“ไร้ท์แมน”งัดแผนสำรอง ลุยอีเวนท์ หลังโควิดกลับมา ห่วงธุนกิจเจอล็อกดาวน์รอบใหม่
หวั่นโควิดระลอกใหม่มาเยือน กระทบเชื่อมั่นลูกค้า สะเทือนธุรกิจ ผู้ประกอบการอีเวนท์ งัด BCP รองรับความเสี่ยง ล็อกดาวน์!! รอบสอง
“อีเวนท์” ถือเป็นธุรกิจกลุ่มสุดท้ายที่ได้รับการปลดล็อกดาวน์ เมื่อไม่นานมานี้ พลันที่ธุรกิจกลับมาขยับเขยื้อนเคลื่อนทัพจัดกิจกรรม ภายใต้เงื่อนไขมากมาย ทั้งเว้นระยะห่าง 4 ตารางเมตร(ตร.ม.)ต่อคน นั่นทำให้พื้นที่ในการทำเงินลดลง แต่เพื่อป้องกันการระบาดของโควิด-19 ที่สร้างหายนะทั่วโลก ผู้ประกอบการยินดีปฏิบัติตาม
หลายเดือนที่ผ่านมา คนไทย ธุรกิจไทยให้ความร่วมมือรัฐตั้งการ์ดป้องกันโควิด อย่างเคร่งคร่ด ทว่าล่าสุดพบชาวต่างชาติ เป็นทหารอียิปต์เดินทางมาไทย มีเชื้อโควิด แม้กระทั่งเด็กหญิงอายุ 9 ขวบ ครอบครัวทูตซูดาน เป็นอีกรายที่พบเชื้อโควิด
กรณีการติดเชื้อดังกล่าว อาจะเป็นชนวนให้โควิด กลับมาระบาดระลอกสองในไทย จนอาจทำให้รัฐต้อง “ล็อกดาวน์” ธุรกิจอีกครั้ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการต้องเตรียมรับมือ โดยเฉพาะการงัดแผนสอง แผนสำรองเพื่อเคลื่อนธุรกิจต่อเนื่อง หรือ BCP (Business Continuity Plan) มาใช้กันอีกรอบ
“นักวิชาการ ภาคธุรกิจ หลายส่วนคาดการณ์ว่าจะเกิดซีนาริโอแบบนี้ คืออาจมีการระบาดโควิดรอบสอง เพราะต่อให้มีวัคซีน ก็ไม่สามารถดีดนิ้วแล้วโรคหายเลย อาจจะระบาดลดลง แต่จะกลับมาอีก ธุรกิจจึงต้องทำตัวให้ยืดหยุ่น หากโควิดกลับมาเราต้องอยู่ให้ได้ ”กัมพล นิสิตสุขเจริญ" กรรมการบริหาร บริษัท ไร้ท์แมน จำกัด และผู้ก่อตั้งเวอร์ชวล โซลูชั่น ประเมินภาพรวมโควิดกับผลกระทบทางธุรกิจ
เขายังระบุว่า ไทยได้บทเรียนใหญ่จากไวรัสร้ายคือการล็อกดาวน์ธุรกิจต้อง “ปิดให้บริการ” ขาดรายได้ไม่พอ ขาดทุนด้วย แต่ห้วงเวลาดังกล่าวหลายรายปรับตัวเปิดหน้าร้านออนไลน์ ขยายช่องทางค้าขายสินค้าให้ผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงธุรกิจอีเวนท์ด้วย
“หากต้องล็อกดาวน์ปิดร้านอีก ธุรกิจต้องรอด หลายธุรกิจเริ่มมีแนวทางการทำงาน การปรับตัว และวางไว้แล้ว”
ส่วนอีเวนท์ที่กำลังกลับมาคุยกับลูกค้า เป็นความหวังเล็กๆให้ผู้ประกอบการ แต่เจอข่าวมีต่างชาติติดเชื้อโควิดและเดินทางมาไทย ยอมรับว่ากระทบ “ความเชื่อมั่น” ของลูกค้าไม่น้อย เพราะกลายเป็นว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคือ “ความไม่แน่นอน” ไม่รู้ว่าจะได้จัดงานอีเวนท์ต่อหรือไม่ แต่กระน้้นลูกค้ายังไม่แตะเบรก! หยุดแผนการจัดงานแต่อย่างใด เพราะบางอย่างเป็นเป้าหมายและกิจกรรม โดยเฉพาะงานแสดงสินค้า(เทรดโชว์)ที่ต้องจัดอยู่แล้ว หลังจาก 6 เดือนถูกแช่แข็ง
แต่สิ่งที่เข้มข้นขึ้นคือการจับตาดูสถานการณ์ต่างๆวันต่อวัน ไม่ว่าจะเป็นผู้ติดเชื้อ มาตรการรัฐที่จะออกมาเหมือนกับการล็อกดาวน์ครั้งแรก
ปี 2563 ไร้ท์แมน ได้รับผลกระทบจากโควิด เมื่องานอีเวนท์หายไปร่วม 10 งาน แต่สิ่งที่พยุงให้องค์กรยังยืดหยัดฝ่าวิกฤติได้ คือ งานสร้างถาวร ไม่ว่าจะเป็นธีมปาร์ค พิพิธภัณฑ์ ศูนย์การเรียนรู้ ซึ่งมีสัดส่วนรายได้ 50-60% ยังคงมีงานต่อเนื่อง ส่วนงานแสดงสินค้าหรือเอ็กซิบิชั่นสัดส่วน 20-25% และอีเวนท์ 20%
นอกจากนี้ การปรับตัวให้อยู่รอด แผนสองหรือ BCP ที่นำมาใช้คือ การผุดโปรเจค “เวอร์ชวล โซลูชั่น”(Virtual Solution) การจัดงานอีเวนท์ งานแสดงสินค้าต่างๆ ในรูปแบบออนไลน์ เสมือนจริง ซึ่งประเดิมงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ครั้งที่ 41 และยังมีงานอื่นๆตามมา
“เวอร์ชวล โซลูชั่น เป็นหนึ่งใน BCP เราออกแบบมาเพื่อเป็นเครื่องมือ ชดเชยการจัดอีเวนท์ แม้จะไม่ตอบโจทย์ทั้งหมด เพระาประสบการณ์ยางอย่างสู้ออนกราวด์ไม่ได้ แต่สถานการณ์แบบนี้ไม่มีทางเลือก จึงนำมาเสริมให้ลูกค้าธุรกิจ(B2B) เทรดโชว์ การจับคู่ธุรกิจต่างๆ”
โควิดพลังทำลายล้างสูง ฉุดธุรกิจอีเวนท์มูลค่า 13,000 ล้านบาท ให้สูญเม็ดเงินราว 80% แต่ผู้ประกอบการยังไม่สิ้นหวัง เพราะลุ้นไตรมาส 4 มีเทศกาลต่างๆ เกิดขึ้น และองค์กรธุรกิจจะจัดกิจกรรมมีการใช้จ่าย ส่วนผู้บริโภคจะจับจ่ายใช้สอยในช่วงดังกล่าวค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตาม ปัจจัยบวกมี แต่ปัจจัยลบที่น่าห่วง ยังหนีไม่พ้นโควิดระลอกสอง เพราะอาจกระเทือนถึงไตรมาส 4 ไฮซีซั่นของอีเวนท์เช่นกัน