กพท.คาดผ่อนผันบินระหว่างประเทศ 1 ก.ค. ไม่บังคับขายตั๋วเว้นที่นั่ง

กพท.คาดผ่อนผันบินระหว่างประเทศ 1 ก.ค. ไม่บังคับขายตั๋วเว้นที่นั่ง

กพท.หารือ 10 แอร์ไลน์ เตรียมพร้อมบินระหว่างประเทศ คาด 1 ก.ค.นี้ ผ่อนผันบางประเทศ ให้นักธุรกิจหรือกลุ่มเสี่ยงน้อยเข้าไทยได้ ไม่บังคับสายการบินขายตั๋วเว้นที่นั่ง

รายงานข่าวจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ระบุว่า กพท.ประเมินเบื้องต้นว่าอาจขยายเวลาการห้ามอากาศยานทำการบินเข้าไทยต่อ 1 เดือนจากเดิมสิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.2563 เป็นวันที่ 31 ก.ค.2563

แต่อาจยกเว้นให้บางประเทศและผู้โดยสารบางกลุ่มเดินเข้าไทยได้ โดยระยะแรกเป็นประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำและเป็นกลุ่มคนที่มีอาชีพนักธุรกิจก่อน ซึ่ง กพท.อยู่ระหว่างรอการผ่อนปรนเงื่อนไขจากการพิจารณาของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด -19 (ศบค.) ที่คาดว่าจะประกาศในสัปดาห์นี้

นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการ กพท.กล่าวว่า กพท.ชี้ชัดไม่ได้ว่าวันที่ 1 ก.ค.นี้ จะอนุญาตทำการบินระหว่างประเทศหรือไม่ เพราะต้องผ่านการพิจารณาของกระทรวงสาธารณสุขด้วย เพื่อประเมินความปลอดภัย และเจรจาจับคู่ประเทศที่จะอนุญาตร่วมกัน

ทั้งนี้การพิจารณาเปิดบินเส้นทางระหว่างประเทศต้องคำนึง 2 ปัจจัยได้แก่

1.พิจารณาเชิงประเทศ ว่ามีความปลอดภัยในการเดินทาง และเปิดให้คนไทยเดินทางหรือไม่

2.พิจารณากลุ่มเดินทางที่จำเป็นและมีความเสี่ยงน้อยที่สุด เช่น กลุ่มนักธุรกิจ ซึ่งหากจะเดินทางต้องตรวจเช็คสุขภาพจากบริษัทต้นสังกัดมาแล้ว ดังนั้นจะปลอดภัยกว่าหากเทียบกับกลุ่มนักท่องเที่ยว

การประเมินเปิดบริการเส้นทางบินจะพิจารณาความเหมาะสมของประเทศปลายทาง โดยกระทรวงสาธารณสุขจะประสานมายัง กพท.เพื่อให้แจ้งสายการบินทราบประเทศปลายทางที่เดินทางได้ รวมทั้งแจ้งให้สายการบินรับทราบมาตรการที่ประเทศปลายทางบังคับปฏิบัติ เพื่อให้สายการบินประเมินความต้องการเดินทางจะคุ้มค่าหรือไม่

นายจุฬา กล่าวว่า การหารือกับสายการบินครั้งนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมให้บริการเส้นทางบินระหว่างประเทศ หากไทยปลดล็อคการเดินทางดังกล่าว ซึ่ง กพท.ใช้มาตรการตามระเบียบข้อกำหนดขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ไอเคโอ) ซึ่งถือเป็นมาตรฐานที่บังคับใช้สากล เช่น ข้อกำหนดสายการบินไม่ต้องเว้นที่นั่ง แต่ต้องเข้มงวดเรื่องระบบกรองอากาศ รวมทั้งเข้มงวดผู้โดยสารต้องสวมหน้ากากตลอดการเดินทาง

ขณะเดียวกันมีประเด็นที่สายการบินกังวล คือ การบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน ในเส้นทางที่ต้องทำการบินเกิน 2 ชั่วโมง โดย กพท.กำหนดตามมาตรฐานไอเคโอที่อนุญาตให้บริการได้ แต่ต้องเสิร์ฟภายในภาชนะปิดเพื่อลดการสัมผัสระหว่างลูกเรือและผู้โดยสาร และเสิร์ฟหลังทำการบินแล้ว 2 ชั่วโมง

ไม่บังคับขายตั๋วที่นั่งเว้นที่นั่ง

นายจุฬา กล่าวว่า กพท.เตรียมข้อกำหนดการสำรองที่นั่ง 3 แถวหลังสุดท้ายด้านใดด้านหนึ่งของอากาศยานไว้สำหรับแยกกักผู้ป่วยหรือสงสัยว่าจะป่วย เพื่อเฝ้าสังเกตอาการและป้องกันการกระจายโรค ซึ่งการประชุมได้สรุปในหลักการให้การบิน 1 ชั่วโมง ไม่ต้องสำรองที่นั่งส่วนนี้ เช่น เส้นทางไปประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งให้สายการบินประเมินความเสี่ยงแต่ประเทศ เพื่อพิจารณาสำรองที่นั่งได้

“วันนี้เรามาเตรียมความพร้อมเพราะถ้าจะประกาศให้กลับมาเปิดบินระหว่างประเทศได้ สายการบินต้องมีมาตรการรองรับ มีแนวทางปฏิบัติ ซึ่งยึดหลักของไอเคโอ และเรื่องเว้นที่นั่งไอเคโอก็ยกเว้นเพราะประเมินว่าต้องมีโหลดแฟกเตอร์ 77% จึงจะคุ้ม หากจะกำหนดให้เว้นระยะห่างและเหลือที่นั่ง 70% จะขาดทุนไม่คุ้มต่อการเปิดบิน”

ทั้งนี้ สายการบินยังตอบไม่ได้ว่าเส้นทางไหนที่พร้อมเปิดบริการก่อน เพราะต้องดูมาตรการด้านสาธารณสุขที่ไทยและประเทศปลายทางกำหนดต่อกัน ประเด็นนี้จะมีผลต่อความต้องการเดินทางของผู้โดยสาร หากมีมาตรการบังคับตรวจเยอะ ผู้โดยสารอาจไม่เดินทาง และสายการบินอาจไม่เปิดบิน

สำหรับสถานการณ์การบินในปีนี้ กพท.ประเมินว่าจะมีปริมาณผู้โดยสารลดลง 70% เมื่อเทียบกับปี 2562 ที่มีผู้โดยสารราว 165 ล้านคน โดย กพท.ประเมินว่าเดือน ก.ย.นี้ จะเห็นการเดินทางของเส้นทางบินระหว่างประเทศกลับมาให้บริการ เพราะต่างประเทศเริ่มทยอยประกาศเปิดประเทศรองรับไฮซีซั่นของการท่องเที่ยว