อนันดายันผนึก'มิตซุยฯ' ลุยอสังหาฯหลังโควิด-19

นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงการเดินหน้าร่วมทุนกับพันธมิตรญี่ปุ่นบริษัท มิตซุยฟูโดซัง จำกัด ซึ่งเป็นพันธมิตรทางธุรกิจในการร่วมมือกันพัฒนาคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้า

โดยได้เริ่มพัฒนาโครงการภายใต้การร่วมทุนมาตั้งแต่ปี2556 จนปัจจุบันมีการพัฒนาโครงการทั้งหมด 29 โครงการ จำนวน 23,000 ยูนิต มูลค่า 87,921 ล้านบาท โดยมิตซุยฯและอนันดาฯยังคงเชื่อมั่นในเศรษฐกิจไทย พร้อมจะพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะบนทำเลติดรถไฟฟ้าซึ่งเป็นจุดแข็งของที่มีการเปิดตัวอย่างต่อเนื่อง 

“สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบไปทั่วโลก แต่บางประเทศเริ่มปรับตัวเข้าสู่ภาวะปกติ แต่ก็ยังคงต้องเฝ้าระวังอยู่ตลอดเวลา ซึ่งการระบาดครั้งนี้กำลังเปลี่ยนวิถีการใช้ชีวิตและการทำงานของทุกคนทำงานจากบ้าน รวมถึงมีโอกาสของธุรกิจใหม่ๆอย่างอีคอมเมิร์ซ จึงเกิดนวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค อนันดาฯ พร้อมปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลง จึงมั่นใจความสามารถการแข่งขันในตลาดหลังโควิด-19 จึงพร้อมผนึกกับพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อพัฒนาโครงการต่อเนื่อง” 

สำหรับปีนี้มีโครงการร่วมทุนที่จะแล้วเสร็จและพร้อมโอนกรรมสิทธิ์ ทั้งสิ้น7 โครงการ มูลค่า 29,815 ล้านบาท ได้แก่ แอชตัน อโศก-พระราม 9 ,ไอดีโอ คิว วิคตอรี่ ,ไอดีโอ คิว สุขุมวิท 36,ไอดีโอ รัชดา – สุทธิสาร,ไอดีโอ โมบิ สุขุมวิท อีสต์พอยท์ ,เอลลิโอ เดล เนสท์ และเอลลิโอ สาทร – วุฒากาศ อีกทั้งยังได้ร่วมกันพัฒนาเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ 5 แห่งในกรุงเทพ พร้อมเปิดดำเนินการในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้คือLYF SUKHUMVIT8 

 “ตัวเลขการขายตามแนวรถไฟฟ้าเริ่มกลับมาแล้ว70%จากช่วงโควิดที่แทบเป็นศูนย์ ภาพรวามเศรษฐกิจต้องระมัดระวังการพึ่งพาภาคการท่องเที่ยวหากซึมยาว เราจึงต้องปรับตัว มีโครงการที่จะพร้อมโอนกว่า2หมื่นล้านในไตรมาส3 ไม่มีการเปิดตัวคอนโดใหม่แต่ก็ยังเชื่อมั่นว่าคอนโดสะดุดในระยะสั้น” 

นอกจากนี้ ยังเน้นการปรับตัวให้อยู่รอดท่ามกลางสถานการณ์ไม่คาดคิด โดยใช้หลักคิด “Change The Plan Never The Goal”ยึดมั่นในเป้าหมาย ยืดหยุ่นในวิธีการ เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพตลาดและความต้องการของลูกค้า รวมถึงการพัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์Ananda iStoreเพื่อตอบโจทย์การขายและการบริการออนไลน์ที่เติบโต