ถึงเวลาช้อปหุ้นอสังหา? ‘พ้นจุดต่ำสุด’ รับกำลังซื้อฟื้น
ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยปีนี้ซบเซาหนัก ท่ามกลางการระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและกำลังซื้อของประชาชน สะท้อนจากตัวเลขยอดขายยอดโอนที่ทรุดหนักมาตั้งแต่ต้นปี โดยเฉพาะโครงการแนวสูงอย่างคอนโดมิเนียม
ส่วนโครงการแนวราบยังพอไปได้ เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง นอกจากนี้ จะเห็นว่าการเปิดตัวโครงการใหม่ลดลงมากจากปีที่ผ่านมา หลายโครงการต้องถูกเลื่อนออกไปก่อนเพราะดีมานด์แทบไม่มี โดยเวลานี้ดีเวลลอปเปอร์พยายามเร่งระบายสต็อกเหลือขายออกไปก่อน เพื่อตุนเงินสดไว้ให้มากที่สุด
แต่อย่างไรก็ตาม เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวขึ้นบ้างแล้ว หลังหลายบริษัทประกาศผลประกอบการงวดล่าสุด ไตรมาส 3 ปี 2563 ออกมาดีเกินคาด ยอดขายปรับตัวขึ้นจากไตรมาสก่อน หลังรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ทำให้เศรษฐกิจเริ่มกลับมาขับเคลื่อนอีกครั้ง
สะท้อนต่อไปยังราคาหุ้น โดยตลอดทั้งสัปดาห์นี้จะเห็นว่ามีแรงซื้อหุ้นอสังหาฯ หลายๆ ตัวกลับเข้ามา ทำให้ชวนคิดต่อไปว่าถึงเวลาหรือยังที่จะเข้าซื้อหุ้นอสังหาฯ อีกครั้ง?
ลองไปไล่ดูตัวเด่นๆ มี บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AP ที่โตกระฉูดสวนวิกฤต รายได้ 9 เดือนแรก พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 35,180 หมื่นล้านบาท กำไรสุทธิ 3,284 ล้านบาท มากกว่ากำไรทั้งปี 2562 ที่ 3,067 ล้านบาท และมียอดขายรอรับรู้รายได้อีกเกือบ 4 หมื่นล้านบาท หลังบริษัทปรับตัวได้เร็ว ด้วยการหันมารุกเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมแทนคอนโดฯ
ส่วนบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI โกยกำไรไตรมาส 3 เข้ากระเป๋าไป 765 ล้านบาท โตกระฉูด 196% จากไตรมาสก่อน ตามการขยายตัวของรายได้และมาร์จินที่เพิ่มขึ้น โดยปีนี้มียอดโอนเข้ามาแล้ว 3.85 หมื่นล้านบาท และยังมีแบ็กล็อกอีก 3.2 หมื่นล้านบาท รองรับรายได้ไปอีก 3 ปี กลายเป็นปัจจัยบวกดันราคาหุ้นทำนิวไฮรอบ 4 เดือน ทะลุ 0.70 บาท ขึ้นมาได้
บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC ทำได้ดีเช่นกัน งบไตรมาส 3 โตเด่น รายได้ 5,749 ล้านบาท เติบโต 35% และกำไรสุทธิ 684 ล้านบาท เติบโต 55% จากงวดปีก่อน รับอานิสงส์รายได้โครงการแนวราบทำสถิติสูงสุดใหม่ 4,406 ล้านบาท
ด้านบริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI ในภาพรวมถือว่าออกมาดีกว่าคาด กำไรสุทธิไตรมาส 3 ที่ 1,216.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 190% จาก 420 ล้านบาท ในไตรมาสก่อน หลังมีคอนโดฯ ใหม่เริ่มโอน 2 โครงการ ส่วนยอดขายแนวราบฟื้นตัวต่อเนื่อง ขณะที่ปัจจุบันมียอดขายในมือรอรับรู้รายได้อีกราว 4 หมื่นล้านบาท
ส่วนบริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSH ที่ครองแชมป์รายได้สูงสุดมาหลายปี มาไตรมาสนี้ตุนยอดขายไป 6,584 ล้านบาท เติบโต 88% จากไตรมาส 2 ที่มียอดขายรวม 3,507 ล้านบาท แต่ลดลงถึง 53.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 14,113 ล้านบาท โดยยอดขายลดลงในทุกกลุ่ม ทั้งทาวน์เฮ้าส์ บ้านเดี่ยว และคอนโดฯ ซึ่งในภาพรวมดูจะอ่อนแอกว่าหลายๆ บริษัท
จนทำให้พฤกษาต้องประกาศยกเครื่ององค์กรครั้งใหญ่ในรอบ 27 ปี ด้วยการหันมารุกธุรกิจใหม่ๆ ที่มีรายได้ประจำ เพื่อกระจายความเสี่ยงจากการพัฒนาที่อยู่อาศัย ประเดิมด้วยธุรกิจโรงพยาบาลที่จะเปิดให้บริการในปีหน้า นอกจากนี้ มีแผนทำอพาร์ตเมนต์ ตลาดสด จนไปถึงการขายสินทรัพย์เข้ากองรีท
อีกบริษัทที่น่าสนใจ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN ซึ่งเน้นโครงการแนวสูง มาไตรมาสล่าสุด พลิกกลับมามีกำไร 292 ล้านบาท จากที่ขาดทุน 574 ล้านบาท ในไตรมาสก่อน แต่พอเจาะดูไส้ในพบว่ามีการบันทึกรายการพิเศษจากการขายพื้นที่เช่า 300 ล้านบาท ซึ่งหากตัดออกไปผลประกอบการขาดทุนราว 40 ล้านบาท จากยอดขายที่ยังหดตัวแรง
แม้ผลประกอบยังอ่อนแอ แต่กลับมีข่าวดีเข้ามาช่วยดันราคาหุ้นทำนิวไฮรอบ 5 เดือน หลังไปเข้าตายักษ์ใหญ่บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS กระโดดเข้ามาถือหุ้นในสัดส่วน 7.5%
ด้านบล.บัวหลวง ระบุว่า แนะนำให้นักลงทุนเริ่มกลับมามองหุ้นอสังหาริมทรัพย์อีกครั้ง เนื่องจากมูลค่าและราคาหุ้นปรับตัวลงมามากแล้ว โดยกลยุทธ์ลงทุนแนะนำให้เรียงลำดับไปดังนี้ บริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH เนื่องจากมีมาร์เก็ตแคปใหญ่ที่สุดในกลุ่มและอยู่ในดัชนี SET50 จึงเป็นเป้าหมายของเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติที่จะไหลเข้ามา ให้ราคาพื้นฐาน 8 บาท
ตามด้วย SPALI ที่พิ้นฐานยังแข็งแกร่ง ให้ราคาเหมาะสมที่ 18 บาท และ AP ที่ประกาศกำไรนิวไฮในไตรมาส 3 ที่ผ่านมา แต่แนะนำให้เล่นสั้นก่อนจบปี ราคาพื้นฐาน 7.50 บาท