การเงิน
PF - ถือ
คาดผลประกอบการธุรกิจหลักปี 2563-64 ยังไม่ดี
ประเด็นสำคัญในการลงทุน
- ภาพรวมธุรกิจอสังหาฯและโรงแรมชะลอตัวแต่คาดเริ่มดีขึ้น 2H64 : ธุรกิจที่อยู่อาศัยอยู่ในภาวะชะลอตัวตั้งแต่ปลายปี 2562 จากผลกระทบจากมาตรการ LTV และการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ผู้บริโภคมีกำลังซื้อลดลง คาดจะเข้าสู่จุดต่ำสุดในปี 2563 จะค่อย ๆ ปรับตัวดีขึ้นในช่วง 2H64 เป็นต้นไป ซึ่งโครงการแนวราบมีแนวโน้มการขายดีกว่าคอนโดมิเนียม สอดคล้องกับกลยุทธ์ของบริษัทที่ยังไม่มีแผนการเปิดโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ ด้านธุรกิจโรงแรมในปี 63 อาจถูกกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 แต่แนวโน้มการท่องเที่ยวในช่วง 2H63-2564 มีทิศทางฟื้นตัวจากฐานต่ำใน 2Q63 และสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลายลง รวมทั้งความคืบหน้าของวัคซีนต้านไวรัสดังกล่าว ตลอดจนมาตรการสนับสนุนการท่องเที่ยว แต่คาดการฟื้นตัวจะยังไม่กลับไปสู่ระดับเดิมก่อนช่วงสถานการณ์โควิด-19
- ผลการดำเนินงานตลอดช่วงปี 2560-62 และ 1H63 : ในช่วงปี 2560-62 บริษัทมีกำไรสุทธิ เท่ากับ 476 ลบ. 694 ลบ. และ 1,138 ลบ. และงวด 1H63 บริษัทมีผลขาดทุนเท่ากับ 164 ลบ. เนื่องจากผลกระทบของการปรับเกณฑ์ LTV ในปีก่อน และการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ลูกค้าชะลอการทำสัญญาและการเข้ามาดูบ้านตัวอย่าง
- คาดผลการดำเนินงานทั้งปี 2563 – 64 ยังขาดทุน :ฝ่ายวิจัยคาดว่าผลการดำเนินงานในช่วง 2H63 ยังถูกกดดันจากภาพรวมธุรกิจอสังหาฯ ที่ซบเซาและสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ฝ่ายวิจัยคาดผลการดำเนินงานในช่วง 2H63 จะขาดทุนต่อเนื่องทำให้ประมาณการทั้งปี 2563 จะขาดทุนราว 723 ล้านบาท ทั้งนี้ยังไม่รวมรายการพิเศษที่ผู้บริหารคาดว่าจะได้ข้อสรุปในการขายที่ดินและเงินลงทุนในโรงแรมรอยัล ออคิดราวไตรมาส 4/63 ซึ่งประมาณกำไรพิเศษเบื้องต้นราว 2 – 2.5 พันล้านบาท สำหรับปี 2564 เราประมาณการรายได้จากการขายรวม 8 หมื่นล้านบาท และคาดผลการดำเนินงานมีผลขาดทุนราว 928 ล้านบาท
- เริ่มต้นด้วยคำแนะนำ “ถือ” ฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก ประเมินราคาเหมาะสมด้วยวิธี Prospective PBV ที่ระดับ 0.2 เท่า ซึ่งเป็นระดับค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 2 ปี ซึ่งต่ำกว่า PBV ของอุตสาหกรรมที่ระดับ 0.96 เท่า ทั้งนี้ เราประเมินมูลค่าตามบัญชีต่อหุ้นในปี 2564 ราว 1.53 บาทต่อหุ้น คำนวณเป็นราคาเหมาะสมปี 2564 ราว 0.31 บาทต่อหุ้น ซึ่งใกล้เคียงกับราคาปัจจุบัน แต่ยังไม่รวมอัพไซต์จากแผนขายที่ดินและเงินลงทุนใน ROH ที่คาดจะเกิดขึ้นภายในปลายปี 2563 เราจึงเริ่มต้นด้วยคำแนะนำ “ถือ”
ปัจจัยเสี่ยง
1. ภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัวช้า กดกำลังซื้อของผู้บริโภค
2. การแพร่ระบาดซ้ำของไวรัสโควิด-19 กดดันภาพรวมธุรกิจโรงแรมทั้งในประเทศและประเทศญี่ปุ่นฟื้นตัวได้ช้า
3. การก่อสร้างล่าช้าไม่เป็นไปตามแผนการโอน
4. การลดภาระหนี้สินไม่เป็นไปตามแผน
5. การออกหุ้นกู้ชุดใหม่เพื่อทดแทนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดชำระทำไม่ได้ตามแผน