ครม.เห็นชอบร่างกรอบความร่วมมือไทย-สหรัฐ ระดมทุนโครงสร้างพื้นฐานในไทย
ครม.เห็นชอบร่างกรอบความร่วมมือไทย-สหรัฐส่งเสริมการระดมทุนและการสร้างตลาดทุนเพื่อโครงสร้างพื้นฐานในไทย เล็งขยายความร่วมมือลักษณะนี้กับประเทศอื่นๆเพื่อสร้างความสามารถในการระดมทุน
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2563 ว่า ครม. เห็นชอบร่างกรอบความร่วมมือเพื่อส่งเสริมการระดมทุนและการสร้างตลาดทุนเพื่อโครงสร้างพื้นฐาน ไทย – สหรัฐอเมริกา เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อระบบเศรษฐกิจและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของไทย โดยมีสาระสำคัญคือ
กระทรวงการคลังสหรัฐอเมริกาได้ยกร่างกรอบความร่วมมือฯ ขึ้น เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างไทยกับสหรัฐอเมริกา ในการพัฒนาตลาดเงิน (Financial markets) สำหรับการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน และเพื่อสนับสนุนการพัฒนาทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน
โดยคู่ภาคีจะร่วมมือเพื่อส่งเสริมการลงทุนและการทำงานร่วมกันในการพัฒนา โครงสร้างพื้นฐาน ในด้าน 1)การพัฒนาและเพิ่มสภาพคล่องแก่ตลาดตราสารหนี้ 2)การเสาะหาและคิดค้นเครื่องมือและโครงสร้างทางการเงินใหม่ ๆ เพื่อกระตุ้นการลงทุนจากภาคเอกชน 3)การส่งเสริมนวัตกรรมและการพัฒนาที่ยั่งยืนจากการแบ่งปันองค์ความรู้และแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดจากกรณีศึกษาของนานาชาติ และ4)การพัฒนาขีดความสามารถด้านการเงินและด้านเทคนิคต่างๆ ร่วมกัน
ซึ่งมีแนวทางในการดำเนินงาน คือ คู่ภาคีจะจัดตั้งคณะทำงานร่วม ประกอบด้วย ผู้แทนอาวุโสของแต่ละฝ่าย เพื่อกำหนดแนวทางดำเนินการและศึกษาถึงโอกาสในการพัฒนาด้านต่าง ๆ ของโครงสร้างพื้นฐานร่วมกัน ผ่านรูปแบบกิจกรรมความร่วมมือที่เน้นการฝึกอบรม การสัมมนาและหลักสูตรต่าง ๆ รวมถึงการสร้างความแข็งแกร่งของภาคีเครือข่าย ส่งเสริมความร่วมมือ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและองค์ความรู้จากผู้เชี่ยวชาญและภาคเอกชนทั้งสองฝ่าย
นอกจากนี้ ความร่วมมือของทั้งสองฝ่าย จะมุ่งเน้นศึกษาและขจัดปัญหาและอุปสรรคในการเข้าถึงตลาดสำหรับการลงทุน ในโครงสร้างพื้นฐานของภาคเอกชน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของไทยและตามที่ได้ตกลงร่วมกัน
นางสาวรัชดา กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดทำร่างกรอบความร่วมมือฯ ในครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกของไทยที่ได้สร้างความร่วมมือในรูปแบบทวิภาคีกับต่างประเทศเพื่อส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุนเพื่อโครงสร้างพื้นฐานระหว่างกัน ซึ่งเป็นประโยชน์แก่ไทยที่กำลังพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่เพื่อรองรับการพัฒนาประเทศตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เพราะสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่มีตลาดทุนขนาดใหญ่และมีนักลงทุนภาคเอกชนที่มีศักยภาพเหมาะแก่การระดมทุนเพื่อมาพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของไทย ทั้งนี้ ปัจจุบันได้มีประเทศในภูมิภาคเอเชียที่ลงนามในกรอบความร่วมมือฯ กับสหรัฐอเมริกาแล้ว 3 ประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์ เกาหลี และเวียดนาม