KBANK - ถือ

KBANK รายงานกำไรดีกว่าคาดใน 3Q20 หลักๆมาจากการปรับตัวดลงของการตั้งสำรองการขาดทุนทางเครดิต หลังสัดส่วน NPL ค่อนข้างทรงตัว ซึ่งประเด็นนี้จะช่วงให้ตลาดคลายกังวลเรื่องหนี้เสียในระยะสั้น แต่อย่างไรก็ดี เราแนะนำให้นักลงทุนยังคงระมัดระวังด้วยฟื้นฐานหนี้เสียที่ยังคงถูกบิดเบือนเพราะมาตรการที่ทะยอยหมดใน 3Q20 ส่วนใหญ่เป็นมาตรการพักชำระหนี้บุคคลรายย่อย ขณะที่สินเชื่อหลักของ KBANK มาจาก SME

 

กำไรมากกว่าคาดจากการตั้งสำรองที่ต่ำกว่าประเมิน

KBANK ได้รายงานกำไร 3Q20 ที่ 6.7พันลบ. ลดลง 46% yoy แต่เพิ่มขึ้นมาก 207% qoq โดยผลประกอบการที่ออกมาสูงกว่าคาดการณ์ของเรา 17% และดีกว่าคาดการณ์ของตลาด 25% ประเด็นที่ทำให้ผลการดำเนินงานดีกว่าคาดมาจากการตั้งสำรองที่ต่ำกว่าคาดที่ 1.08 หมื่นลบ. เทียบกับคาดการณ์ของเราที่ 1.25 หมื่นลบ.และ 2.02หมื่นลบ. ในไตรมาสที่ก่อนหน้า หลังสัดส่วน NPL ที่รายงานออกมาล่าสุดค่อนข้างทรงตัวที่ระดับ 3.95% ใน 3Q20 เทียบกับ 3.92% ใน 2Q20

 

ต้นทุนทางเครดิตยังคงอยู่ในระดับสูงจากแนวโน้ม NPL ที่เพิ่มขึ้น

แม้ว่าจะมีการปรับคาดการณ์เศรษฐกิจลงและฝ่ายบริหารยังมีความกังวล แต่ดูเหมือนว่ามุมเชิงลบที่มีต่อหนี้เสียจะน้อยลงเทียบกับการประชุมก่อนหน้านี้ โดยฝ่ายบริหารยืนยันว่าธนาคารจะยังคงให้ความช่วยเหลือแก่ลูกหนี้ที่ยังคงได้รับผลกระทบของ Covid-19 ดังนั้นแม้หนี้เสียจะยังคงเพิ่มขึ้น แต่แนวโน้มจะเป็นในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป อย่างไรก็ตามฝ่ายบริหารเชื่อว่า ความไม่แน่นอนยังคงอยู่ในระดับสูง และต้นทุนทางด้านเครดิตจะยังคงอยู่ในระดับสูงในปีหน้าเมื่อเทียบกับระดับปกติในอดีต

 

รอจนกว่าฟ้าจะโปร่ง

หนี้เสียที่คงตัวใน 3Q20 เป็นประเด็นให้ตลาดคลายความกังวลในระยะสั้นสำหรับคลื่นหนี้เสียลูกแรกจากผลกระทบของ Covid-19 ที่เผยออกมาในช่วงไตรมาสที่ผ่านมาหลังมาตรการพักชำระหนี้สำหรับลูกค้ารายย่อยได้หมดลง อย่างไรก็ตามเราเชื่อว่าการฟื้นตัวของราคาหุ้นจะเป็นการฟื้นเพียงระยะสั้นจากพื้นฐานและภาพหนี้เสียที่ยังคงถูกบิดเบือน เราแนะนำนักลงทุนให้ระมัดระวังแม้ว่าจะมีอัพไซด์มากเทียบบนราคาเป้าหมายของเรา เนื่องจากภาวะทางเศรษฐกิจยังคงอ่อนแอ และความไม่แน่นอนของการฟื้นตัวยังคงสูง คาดการณ์การเติบโตของ GDP จะหดตัวต่อเนื่องอย่างน้อยจนถึง 2Q21 นักลงทุนควรรอจนกว่าจะเห็นข้อมูล NPL ที่ชัดเจนใน 4Q20 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มาตรการพักชำระหนี้ส่วนใหญจะจบลง