CHG - ซื้อ
รายได้จะโตลดลงใน 2H63F
Event
Conference call ชี้แจงผลประกอบการ 2Q63 และแนวโน้ม
lmpact
ประเด็นสำคัญที่น่าสนใจจาก conference call เมื่อวานนี้
หลังรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งใน 2Q63 โดยมีกำไรสุทธิ 155 ล้านบาท (+26.1% YoY, -17.0%QoQ) บริษัทให้แนวโน้ม 2H63 เป็นบวกน้อยลงจากก่อนหน้านี้ ซึ่งมีประเด็นสำคัญ ได้แก่ i) แนวโน้มดีขึ้น QoQ แต่แผ่วลง YoY บริษัทปรับลดเป้าอัตราการเติบโตของยอดขายปีนี้ลงเหลือไม่ถึง 10% YoY จากที่ตั้งเป้าไว้ตอนต้นปีที่ 15% ซึ่งหากเทียบกับประมาณการเดิมของเราที่ 10.9% YoY เรามองว่า ประมาณการของเรายังเป็นบวกมากกว่าบริษัท เมื่อพิจารณาจากการที่จำนวนผู้ป่วยยังฟื้นตัวไม่เต็มที่จากการระบาดของ COVID-19 โดยผู้บริหารให้ข้อมูลว่าจำนวนผู้ป่วยของ CHG ฟื้นตัวขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 90% ของช่วงก่อนเกิดโรคระบาดแล้ว สะท้อนว่าธุรกิจในปัจจุบันดีขึ้น แต่ยังต่ำกว่าระดับปกติอยู่ ii) โรงพยายามจุฬารัตน์ 304 และ RPC มีแนวโน้มดีขึ้น เมื่อมองไปข้างหน้า โรงพยาบาลใหม่สองแห่งนี้ของ CHG (จุฬารัตน์ 304 และรวมแพทย์ฉะเชิงเทรา) ซึ่งทำรายได้ให้บริษัท 9.3% ของรายได้รวมมีแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่องในอีกสองสามปีข้างหน้า และเราคาดว่าจะถึงจุดคุ้มทุนภายในต้นปี 2564 จากที่คาดว่าจะขาดทุนประมาณ 100 ล้านบาทในปีนี้
โดยรวมแล้ว เรายังคงมองบวกกับแนวโน้มธุรกิจของ CHG ใน 2H63 เนื่องจาก i) ผลประกอบการจะแข็งแกร่งตามฤดูกาล (หน้าฝน และหน้าหนาว) ii) มีอุปสงค์ pent-up demand ที่อั้นมาจาก 1H63 iii) ได้อานิสงส์จากค่ารักษาพยาบาลที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มประกันสังคม และ iv) ไม่ถูกกระทบจากกรณี HCC ในปีนี้
ปรับลดประมาณการกำไรปี FY63-64 ลงจากการปรับลดทั้งยอดขาย และ margin
เราปรับสมมติฐานยอดขาย และ margin ลงจากเดิมส่งผลให้ประมาณการกำไรสุทธิปีนี้ของเราลดลงจากเดิม 11.0% เหลือ 776 ล้านบาท (+10.1% YoY) ในขณะที่ประมาณการกำไรสุทธิปี 2564F ก็ลดลงจากเดิม 3.1% เหลือ 910 ล้านบาท (+17.2% YoY) เนื่องจากเราได้ i) ปรับลดประมาณการรายได้ปีนี้ลง 5.4% ii) ปรับลดประมาณการอัตรากำไรขั้นต้นปี 2563-64F ลงเหลือ 29.1% และ 30.3% (จากเดิมที่ 30.5% และ 30.7%) ตามลำดับ iii) ปรับลดสัดส่วน SG&A/ยอดขายลงเหลือ 13.0% (จากเดิม 13.5%) ในปี 2563F
Valuation & Action
เรายังคงชอบ CHG เนื่องจาก i) SSO ปรับขึ้นค่ารักษาพยาบาลในปีนี้ และ ii) ผู้ป่วยที่ชำระเงินสดมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นใน 2H63 นอกจากนี้ ROE ก็ค่อนข้างสูงที่ 17-18% (โรงพยาบาลอื่น ๆ อยู่ที่ 8-16% เท่านั้น) เรายังคงแนะนำ ซื้อ โดยให้ราคาเป้าหมาย DCF ใหม่ที่ 3.05 บาทจากเดิมที่ 3.10 บาท
Risks
การแทรกแซงของภาครัฐ ปัญหาเสถียภาพการเมืองไทยรอบใหม่ และเกิดเหตุก่อการร้ายครั้งใหญ่