จึงเลือกใช้วัสดุที่ป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอกบ้าน ใช้โครงสร้างอิฐมวลเบาเพื่อรองรับการปรับเปลี่ยนในอนาคต”

เขายังกล่าวว่า จากความต้องการดังกล่าว นำไปสู่การออกแบบที่อยู่อาศัยให้รองรับวิถีชีวิตของคนในครอบครัวและวางแผนการสื่อสาร สร้างการรับรู้ไปสู่ผู้บริโภค ให้จดจำแบรนด์ของบริษัท คือแบรนด์ที่เข้าใจความต้องการที่อยู่อาศัยเชิงลึก ผ่านภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ล่าสุด “บ้านที่คิดจากชีวิตจริง” โดยเจาะกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการมองหาบ้านที่ตอบโจทย์สมาชิกทุกคนในครอบครัวถือเป็นแคมเปญส่งเสริมการตลาดโครงการแนวราบ ซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์ของบริษัทฯ ที่ต้องการรุกตลาดแนวราบ จึงเปิดตัวบ้านแนวราบถึง 25โครงการจากแผนเปิดตัวปี 2563 ทั้งหมด 30 โครงการ

 “โดยสร้างภาพยนตร์ชุดนี้ ต้องการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่เป็นหลัก เพราะการตัดสินใจซื้อบ้านสักหลังสำหรับลูกค้าเป็นเรื่องใหญ่ในชีวิต จึงเลือกนำเสนอให้ไกลกว่าเรื่องฉาบฉวยอย่างไลฟ์สไตล์หรูหรา หรือการตกแต่งตามสมัยนิยม แต่เลือกที่จะทำการสื่อสารไปที่แก่นแท้ของวิถีชีวิตในความเป็นจริงที่ใช้กันอยู่ในชีวิตประจำวัน ซึ่งเรื่องราว นำเสนอในมุมมองที่แตกต่าง มุ่งเน้นที่ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตร่วมกันในบ้าน ได้แก่ การทำงานบ้าน การทำอาหาร การใช้เวลาร่วมกัน ซึ่งถึงแม้ว่าอาจจะมีความวุ่นวายแต่ก็เต็มไปด้วยความสุข นี่คือสิ่งที่สวยงามที่สุดสำหรับผู้พักอาศัยในบ้านที่ต้องการชี้ให้เห็นความหมาย" นายไตรเตชะ กล่าว