หุ้นสหรัฐฯเข้าสู่ช่วงทดเวลา ขณะหุ้นไทยมีโอกาสฟื้นตัวทางเทคนิคหลังปรับลดลงแรง

หุ้นสหรัฐฯเข้าสู่ช่วงทดเวลา ขณะหุ้นไทยมีโอกาสฟื้นตัวทางเทคนิคหลังปรับลดลงแรง

หุ้นสหรัฐฯ เคลื่อนไหวกระจุกตัว คาดเข้าสู่ช่วงทดเวลา

แม้หุ้นสหรัฐฯ จะปิดบวกทั้ง 3 ดัชนีหลัก แต่การเคลื่อนไหวโดดเด่นที่หุ้นหลักเพียงไม่กี่ตัวในกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่หุ้นโดยรวมเริ่มเห็นสัญญาณการเคลื่อนไหวที่อ่อนแอกว่าตลาด ถึงแม้เรายังคงมุมมองบวกต่อภาพการลงทุนในระยะกลางจากสภาพคล่องที่อยู่ในระดับสูง แต่เรามีมุมมองระมัดระวังต่อภาพระยะสั้นจากทิศทางผลตอบแทนพันธบัตรที่ยังคงมีแนวโน้มปรับขึ้น (ซึ่งจะกดดันให้ความน่าสนใจลงทุนในหุ้น หรือ Earnings Yield Gap ลดลง) ประกอบกับความเสี่ยงที่มาจากการแข็งค่าของเงินเหรียญสหรัฐฯ จะเป็นปัจจัยที่ทำให้ตลาดหุ้นในระยะสั้น ยังคงมีความเสี่ยงต่อแรงทำกำไร

ยังคงเน้นหุ้นปลอดภัย หรือที่มีปัจจัยเก็งกำไรชัดเจน เราคาด SET Index มีโอกาสฟื้นระยะสั้นหลังปรับลดลงแรงติดต่อกันหลายวัน อย่างไรก็ตามยังคาดอยู่ในภาพของการปรับตัวในระดับ 50-100 จุด (ของรอบนี้ นับจาก 13 ส.ค.) โดยมีแนวรับสำคัญบริเวณ 1260-1280 จุด ในช่วง 3-5 สัปดาห์ข้างหน้า กลยุทธ์การลงทุนช่วงสั้นจึงเน้นในกลุ่มหุ้นปลอดภัย อาทิ สื่อสาร และหุ้นที่มีปันผลสูง อาทิ กองทุนโคงสร้างพื้นฐานและกองรีทส์ หรือหุ้นที่มีปัจจัยบวกที่ชัดเจน หุ้นที่เราชอบได้แก่ CPF, TU, TIP, THRE, ADVANC, INTUCH, DIF, JASIF, SUPEREIF, BTSGIF, BCH, CHG, WHAUP, EASTW / หุ้นที่มีปัจจัยบวก CRC (คาดถูกนำเข้าคำนวณในดัชนี FTSE Thailand)

การเมืองลดอุณภูมิช่วงสั้น แต่ไม่ปลดล็อค ตำรวจจับแกนนำม็อบ 9 ราย ก่อนที่ศาลจะให้ประกันตัว ประกอบกับมีการตั้งกมธ.แก้รัฐธรรมนูญ ช่วยลดอุณหภูมิการเมืองในระยะสั้น อย่างไรก็ตามประเมินระดับนโยบายมีความขัดแย้งในการรับมือกับการชุมนุมของเยาวชน ซึ่งทำให้ยังต้องระวังความเสี่ยงของผลกระทบที่ไม่สามารถคาดเดาได้ โดยเฉพาะหากมีการดำเนินคดีอย่างจริงจัง หรือการสร้างสถานการณ์เพื่อยกระดับความขัดแย้งไปสู่รัฐประหาร

ภาพรวมกลยุทธ์ ฟื้นตัวทางเทคนิคระยะสั้น แนวต้าน 1306 จุด โดยการเก็งกำไรยังควรระวังความผันผวนระยะสั้นจากทิศทางค่าเงินสหรัฐฯ ที่มีโอกาสแข็งค่าขึ้น เพื่อรอจุดซื้อที่ดีแถว 1,260-1,280 จุด// หุ้นแนะนำวันนี้ เก็งกำไร CRC*, CPF, ADVANC / ขายชอร์ต SAWAD (เป้า 42 ตัดขาดทุน 51.50)

แนวรับ 1,280 จุด / แนวต้าน : 1,306 จุด สัดส่วน : เงินสด 60% : พอร์ตหุ้น 40%

ประเด็นการลงทุน

ข่าววัคซีน – รัสเซีย เตรียมเริ่มทดลองวัคซีนโควิน-19 เฟส 3 ในสัปดาห์หน้า โดยมีอาสาสมัครในโครงการกว่า 40,000 ราย ขณะที่ บริษัท J&J เตรียมทดลองวัคซีนโควิด-19 เฟส 3 เช่นกัน โดยจะเริ่มขึ้นในเดือน ก.ย. พร้อมอาสาสมัครกว่า 60,000 ราย

ความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมฟื้นตัวต่อเป็นเดือนที่ 3 – ส.อ.ท. เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม เดือน ก.ค. อยู่ที่ระดับ 82.5 เพิ่มขึ้นจากระดับ 80 ในเดือน มิ.ย. โดยค่าดัชนีฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 หลังรัฐบาลผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์

กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง – ประเมินได้รับปัจจัยลบทางจิตวิทยา หลังครม.เห็นชอบให้กระทรวงการคลังกู้เพิ่ม 2.14 แสนล้านบาทเพื่อชดเชยการเก็บรายได้ต่ำเป้า และเงินคงคลังที่อาจไม่เพียงพอใช้จ่าย ทำให้เรามองกลุ่มที่พึ่งพิงรายได้ภาครัฐมีความเสี่ยงจะได้รับชำระเงินล่าช้า หรืออาจมีการชะลอโครงการที่ไม่เร่งด่วนออกไป

BCPG เพิ่มทุน 1301.7 ล้านหุ้น (Fully dilute 65%) แบ่งเป็น 1) RO 250 ล้านหุ้น โดยเพิ่มทุน 8:1 ที่ราคา 11.50 บาท 2) เพิ่มทุน PP 674.5 ล้านหุ้น 3) ออก BCPG-W1 อายุ 2 ปี อัตรา 2.8: 1 ราคาใช้สิทธิ์ 8 บาท 4) ออก BCPG-W2 อายุ 3 ปี อัตรา 1:1 ราคาใช้สิทธิ์ 8 บาท 5) ออก BCPG-W3 (ให้ผู้ซื้อ PP) อายุ 1 ปี อัตรา 1: 1 ราคาใช้สิทธิ์ 8 บาท // โดย XR และ XW 14 ต.ค. 63 (น่าเก็งกำไรถ้าเปิดต่ำ 12.40 บาท)

กลุ่มโรงไฟฟ้า รมว.พลังงานเผยถึงการเร่งศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมของโรงไฟฟ้าชุมชนภายใน 30 วัน โดยเตรียมให้บริษัทเอกชนยื่นเสนอโครงการภายในสิ้นปีนี้

ค่าระวางเรือ – ดัชนีค่าระวางเรือ (BDI) อยู่ที่ 1,518 เปลี่ยนแปลง -50.00 หรือ -3.19%

ประเด็นติดตาม: EU manufacturing PMI เดือน ส.ค., US manufacturing PMI เดือน ส.ค. / 26 ส.ค. – TH Industrial Production เดือน ก.ค.

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)