‘เงินบาท’ เปิดตลาดเช้านี้ ‘อ่อนค่า’ ที่ 30.93 บาทต่อดอลลาร์
ในระยะสั้นตลาดจับตาการระบาดของโควิด-19 จะกลับมากดดันตลาดหุ้น หนุนดอลลาร์แข็งค่า แต่หากตลาดคลายกังวลได้ จะกลับมาติดตามตัวเลขเศรษฐกิจ มีโอกาสเห็นภาพเงินบาทแข็งค่าต่อได้เช่นกัน
นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ จำกัด (SCBS) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ที่ระดับ 30.93 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าจากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อนที่ระดับ 30.90 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ 30.85-31.05 บาทต่อดอลลาร์ และกรอบเงินบาทรายสัปดาห์ 30.70-31.20 บาทต่อดอลลาร์
ภาพรวมตัวเลขเศรษฐกิจทั้งหมด ถือว่ามีทิศทางเป็นบวกกับตลาดการเงิน อย่างไรก็ดี ระยะสั้นนักลงทุนต้องจับตาการระบาดของโควิด-19 ที่กลับมาเป็นประเด็นกดดันตลาดหุ้น และหนุนให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นพร้อมกันไปด้วย
ส่วนในฝั่งของเงินบาท ระยะสั้นยังคงเคลื่อนไหวตามตลาดทุน เนื่องจากการค้าและการท่องเที่ยวยังไม่ฟื้นตัว และช่วงนี้ความสัมพันธ์ระหว่างทองคำกับเงินบาทก็ลดลงมากเมื่อราคาทองคำปรับตัวขึ้นใกล้ระดับสูงสุดตลอดกาล แต่ในสัปดาห์นี้ ถ้าตลาดเริ่มคลายความกังวลกับโคโรนาไวรัส และกลับมาติดตามตัวเลขเศรษฐกิจก็มีโอกาสที่จะเห็นภาพเงินบาทแข็งค่าต่อได้เช่นกัน
ในสัปดาห์นี้ ต้องติดตามทั้งการระบาดของไวรัส ความคืบหน้าของ Brexit การออกกฏหมายความมั่นคงของฮ่องกงและตัวเลขตลาดแรงงานสหรัฐ
โดยในวันจันทร์ ผู้แทนทั้งจากสหภาพยุโรป (EU) และอังกฤษ (UK) จะเริ่มหารือเรื่องข้อกำหนดทางการค้า หลัง UK ออกจาก EU แล้ว ซึ่งในตลาดเชื่อว่าอาจต้องเลื่อนกำหนดการออกไปถ้าหาข้อสรุปไม่ได้
ต่อมาในวันอังคาร ประธานธนาคารกลางสหรัฐ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีกำหนดขึ้นให้การต่อสภาเกี่ยวกับการใช้นโยบายทางการเงินเพื่อรับมือวิกฤติโคโรนาไวรัส ขณะเดียวกันก็จะมีการรายงานตัวเลขดุลบัญชีเดินสะพัดของไทย (BoP Current Account Balance) ซึ่งคาดว่าจะขาดดุลราว 700 ล้านดอลลาร์ต่อเนื่องเป็นเดือนที่สอง
และในวันพฤหัส จะมีการรายงานการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Change in Nonfarm Payrolls) ที่จะเลื่อนมารายงานเร็วขึ้น และตัวเลขทั้งผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานใหม่ (Initial Jobless Claims) โดยตลาดคาดว่าจะเห็นการจ้างงานฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง 3 ล้านตำแหน่ง และผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานใหม่ทรงตัวที่ระดับ 1.3 ล้านคน ส่งผลให้อัตราการว่างงานในสหรัฐปรับลดลงมาที่ระดับ 12.4%