เจาะเทรนด์ Cloud Computing

ความนิยมของเทคโนโลยีในการจัดเก็บข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ตซึ่งส่งผลต่อหุ้นในกลุ่มธุรกิจ Cloud Computing กำลังเพิ่มสูงขึ้น เช่นในสหรัฐอเมริกา ซึ่งอยู่ระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดี โดยทั้งโดนัลด์ ทรัมป์ และโจ ไบเดน ที่ต่างประกาศว่ามีนโยบายจะจัดการกับหุ้นบิ๊กเทคผ่านกฎหมาย Anti-Trust ซึ่งส่งผลให้หุ้นบิ๊กเทคอย่าง Facebook และ Google ปรับฐานลง และในขณะเดียวกันผู้คนก็หันมาสนใจในธุรกิจประเภท Cloud Computing

ในโอกาสนี้ ในรายการ TradeTalk ครั้งที่ผ่านมาได้เชิญ คุณวิน พรหมแพทย์ CFA ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุนของ บลจ. พรินซิเพิล มานั่งคุยถึงโอกาสของการลงทุนในหุ้นเทคโนโลยี Sub-Sector ซึ่งอยู่ในกลุ่ม cloud computing ด้วย คาดกันว่า จะเป็น Long time winner ที่แท้จริง

 

ความน่าสนใจของ Cloud Computing

คุณวินได้อธิบายถึงธุรกิจ Cloud Computing ว่าเป็นบริการ infrastructure ที่เกี่ยวข้องกับไอทีทั้งหมด ซึ่งเจ้าของธุรกิจจะจ่ายค่าบริการรายเดือน โดย Cloud จะเข้ามาแทนที่ระบบการทำงานแบบเดิมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการใช้ซอฟต์แวร์ หรือฮาร์ดแวร์แบบผูกขาด เทรนด์ Cloud Computing นั้นมีมาซักพักแล้ว แต่โควิด-19 ได้ทำให้คนมาใช้งานบริการมากขึ้น

ประเภทของ Cloud Computing ยกตัวอย่างได้จากธุรกิจซอฟต์แวร์ เช่น ‘Adobe’ ซึ่งเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์โด่งดังอย่าง Adobe Acrobat Reader, Adobe Photoshop และ Adobe Illustrator โดยก่อนหน้านี้ Adobe จะเน้นโมเดลธุรกิจแบบขายขาด หมายความว่าลูกค้าจะต้องซื้อตัวเต็มในราคาสูง ซึ่งแน่นอนว่าผู้ใช้บางส่วนมีเงินไม่มากพอ

 Adobe จึงแก้ปัญหา pain point โดยการเปลี่ยนให้ลูกค้าชำระเงินโปรแกรมรายเดือนแทนเสมือนผ่อน 0% ทำให้ราคาเอื้อมถึงมากขึ้น พอรายได้เข้า Adobe ได้ทุกเดือน รายได้โดยรวมก็จะมั่นคง เป็นที่ดึงดูดของนักลงทุนอีกด้วย นอกจากนี้ Adobe มีจุดเด่นอีกอย่างคือ การทำแพกเกจซอฟต์แวร์เป็น bundle ทำให้คนรู้สึกว่าคุ้มค่าและต้องการซื้อมากกว่าเดิม

อีกหนึ่งธุรกิจที่แนะนำคือ Shopify เป็นธุรกิจที่สร้างแพลตฟอร์ม e-commerce ครบวงจรให้กับลูกค้าที่ต้องการจะขายของ โดยมีโมเดลร้านค้าออนไลน์สำเร็จรูปให้ เพียงลูกค้าใส่ข้อมูลร้าน รูปถ่ายสินค้า ราคาและรายละเอียดบัญชีธนาคารมาที่แพลตฟอร์ม Shopify ก็จะเตรียมร้านค้าให้พร้อมขายได้เลยภายใน 4 นาที ข้อดีของธุรกิจนี้คือ มีความยืดหยุ่น ใช้พื้นที่ขายมากจ่ายมาก ใช้น้อยจ่ายน้อย

