อสังหาฯหนีเกมราคาสู่ดีไซน์“มินิมอล”

ในยุคที่ราคา โลเคชั่นของโครงการไม่แตกต่าง โอกาสที่จะถูกแย่งลูกค้าได้นั้น “ ดีไซน์ ” คือคำตอบ !สำหรับโครงการอสังหาริมทรัพย์ในการสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าที่เข้ามาเยี่ยมชมโครงการ

สุมิตรา วงภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทอร์ร่า มีเดีย แอนด์ คอนซัลติ้ง จำกัด ผู้ให้บริการมาร์เก็ต เพลส และคอนเทนท์ อสังหาริมทรัพย์ ระบุว่า จากการสำรวจพฤติกรรมคนซื้ออสังหาฯ พบว่า ปัจจัยหนึ่งที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อคือ ‘ดีไซน์’ ซึ่งได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการตัดสินใจซื้อโครงการอสังหาฯมากขึ้นจากเดิมแข่งกันที่ราคา โลเคชั่นเป็นหลัก แต่เมื่อทุกคนเปลี่ยนเวทีการแข่งขันมาที่ตลาดแนวราบ ‘ไม่ใช่’ คอนโดมิเนียม ทำให้ความได้เปรียบในการแข่งขันเรื่องราคาและโลเคชั่นไม่ได้แตกต่างกันมากนัก เพราะ ต้นทุนที่ของการพัฒนาอสังหาฯใกล้เคียงกัน ห่างจากที่ทำงานไม่ต่างกัน ราคาไม่ได้หนีกันมากนัก

ดีไซน์ จึงเข้ามาเป็นแนวทางในการสร้างความแตกต่างเพื่อสามารถแข่งขันกับคู่แข่ง เพราะบ้าน เป็นสินค้าที่คนซื้อต้องอยู่ระยะยาว ฉะนั้นต้องเลือก "สไตล์" ที่ตนเองชอบก่อน เพราะการจะไปทุบรื้ออะไรเป็นเรื่องยาก เหมือนกับการซื้อรถคนซื้อส่วนหนึ่งตัดสินใจซื้อจากหน้าตา หรือดีไซน์ของรถ เป็นลำดับต้นๆ"

กว่า 10 ปีที่ผ่านมาสไตล์ของโครงการบ้านจะเป็นแบบคลาสิก สไตล์ยุโรป อังกฤษ แต่พอมาในยุคนี้แนวคิดในการพัฒนาบ้านเริ่มเปลี่ยนมาทางญี่ปุ่น เพราะสไตล์ญี่ปุ่นดูจะเป็นมินิมอลลิสม์ (Minimalism) หรือ มินิมอล (Minimal) ดูเรียบง่ายแต่ทำให้ดูแพง เป็นสไตล์ญี่ปุ่นที่ตอบโจทย์คนไทย เพราะในสายตาและความรู้สึกของคนไทย สินค้าหรือดีไซน์ญี่ปุ่นดูเป็นของพรีเมี่ยมมากกว่าหากเทียบกับสินค้าสไตล์สแกนดิเนเวีย แม้จะมีสไตล์คล้ายกัน เพราะคนไทยชื่นชอบความเป็นญี่ปุ่นเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว

นอกจากนี้ จากงานวิจัยแบรนด์ดิ้ง ในหัวข้อ ปัจจัยในการซื้อบ้าน พบว่า ฟังก์ชั่นพื้นฐานที่เกี่ยวกับราคา ทำเล คุณภาพวัสดุ พื้นที่ใช้สอย ระบบรักษาความปลอดภัย เป็นอันดันแรก รองลงมาเป็นเรื่องของชื่อเสียง โครงการ บริการหลังการขาย และถัดมาเป็นเรื่องขอดีไซน์ แต่กลุ่มคนที่ใส่ใจเรื่องดีไซน์มากจะเป็นกลุ่มเจน ซี และเจนวายเจเนอเรชั่นวาย (Generation Y) หรือ ยุค Millennials อายุ26 ปีขึ้นไป-40ปี เจเนอเรชั่น ซี (Generation Z) อายุต่ำกว่า 26 ปีถือเป็นเอ็กซ์ตราแวลูสำหรับกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่ขายได้