”ตำรับไทย”ดึงนวัตกรรมดัน”สมุนไพร”โตต่อไม่รอแล้ว

นายมหาคุณ เทพสุทิน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ตำรับไทย สมุนไพร จำกัด ผู้ก่อตั้งร้าน”ตำรับไทย”จำหน่าย สมุนไพรไทย เปิดเผยว่า บริษัทดำเนินธุรกิจมากว่า19ปี มีการพัฒนาและขยายสาขาทั่วประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีสาขาทั้งหมด 115 สาขา และมีแนวโน้มที่จะขยายสาขาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ครอบคลุมทุกภูมิภาคของประเทศ เพื่อให้รองรับกับความต้องการของลูกค้าที่มีความสนใจผลิตภัณฑ์สมุนไพรมากขึ้น โดยในปีนี้บริษัทเล็งเปิดสาขาเพิ่มอีก15สาขา เช่น ชลบุรี พัทยา เชียงใหม่ กรุงเทพและปริมณฑล 

โดยคาดว่าจะมียอดขายตัวแทนจำหน่ายสินค้าในปีนี้ 500ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ในปี2565 และภายใน2ปีจะมีสาขาเพิ่มเป็น300สาขาทั่วประเทศไทย  มีรายได้จากยอดขายตัวแทนจำหน่ายมูลค่า1,200-1,500ล้านบาทในปี2567 โดยเน้นกล่มลูกค้าที่เป็นคนไทย95% และอีก5%เป็นต่างชาติ

“ผมต้องการพัฒนาสมุนไพรไทย ให้เป็นที่ยอมรับไปทั่วโลกและตรงกับความต้องการของลูกค้า ที่หลังโควิด-19 ยิ่งทำให้ความสนใจเรื่องสมุนไพรไทยกลับมาได้รับความนิยม เช่น ฟ้าทลายโจร ที่ืถือเป็นสินค้าตัวหลักขณะนี้ จึงเชื่อว่าแนวโน้มธุรกิจจะเติบโตได้ต่อเนื่อง”

ผ่านมาได้มีการส่งเสริมและสนับสนุนเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สมุนไพรให้กับผู้ที่สนใจ โดยเฉพาะผู้ประกอบการเอสเอ็มอีผ่านศูนย์บริการวิชาการเพื่อให้คำแนะนำ และความรู้ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สมุนไพรต่างๆ รวมถึงให้องค์ความรู้ด้านนวัตกรรมซึ่งจะทำให้การพัฒนา ต่อไปถึงการใช้สมุนไพรของผู้บริโภคง่ายขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ใช้เพื่อจัดการฝึกอบรมให้กับพนักงานประจำสาขา เพื่อพัฒนาความรู้ ความสามารถ และศักยภาพในการปฏิบัติงาน และ ร้านตำรับไทย สมุนไพรไทยทุกสาขา ยังจัดให้มีแพทย์แผนไทยคอยให้คำแนะนำ ปรึกษาเกี่ยวกับสุขภาพ การใช้ยาสมุนไพรให้ปลอดภัยและเกิดประโยชน์สูงสุด

ปัจจุบันบริษัทมีพันธมิตรทางธุรกิจทางด้านสมุนไพรและมีคู่ค้าที่จะร่วมต่อยอดธุรกิจอยู่มากกว่า 500 ราย ที่พร้อมจะขับเคลื่อนและพัฒนาธุรกิจสมุนไพรให้เป็นที่.   ยอมรับมากขึ้น  ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีผลิตภัณฑ์ต่างๆมากมาย เช่น กลุ่มยาสมุนไพรแผนโบราณ , กลุ่มอาหารเสริมสมุนไพร, สินค้าสมุนไพรเพื่อความงาม เป็นต้น ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่วางจำหน่ายที่ร้านตำรับไทย สมุนไพรไทย เป็นผลิตภัณฑ์ที่ต้องผ่านการคัดเลือกตามมาตรฐาน 20 ข้อ จาก Product marketing ซึ่งเป็นหน่วยงานที่จะตรวจสอบ และคัดสรรสินค้า ให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพ และถูกต้องตามหลักเกณฑ์เงื่อนไข เพื่อเพิ่มความมั่นใจและความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้า 

นายมหาคุณ กล่าวอีกว่า แนวโน้มตลาดสมุนไพรในภาพรวมยังเติบโตได้ดี แต่พบว่าพฤติกรรมผู้บริโภคกำลังเปลี่ยนไป โดยผู้บริโภคจะมีองค์ความรู้มากขึ้นเพราะมีความระมัดระวังเพื่อความปลอดภัย ดังนั้น เมื่อลูกค้าเดินเข้ามาในร้านจะเข้ามาพร้อมข้อมูล ซึ่งร้านต้องพร้อมตอบคำถามให้ได้ชัดเจน เพราะสิ่งที่จะได้กลับมาเพียงแค่การขายสินค้าเท่านั้นแต่เป็นการแก้โจทย์ยากของธุรกิจสมุนไพรที่ยังมีความไม่เชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อสมุนไพร ดังนั้น การร่วมกันสร้างความเข้าใจและองค์ความรู้ระหว่างผู้ผลิต ผู้ค้า และผู้บริโภค จึงเป็นทิศทางการทำงานของบริษัทต่อไป สอดคล้องกับทิศทงตลาดที่มีแนวโน้มว่าผู้บริโภคจะมีอายุน้อยลงด้วย