'ททท.' จ่อผุดโปรเจค 'สวรรค์นักช้อป' ดึงเที่ยวไทย
“ททท.” งัดแผนฟื้นตลาดต่างชาติรอความชัดเจน “ทราเวลบับเบิล” ชู 2 โปรเจคดันไทย รีสอร์ตสุขภาพ-สวรรค์นักช้อปโลก ดึงกำลังซื้อนักท่องเที่ยวคุณภาพ พร้อมปรับโครงการ “อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ แกรนด์เซล” ดึงผู้ประกอบการ 1 หมื่นรายเจาะตลาดคนไทย
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ขณะรอความชัดเจนของรัฐบาลเรื่องแนวทางการเปิดประเทศเพื่อการท่องเที่ยวอย่างจำกัด หรือ ทราเวลบับเบิล ผ่านการจับคู่เจรจากับประเทศที่มีความเสี่ยงโรคโควิด-19 ต่ำเพื่อแลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยว ททท.ได้จัดเตรียมแผนฟื้นฟูตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ เจาะกลุ่มเป้าหมายที่มีศักยภาพในการใช้จ่ายสูงยุคหลังโควิด หวังเพิ่มค่าใช้จ่ายต่อทริปที่มาเที่ยวไทย
ผ่าน 2 โครงการได้แก่
1.โครงการ ไทยแลนด์, เมดิคัล แอนด์ เวลเนส รีสอร์ท ออฟ เดอะ เวิลด์ เพื่อดึงนักท่องเที่ยวกลุ่มเดินทางเพื่อการแพทย์และสุขภาพ หลังประเทศไทยสามารถควบคุมโรคโควิด-19 ได้เป็นอย่างดี และซัพพลายเชนในตลาดนี้มีค่อนข้างมาก และ
2.โครงการ ไทยแลนด์, เวิลด์ ชอปปิง พาราไดซ์ ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากผู้ประกอบการค้าปลีกและท่องเที่ยว ตั้งเป้าหมายผลักดันประเทศไทยเป็นสวรรค์ของการชอปปิงหลังโควิด-19 ยุติการระบาด
ล่าสุด ททท.ได้จัดโครงการ อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ แกรนด์ เซล 2020 ระหว่างวันที่ 15 ก.ค.-15 ก.ย.2563 เป็นเวลา 2 เดือน ภายใต้แนวคิดNon Stop Shoppingใน 5 พื้นที่คือกรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต หาดใหญ่ และพัทยา รวมผู้ประกอบการกว่า 10,000 รายทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติที่พำนักในไทย พร้อมส่งเสริมภาพลักษณ์ให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางแห่งการชอปปิง
ทั้งนี้ได้เพิ่มความน่าสนใจด้วยแคมเปญ 8.8 (วันที่ 8 เดือน 8) จัดกิจกรรมร่วมสนุกตอบคำถามออนไลน์แจกบัตรกำนัลของขวัญ จำนวน 4,100 รางวัล รวมมูลค่า 6.6 แสนบาท และแคมเปญ 9.9 (วันที่ 1-9 เดือน 9) จัดกิจกรรมเล่นเกมผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจAmazing Thailand Grand Sale 2020แจกบัตรกำนัลของขวัญจำนวน 20 รางวัล รวมมูลค่า 1 แสนบาท นอกจากนี้นักท่องเที่ยวที่ซื้อสินค้าและบริการจากผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการฯ จะได้สิทธิลุ้นรับรางวัลหลังเสร็จสิ้นโครงการฯ อาทิ รถยนต์ แพ็คเกจท่องเที่ยว อุปกรณ์สื่อสารทันสมัย และอื่นๆ รวมมูลค่า 1 ล้านบาท
“โครงการอะเมซิ่ง ไทยแลนด์ แกรนด์เซลปีนี้ ททท.ได้ปรับให้เข้ากับจริตการชอปปิงของคนไทยมากขึ้น แตกต่างจากตลอด 20 ปีก่อนหน้านี้ที่มักจะโปรโมทตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติมาชอปปิงในไทยเป็นหลัก คาดปีนี้สร้างเม็ดเงินสะพัด 1,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 1,400 ล้านบาทของปีที่แล้ว แม้จะมีเฉพาะกำลังซื้อจากตลาดในประเทศก็ตาม”
ด้านภาพรวมกำลังซื้อของตลาดคนไทย ยอมรับว่าค่อนข้างน่าเป็นห่วง แต่ผู้ประกอบการค้าปลีกได้ลดราคาสินค้าเพื่อชิงกำลังซื้อจากลูกค้าหลากหลายกลุ่ม โดย ททท.มองว่าควรโฟกัสตลาดคนไทยเที่ยวต่างประเทศที่ปีนี้ไม่สามารถออกเดินทางไปท่องเที่ยวและชอปปิงได้ โดยปีที่แล้วมีมากถึง 12-13 ล้านคน