"Thai Tourism" Sector (30 มิ.ย.63)
การฟื้นตัวในประเทศ; ระหว่างประเทศยังต้องรอวัคซีน (NEUTRAL)
- What’s new
จากข้อมูลเบื้องต้นจากการท่องเที่ยวไทย (TAT) สำหรับช่วงเวลา 20-27 มิถุนายน ผู้โดยสารภายในประเทศใน 6 สนามบินหลักลดลง 72.1% yoy หากเทียบกับ -93.3% yoy ในช่วงพฤษภาคม การลดลงที่มากที่สุดเกิดขึ้นสนามบินที่ BKK airport ที่ -78% yoy ในช่วง 20-27 June, ภูเก็ต ที่ -88.1% yoy , และ CNX ที่ -76.1% yoy
ความต้องการเตินทางภายในประเทศเริ่มที่จะฟื้นตัวไปพร้อมกับการผ่อนปรนระยะที่ 4 (1st July), สนามบินภูเก็ตได้เริ่มดำเนินการเที่ยวบินในประเทศต่อ ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกอีกอย่างให้กับการฟื้นตัวการท่องเที่ยวภายในประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม เป็นต้นไป รัฐบาลออกมาตรการผ่อนคลายระยะที่ 5 ที่จะมุ่งเน้นไปที่นักท่องเที่ยว MICE ขาเข้าและนักท่องเที่ยวที่เกี่ยวกับธุรกิจ ในขณะที่รายละเอียดนั้นขึ้นอยู่กับการตกลงระหว่างประเทศไทยและประเทศเป้าหมายแต่ละประเทศ โดยรัฐบาลคาดว่ากลุ่มประเทศแรกจะมาจากญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ จีน และฮ่องกง พร้อมกับโควตานักท่องเที่ยวขาเข้าที่ 200 คนต่อวันและจำเป็นต้องกักตัว 14 วันหรือน้อยกว่านั้นขึ้นอยู่กับ track (เช่น ปกติจะเป็น 14 วันและ Fast Track จะน้อยกว่า 14 วัน)
- Action/ Recommendation
คงมุมมอง เป็นกลาง และรอความคืบหน้าด้านวัคซีนในเดือนกรกฎาคม เราคาดว่าจะมีผลกระทบเพียงเล็กน้อยจากการผ่อนคลายระยะที่ 5 ที่จะช่วยเพิ่มนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศสู่ประเทศไทย เนืองจากโควต้าการเข้าประเทศที่จำกัดเมื่อเทียบกับจำนวนนักท่องเที่ยวขาเข้าที่ราว 98k ต่อวัน แม้ว่ากระนั้นอาจจะมีความหวังสำหรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศไทย จากการที่ผลของวัคซีนนั้นจะรู้ผลภายในสิ้นเดือนกรกฎาคม ซึ่งเราเชื่อว่าผลการทดลองที่ดีจากการทดลองในคลีนิคระยะที่สามของ Moderna จะช่วยให้แนวโน้มของการท่องเที่ยวนั้นดีขึ้นในระยะสั้น หากมองต่อไปข้างหน้าบริษัท “Catalent” ซึ่งเป็นผู้ผลิตวัคซีนให้กับ Moderna คาดว่าจะเริ่มผลิตวัคซีนภายในสิงหาคม และมากถึง 100 ล้านโดสภายสิ้นไตรมาส 3Q20 และราว 1พันล้านโดสภายในปี 2021 หากนี่สำเร็จจะเป็น upside จากการคาดการณ์นักท่องเที่ยวของเราที่ 25m และ 39.6m ในปี 2021-22F.