ขาดปัจจัยใหม่

ตลาดหุ้นวานนี้

ดัชนี SET index -5.68 จุด ปิดที่ 1257 จุด (-0.45%) ด้วยปริมาณซื้อขาย 3.8 หมื่นลบ. โดยแม้ว่าจะได้แรงหนุนความหวังการออกมาตรการเยียวยารอบใหม่ของสหรัฐ แต่ตลาดถูกกดดันจากความผันผวนการเปลี่ยน Series TFEX

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้     

คาด SET อ่อนตัวทดสอบแนวรับ 1250 จุด เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่หนุน นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบที่ทรุดตัวลงแรงจากความกังวลด้าน Demand ตามสถานการณ์ Covid-19 รวมถึงความกังวลความผันผวนที่สูงขึ้นจากยกเลิกมาตรการ Ceiling-Floor / Short sell / Circuit breaker ของตลท.จะกดดันต่อดัชนี

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

• BANPU AGE อานิสงส์อุปสงค์จีนที่แข็งแกร่งหนุนให้ราคาถ่านหินปรับตัวขึ้น
• กลุ่มที่คาดว่างบ 3Q20 เติบโต TU ASIAN COM7 CHG PTG PLANB 
• DELTA HANA KCE SMT อานิสงส์เงินบาทอ่อนค่า

หุ้นแนะนำวันนี้

• BANPU (ปิด 5.95 ซื้อเก็งกำไร/เป้า 7.9) เก็งกำไรราคาถ่านหินฟื้นตัว และมีลุ้นทางการจีนผ่อนคลายการนำเข้าถ่านหินช่วยหนุนดีมานด์ (ปัจจุบันราคาถ่านในจีน 80$/Ton สูงกว่าราคานำเข้า 60$/Ton)
• CBG (ปิด 120.5 ซื้อ/เป้า 145 บาท) ภาพรวมกำไรยังโตต่อ จากยอดขายเพิ่มขึ้น ผลิตภัณฑ์ใหม่ WOODY C+ Lock กระแสตอบรับดี และต้นทุนลดจากการผลิตขวดแก้วเอง
• บทวิเคราะห์วันนี้

Bank Sector (Top pick: BBL)

ประเด็นสำคัญวันนี้

• (+/-)ครม. อนุมัติมาตรการ “คนละครึ่ง”& “ลองสเตย์” ตามคาด แต่มีนัยยน้อย : เนื่องจากภาครัฐจะช่วยสนับสนุนค่าใช้จ่ายไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวัน ทำให้กำลังซื้อที่จะไหลเข้าระบบไม่มาก เช่นเดียวกับ “ลองสเตย์” คาดเพิ่มนักท่องเที่ยงต่างชาติ 1 พันคนต่อเดือน เทียบกับระดับปกติที่ 3 ล้านคนต่อเดือน
• (+/-) กลุ่มธนาคาร ยังไม่ต้องรีบ รอฝุ่นตลบ : ระยะสั้นเรายังมีความกังวลจากมาตรการพักชำระหนี้ที่จะสิ้นสุดโครงการ ปัจจัยนี้จะผลักดันให้ NPLs ในระบบเพิ่มขึ้นการตั้งสำรองหนี้เสียในงบที่สูงขึ้นกดดันให้กำไรสุทธิของกลุ่มธนาคารลดลง หาก NPLs เพิ่มขึ้นเกินระดับ 11% มีความเสี่ยงที่แบงก์อาจจะต้องเพิ่มทุน
• (-) พรุ่งนี้ ตลาดปรับใช้เกณฑ์ Short sell, Ceiling & Floor ตามเดิม เป็นอีกหนึ่งความเสี่ยงคอยกดดันตลาด : ตลาดหลักทรัพย์ และตลาด TFEX จะปรับใช้เกณฑ์ Short sell เป็นเกณฑ์ Zero Plus Tick คือ ใช้ราคาที่สูงกว่าหรือเท่ากับราคาซื้อขายสุดท้าย (เดิม ใช้ราคาสูงกว่าราคาสุดท้าย), Ceiling & Floor ที่ระดับ +/-30% ตามเดิม (เกณฑ์ชั่วคราว +/-15%) โดยเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. เป็นต้นไป