นอกจากนี้คุณวินได้พูดถึงธุรกิจ Salesforce เป็นแพลตฟอร์มคลาวด์ CRM ที่เน้นการขาย ทำให้เราเห็นรายงานการขายจากเซลล์ได้เลย ไม่ต้องพึ่งเซิฟเวอร์และพนักงานไอที

อนาคตของธุรกิจ Cloud Computing

จากนี้ไปคาดว่าธุรกิจ  Cloud Computing จะมีส่วนแบ่งในซอฟต์แวร์ทั้งโลกอีก 50% และในอีก 10 ปี ส่วนแบ่งอาจไปถึง 90% เพราะคำว่า Cloud ไม่ใช่จำกัดเพียงบริการเก็บข้อมูล แต่เป็นธุรกิจซอฟต์แวร์ที่ใช้ Cloud เป็นฐานในการทำธุรกิจ

โดยปีที่ผ่านมาธุรกิจประเภท Cloud Computing มีมูลค่าบริษัทขึ้นมา 70% แต่รายได้บริษัทโตมากกว่า 100% หากดูกราฟแล้วราคาหุ้นที่ขึ้นจะได้รับการหนุนจากรายได้ที่โตมากกว่า ยิ่งไปกว่านั้น การมาของโควิด-19 จะเร่งให้โตขึ้นอย่างรวดเร็ว และจะไปได้ไกล

เช่นเดียวกับการลงุทนในกองทุนธุรกิจ Cloud Computing ซึ่งตอนนี้เป็นจังหวะที่ดี ราคาหุ้นกลุ่มเทคและคลาวด์ลงเพราะช่วงเลือกตั้ง ทำให้เข้าซื้อได้ในราคาถูก อีกอย่างมีโอกาสที่กลุ่มเทคและกลุ่มคลาวด์รายได้โตขึ้นอีกมาก และไปได้ไกล

ธุรกิจแห่งอนาคต

นอกจากเทรนด์กลุ่มธุรกิจคลาวด์แล้ว ยังมี sector ธุริจที่เรียกได้ว่าเป็นธุรกิจแห่งอนาคตซึ่งต้องติดตามกันต่อไป เช่น ทรนด์รถยนต์ไฟฟ้า EV มาแรง แต่ยังติดปัญหากฎหมายและข้อจำกัดการผลิตรถยนต์ EV ซึ่งนั่นทำให้ Cloud Computing มีข้อได้เปรียบกว่าทั้งพื้นที่ขายธุรกิจ ไม่ได้เป็นของประเทศใดประเทศหนึ่งโดยตรง จึงไม่ต้องกังวลปัจจัยทางการเมืองไม่ว่าจะเป็นสงครามการค้า หรือการเลือกตั้งประธานาธิบดี

สำหรับใครที่สนใจอยากจะลงทุนในกลุ่ม Cloud Computing คุณวินได้แนะนำกองทุน Principal Global Cloud Computing เป็นกองทุนประเภท ETF แบบไม่จ่ายปันผล บริหารโดยบริษัท Wisdom Tree ซึ่งจะไปลงทุนในธุรกิจที่มีรายได้หลักแบบประจำจาก Cloud Computing อีกทั้งได้จัดสรรน้ำหนักการลงทุนแบบ Equal-Weighing เพิ่มการกระจายความเสี่ยงและโอกาสผลตอบแทนที่สูงในกรณีที่กลุ่มอุตสาหกรรมเติบโต นอกจากนี้ยังมีประวัติผลการดำเนินงานย้อนหลังที่แข็งแกร่ง ซึ่งรายได้ย้อนหลังสองปี เติบโตถึงปีละ 15% และมีโอกาสที่ธุรกิจนี้จะไปได้อีกไกลหลังโควิด-19

สนใจขอรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลงทุนได้ที่ https://forms.gle/oqCfagC12PVqYbWc8