ผู้นำ& นวัตกร สร้างได้?

ผู้นำ& นวัตกร สร้างได้?

ผู้นำและนวัตกร สร้างได้จริงหรือ ? โดยไม่ต้องรอคอยพรสวรรค์

เพื่อยืนยันแนวคิดดังกล่าว ล่าสุด "แพคริม กรุ๊ป" เปิดตัวเครื่องมือที่ชื่อว่า Result-based Innovation Solutions (RIS) โซลูชันที่บูรณาทั้งหลักการและกระบวนการของสถาบันและปรมาจารย์ด้านนวัตกรรมระดับโลก เพื่อตอบโจทย์ธุรกิจไทยในยุค Business Transformationอาทิ FranklinCovey, DPI เช่น “Job to be Done : Customer Centric Innovation” ที่คิดค้นโดย Clayton M. Christensen เป็นต้น เพื่อสร้างผู้นำและนวัตกร หรือผู้ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนนวัตกรรมที่สร้างผลลัพธ์จับต้องได้ รวมทั้งยังสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่สนับสนุนนวัตกรรม (Innovative Culture)


"แมนรัตน์ ประดิษฐ์วงศ์สิน" ที่ปรึกษาอาวุโส แพคริม กรุ๊ป กล่าวว่า ที่มีเปิดตัว “RIS”มีสาเหตุจากพันธกิจแพคริมมีเป้าหมายต้องการสร้างคนดี สร้างคนเก่งที่สามานถตอบโจทย์ในการสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจ(Business Results) ให้กับลูกค้า ก็เพราะโลกปัจจุบันคำว่า “นวัตกรรม” ถือเป็นองค์ประกอบหรือ “จิ๊กซอว์” ชิ้นสำคัญตัวหนึ่งของทุกๆธุรกิจ "ที่ไม่มีไม่ได้" อีกต่อไป เนื่องจากนวัตกรรมมีความสำคัญในการขับเคลื่อนการเจริญเติบโตให้กับธุรกิจอย่างยั่งยืน


“วันนี้นิยามของ Innovations ไปไกลกว่าคำว่า Inventors ไม่ใช่แค่การสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆ Clayton M. Christensen ปรมาจารย์ด้านนวัตกรรมบอกว่า Innovation ที่ประสบความสำเร็จ มาจาก Job to be done หรือความต้องการที่แท้จริงของลูกค้าที่บางครั้งไม่สามารถบอกออกมาได้ตรงๆ นั่นคือถ้าเราสามารถหา Job to be done ได้
ชัดเจน โซลูชันของเราก็จะตอบโจทย์”


แพคริมมีความเชื่อว่าการสร้างผลลัพธ์อย่างยั่งยืน ต้องทำควบคู่บูรณาการไปด้วยกัน ระหว่างการสร้างนวัตกรที่ทำงานร่วมกันได้ดี (Collaborative Innovators) กับการพัฒนาผู้นำแห่งนวัตกรรม (Innovative Leaders) รวมไปถึงสภาวะแวดล้อมที่เกื้อหนุน (Innovative Environment) รวมไปถึงโครงสร้างและวัฒนธรรมองค์กร กระบวนการและเครื่องมือ (Toolsets)

โดยทั้งหมดนี้ แพคริมจึงได้สร้างเป็นเฟรมเวิร์คที่มีครบถ้วนทั้งในส่วนของซอฟท์สกิลและฮาร์ดสกิล ช่วยแก้ปัญหาจุดติดขัดต่างๆเกี่ยวกับนวัตกรรมในองค์กรอย่างเห็นผลได้จริง จึงเป็นที่มาของการพัฒนาโซลูชั่น RIS ที่บูรณาการโซลูชันด้านนวัตกรรมจากบริษัทที่ปรึกษาชั้นนำ อาทิ Customer Centric Innovation จาก FranklinCovey, Systematic & Creative Thinking และ Strategic Innovation จาก Decision Processes International (DPI) , ตลอดจนการนำ Job to be done Innovation อันเป็น Framework ที่คิดค้นโดย Clayton M. Christensen มาเติมเต็มการทำ Design Thinking, Design Sprint


