'ศุภาลัย'งัดที่ดินเก่าสู้โควิด ชูราคาปลุกคอนโดขาลง

นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงการพัฒนาโครงการหลังจากสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 ว่า ส่งผลให้รูปแบบการใช้ชีวิตคนเปลี่ยนเป็นวิถีชีวิตใหม่ (New Normal) ทำให้ความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยเปลี่ยนไป มองหาราคาที่คุ้มค่าสอดคล้องกับกำลังซื้อยุคเศรษฐกิจชะลอตัว 

 ทำให้นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ต้องทำสินค้าตอบโจทย์กำลังซื้อผู้บริโภค ที่มองหาต้นทุน ทำเล และสอดคล้องกับการใช้ชีวิต จึงนำที่ดินสะสม 3 ไร่ในย่านบางหว้า ซึ่งซื้อสะสมไว้ตั้งแต่ 4-5 ปีที่ผ่านมา ในราคา 1.4 แสนบาทต่อตารางวา(ตร.ว.) ที่ ณ ปัจจุบันจะขายที่ดินราคา 3 แสนบาทต่อ ตร.ว. แต่ศุภาลัยพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม “ศุภาลัย ลอฟท์ สาทร-ราชพฤกษ์” ทำราคาขายที่ย้อนกลับไปใกล้เคียงกับ 5-6 ปีที่ผ่านมา (ปี 2557) อยู่ที่ 6-7 หมื่นบาทต่อตารางเมตร (ตร.ม.) ซึ่งหากคิดตามราคาที่ดินไม่ต่ำกว่า 1 แสนบาทต่อตร.ม.

สำหรับโครงการคอนโดล่าสุดนี้จะเปิดจองในวันที่ 11-12 ก.ค.นี้ มีพื้นที่กว่า3ไร่ มูลค่าโครงการ1,400ล้านบาท มีจุดขาย 3 ด้านคือ ทำเล 450 เมตร จากรถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีบางหว้า และมีจุดอินเตอร์เชนจ์ เชื่อมต่อสายสีน้ำเงิน ราคา 60,500 บาทต่อตร.ม หรือ 1.69 ล้านบาทต่อยูนิตและปรับการออกแบบที่รองรับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในพฤติกรรมนิวนอร์มอล

สำหรับภาพรวมตลาดคอนโด หลังผ่อนคลายล็อคดาวน์ พบว่า ยอดขายเริ่มฟื้นตัวเดือนพ.ค.จากเดือนเม.ย.ที่ยอดขายลดลง จึงมั่นใจว่าเศรษฐกิจเริ่มกลับฟื้นตัว และตลาดคอนโดก็เริ่มกลับมา แม้ความต้องการคอนโดลดลงสวนทางกับบ้านแนวราบ แต่เมื่อทุกอย่างกลับมาเป็นปกติ รถติด คนก็ยังจะมองหาคอนโดใจกลางเมือง จึงใช้วิกฤติเป็นโอกาสในการเตรียมงบประมาณ 8,000 ล้านบาท ในการซื้อที่ดิน

ในส่วนของแผนการพัฒนาโครงการในปี 2563 มีเป้าหมายเปิดตัวโครงการแนวราบ 25 โครงการมูลค่า 2 หมื่นล้านบาท และ คอนโด 5 โครงการ มูลค่า 1 หมื่นล้านบาท โดยแนวราบยังคงเดินตามแผนที่วางไว้ ส่วนคอนโดเปิดไปแล้ว 2โครงการ อีก 3 โครงการจะต้องประเมินสภาวะตลาดจากยอดขายโครงการ ลอฟท์ สาทรฯ ก่อนตัดสินใจเปิดอีก 3 โครงการที่เหลือในครึ่งปีหลัง

ด้านนายชัยจักร วทัญญู ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายสร้างสรรค์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โครงการนี้ กลุ่มเป้าหมายคือ คนรุ่นใหม่ที่ชอบใช้ชีวิตในเมือง จึงออกแบบภายใต้แนวคิด “ผสานกับธรรมชาติ” ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภค 5 ด้านคือ 1.ตื่นตัวสุขภาพ 2.อยู่บ้านมากขึ้น แบ่งมุมห้องทำงาน ปลูกต้นไม้ ทำอาหาร 3.ทำงานที่บ้าน 4.หลีกเลี่ยงพื้นที่แออัด คนเยอะ (Social Distancing)จึงจัดพื้นที่ส่วนกลางไม่แออัด5.สั่งซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้น มีมุมสำหรับรับส่งสินค้า