Digital of Things I กว่าจะถึง Digital Revolution มนุษย์กับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ

การเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องปกติของมนุษย์ชาติ แต่ในปัจจุบัน มนุษย์ชาติกำลังเคลื่อนสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่อีกครั้ง Digital Revolution น่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่นำพัฒนาการมาสู่โลกมากกว่าทุกครั้ง

การเปลี่ยนแปลงที่ทุกคนพบเจอในปัจจุบันจะส่งผลต่อทุกองคาพยพ ในทุกๆ ด้านไม่ว่าจะเป็นการเมือง เศรษฐกิจ สังคม คุณภาพชีวิต ศิลปะวัฒนธรรม ความเชื่อทางศาสนา หรือแม้กระทั่งการก้าวเข้าสู่มิติใหม่ของปัจเจกบุคคลเลยก็เป็นได้

แน่นอนครับ ผมตั้งใจเขียนคอลัมน์นี้ เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ วิเคราะห์ คาดการณ์ พร้อมๆกับ บันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับสิ่งต่างๆ ในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ที่เรียกว่า การเปลี่ยนแปลงสู่ยุคดิจิทัล (Digital Transformation) หรือจะเรียกให้คล้ายคลึงกับเหตุการณ์การเปลี่ยนแปลงของโลกในอดีตก็คงจะต้องใช้คำว่า การปฏิวัติดิจิทัล (Digital Revolution)

ปฏิวัติเกษตรกรรม

ในอดีตกว่าแสนปี มนุษย์เปลี่ยนแปลงเข้าสู่ ‘ยุคปฏิวัติเกษตรกรรม จากมนุษย์ที่เคยกระจายกันอยู่ตามที่ต่างๆ ในทุ่งหญ้า ในป่าเขา พรานป่าที่ล่าสัตวเพื่อหาเลี้ยงชีพ กลุ่มคนที่ออกเก็บเมล็ดพืช ผลไม้เพื่อประทังชีวิต บรรพบุรุษของมนุษย์เริ่มรวมตัวเป็นกลุ่มแบ่งงานกันทำ ร่วมมือร่วมไม้ทำการเกษตรแบบรวมศูนย์เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มากขึ้น กระบวนการนี้ก็มีวิวัฒนาการต่อเนื่องมาอีกหลายพันปี เป็นที่มาการรวมตัวของเผ่าพันธุ์มนุษย์ในยุคแรกๆ

มนุษย์ส่วนใหญ่ยุติการเดินทางแบบเร่ร่อน เริ่มมีการจับจองพื้นที่ เริ่มมีอาณาเขตของตนเอง มีสังคม มีกฎระเบียบและพัฒนามาเป็นรูปแบบการปกครอง มีการปกป้องพื้นที่ มีผู้นำ มีผู้ตาม แน่นอนที่เมื่อมีพื้นที่เป็นของตนเองแล้ว การเคลื่อนย้ายก็ยากขึ้น มีการลงหลักปักฐาน อย่างไรก็ตามการปราศจากความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับธรรมชาติลมฟ้าอากาศที่ไม่สามารถควบคุมได้ นำมาซึ่งการวิงวอนร้องขอจากสิ่งที่มนุษย์ไม่มีคำตอบ ไม่ว่าจะเป็นดวงอาทิตย์ที่อยู่ๆ ก็โผล่ขึ้นมาและหายลับไปอย่างไม่มีคำตอบ ฟ้าที่มืดมิด สายฝน เสียงคำรามกึกก้องจากเบื้องบนเป็นสิ่งที่มนุษย์ทำอะไรไม่ได้นอกจากภาวนา วิงวอน ในรูปแบบต่างๆ ก่อนที่จะพัฒนามาเป็นลัทธิ ศาสนา ในอีกหลายพันปีต่อมา

ปฏิวัติอุตสาหกรรม

เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่พลิกวิถีของมนุษย์โลก เริ่มจากการคิดค้นเครื่องจักรไอน้ำที่ใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงมาใช้ในอุตสาหกรรมสิ่งทอ ในราวคริสต์ศตวรรษที่ 18 ทำให้บรรดาเกษตรกรต่างมุ่งหน้าจากพื้นที่ห่างไกลสู่เมืองใหญ่เพื่อทำงานในโรงงานอุตสาหกรรม นอกจากนั้นนวัตกรรมเครื่องจักรไอน้ำยังก่อให้เกิดคลื่นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในโลก

ไม่ว่าจะเป็นลัทธิการล่าอาณานิคมเพื่อแสวงหาพื้นที่ในการผลิตวัตถุดิบเพื่อป้อนให้กับเครื่องทอผ้าที่ทำงานไม่มีวันหยุด การอพยพของคนจำนวนมากที่ต้องมาอาศัยอยู่รวมกันทำให้เกิดโรคระบาดชนิดใหม่ๆ เกิดสังคมชนชั้นที่แตกต่างกันด้านรายได้ เกิดปัญหาสังคม คุณภาพชีวิตและอื่นๆ ตามมา

เครื่องจักรไอน้ำเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาอุตสาหกรรมเหล็ก ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตสิ่งต่างๆ มากมาย เป็นสิ่งที่ทำให้เกิดระบบรางในการเดินทาง เครื่องจักรไอน้ำที่เป็นตัวขับเคลื่อนยานพาหนะขนส่งผู้คนและสิ่งของไปในที่ต่างๆ

การเติบโตอย่างรวดเร็วของอุตสาหกรรมนำมาซึ่งการแข่งขัน แก่งแย่งก่อนที่จะกลายเป็นการขัดแย้งครั้งยิ่งใหญ่ของมวลมนุษย์ชาติที่เรียกว่า สงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 ตามลำดับ ต่อด้วยการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและลัทธิการเมืองการปกครองทั่วโลก

ปฏิวัติดิจิทัล

ที่ผมเกริ่นมายืดยาวก็เพื่อจะให้ผู้อ่านได้เห็นภาพการเปลี่ยนผ่านในห้วงเวลาต่างๆ ของโลก และเชิญชวนทุกท่านร่วมกันคิดถึงการเปลี่ยนผ่านของโลกเข้าสู่ยุคดิจิทัลที่กล่าวกันว่าเป็นยุคที่จะเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ไปอย่างสิ้นเชิง การเกิดขึ้นของ AI, Robotic, Big Data, Cloud Computing และอื่นๆ อีกมากมาย

สิ่งต่างๆ เหล่านี้คือการทดแทนแรงงานของมนุษย์ มันสมองของมนุษย์ ระบบความจำของมนุษย์ ถ้าวิเคราะห์กันอย่างลึกซึ้ง Digital อาจจะเข้ามาแทนที่มนุษย์และเปลี่ยนแปลงมนุษย์ไปอย่างสิ้นเชิงก็เป็นได้

ผมเลือกใช้ชื่อคอลัมน์นี้ว่า Digital of Things เพราะเชื่อว่า ดิจิทัลจะทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปอย่างที่ทุกคนไม่เคยคาดคิดมาก่อน มากกว่าหนัง Sci-fi ล้ำๆ สนุกๆ ที่ทุกๆ ท่านเคยได้ดู การปฏิวัติดิจิทัลในครั้งนี้จะส่งผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในทุกๆ ด้านไปพร้อมๆกัน ไม่ใช่แค่การเกษตร การอุตสาหกรรม เหมือนในอดีต

การปฏิวัติดิจิทัลไม่เพียงแต่จะทำให้โลกพัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดดทางด้านความเจริญ แต่จะเข้ามากระทบกระบวนการทางความคิดอย่างเต็มรูปแบบ เทคโนโลยีดิจิทัลจะทำให้ทุกอย่างมีตรรกะ มีเหตุผล มีกระบวนการในการพิสูจน์หาความจริงเกี่ยวกับทฤษฎีทางความเชื่อด้าน ลัทธิการเมืองการปกครอง วิชาการทางเศรษฐกิจ วิถีใหม่ของเงินตรา ความเชื่อทางสังคม ศาสนา วัฒนธรรม และอื่นๆ

จากวันนี้ไปผมจะมาเล่าและพร้อมจะแลกเปลี่ยน ชวนทุกๆ ท่านก้าวเข้าสู่โลกยุคดิจิทัลไปด้วยกันและเรื่องราวที่เราจะพูดคุยกันในที่นี้จะถูกเก็บไว้ในรูปแบบของ digital อยู่บน cloud มี digital footprint ที่ไม่ว่าอีกกี่พันปีก็ไม่น่าจะมีใครลบล้างมันออกไปจากโลกใบนี้ได้ แล้วพบกันนะครับ