โดยโซลูชันเหล่านี้สามารถปรับหรือประยุกต์ให้เหมาะสม สอดคล้องกับโจทย์ของแต่ละองค์กร และทำในรูปแบบทั้งการปรับ mindset การให้เครื่องมือ รวมถึงการทำโครงการนวัตกรรม การได้นำเสนอผู้บริหารจริงๆ เรียนรู้ ทดลอง ทำซ้ำ เป็น Result-base ที่วัดผลได้หรือ ROI (Return on Investment) ทั้งนี้ก็เพื่อให้มั่นใจว่าจะสามารถตอบโจทย์องค์กรในการสร้างนวัตกรรมและวัฒนธรรมองค์กรที่เกื้อหนุนนวัตกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยความต้องการของลูกค้าที่แท้จริงอย่างมีกลยุทธ์และเกิดความต่อเนื่องยั่งยืน


"ดร.ศิรินทร์ชญา ปรีชาภัฎสกุล" ที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญด้านนวัตกรรม แพคริม กรุ๊ป กล่าวว่า RIS จะช่วยสร้างวัฒนธรรมองค์กรซึ่งจะนำมาสู่ประโยชน์ที่เชื่อมโยงตรงกับ Business Results ในสี่มิติ ได้แก่ 1.การสร้าง pipeline ของสินค้าและบริการใหม่ ด้วยกระบวนการมองหา Current Explicit Needs และ Future Implicit Needs ของลูกค้า 2.การขยาย
ฐานลูกค้าใหม่และการรักษาฐานลูกค้าเดิม ด้วยกระบวนการสร้างนวัตกรรมที่ใช้ลูกค้าเป็นศูนย์กลางและการทำความรู้จักกับ Job to be Done ของลูกค้า 3. การสร้าง Agile Teams และ 4. การพัฒนารูปแบบธุรกิจใหม่ ๆ


ด้านผู้บริหารองค์กรที่ได้นำโซลูชันและบริการของแพคริมไปปรับใช้ ประกอบด้วย SCG,SCBและ Gosoft ได้แลกเปลี่ยนมุมมอง ดังนี้


"ดร.เธียรไชย ยักทะวงษ์" Internal Instructor, Center of Expertise, SCG กล่าวว่า SCG เป็นองค์กรที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลางในการขับเคลื่อนนวัตกรรม หลักสูตร Job to be Done ถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญที่ได้นำมาใช้เสริมกับการทำ Design Thinking และ Business Model Canvas นอกเหนือจากการพัฒนาคนทั้งในด้าน Leadership Skills และ Technical Skills ให้เกิดผลลัพธ์ได้จริง


"ดร.สราวุธ หลิมไชยกุล" Head of HR , Gosoft (Thailand) บริษัทในเครือซีพี ออลล์ที่อยู่เบื้องหลังเทคโนโลยีและระบบไอทีของร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven กล่าวว่า จากการสร้าง Innovative Culture และ Attributes 4 คุณลักษณะของ Gosoft ที่ต้องการเปิดกรอบความคิดของพนักงานและผู้บริหารให้ออกมานอกกรอบของไอที สู่การส่งมอบสินค้า บริการ หรือ
ประสบการณ์ที่ลูกค้าพึงพอใจ หรือสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับลูกค้าได้จริงๆนั้น ได้นำเอาโซลูชันดังกล่าวมาใช้ ทั้งในมุมของการพัฒนาผู้นำ และการใช้ Job To Be Done และ Design Sprint มาทำHackathon จนได้หลักการที่พนักงานนำกลับไปใช้จริง และทำซ้ำได้


"ระวิวรรณ คุ้มทองมาก" Vice President, Learning & Development, Digital Transformation COE, SCB Academy กล่าวว่าธนาคารไทยพาณิชย์ได้จับมือกับพันธมิตรทั้งภาครัฐ เอกชน และสถาบันการศึกษาเปิดตัวโครงการ PMD 47 เพื่อช่วยเพิ่มทักษะคนไทยผ่านทางแพลตฟอร์ม “พลเมืองดี(จิทัล)” ซึ่งได้นำหลักสูตรเวิลด์คลาสลิขสิทธิ์ของแพคริม อาทิ Customer Centric Innovation และหลักสูตรผู้นำอื่น ๆ มาผ่านหลักการออกแบบหลักสูตรที่มุ่งเน้นที่ความเข้าใจเบื้องต้น คือ Why What 80% และ How 20% เพื่อให้ผู้เรียนเห็นประโยชน์ เข้าใจง่าย เข้าใจนำไปใช้ได้จริง รวมทั้งแพลตฟอร์มการเรียนรู้ผ่านโทรศัพท์มือถืออย่าง PacD ให้คนไทยโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย