ททท.เผยหยุดยาว10-13ธ.ค.นี้ เงินสะพัดกว่า 1.26 หมื่นล้านบาท
“ททท.” เผยหยุดยาววันรัฐธรรมนูญ 4 วัน ตั้งแต่ 10-13 ธ.ค.นี้ คนไทยออกเที่ยว 3.11 ล้านคน-ครั้ง เงินสะพัดกว่า 1.26 หมื่นล้านบาท ชี้โครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” มีผลต่อการตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยว 74.15 % ขณะที่ “คนละครึ่ง”มีผลต่อการใช้จ่ายท่องเที่ยว 88.57%
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า สถานการณ์ท่องเที่ยวช่วงวันหยุดยาวเนื่องในวันรัฐธรรมนูญ ระหว่างวันที่ 10-13 ธ.ค.2563 คาดว่าจะมีผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ 3.11 ล้านคน-ครั้ง ชะลอตัวลงเล็กน้อยจากช่วงวันหยุดพิเศษเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา และมีการใช้จ่ายสร้างรายได้หมุนเวียนมากกว่า 12,600 ล้านบาท มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย 40 %
ทั้งนี้จากผลการสำรวจพฤติกรรมการเดินทางท่องเที่ยวของชาวไทยในเดือน ธ.ค.2563 ของกองวิจัยการตลาด ททท. (สำรวจ ณ วันที่ 25 พ.ย.2563) พบว่าโครงการเราเที่ยวด้วยกัน มีผลต่อการตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยว 74.15% ขณะที่โครงการคนละครึ่งมีผลต่อการใช้จ่ายในการท่องเที่ยว 88.57% โดยคนไทยมีแผนเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ 80.4% เพิ่มขึ้น 6.67% จากผลการสำรวจในเดือน ก.ย. ส่วนใหญ่เลือกเดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่ 62.82% รองลงมาเป็นช่วงวันหยุดรัฐธรรมนูญ 21.06% และช่วงวันพ่อแห่งชาติ 17.05%
การเดินทางส่วนใหญ่เป็นแบบค้างคืน 87.64% มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยรวม 9,136 บาท/ทริป วันพักเฉลี่ยในการเดินทาง 3.37 วัน ส่วนใหญ่วางแผนการเดินทางข้ามภูมิภาค 63.05% โดยมีพื้นที่ภาคเหนือเป็นจุดหมายปลายทางหลักอันดับ 1 รองลงมาคือภาคตะวันออก ภาคกลาง กรุงเทพฯกับปริมณฑล และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดยอดนิยม ได้แก่ เชียงใหม่ ชลบุรี กรุงเทพฯ เพชรบูรณ์ กระบี่
ผู้ร่วมเดินทางเฉลี่ย 4.3 คน ส่วนใหญ่เป็นการเดินทางแบบครอบครัว พาหนะที่ใช้ในการเดินทางส่วนใหญ่เป็นรถยนต์ส่วนตัว 56.24% รองลงมาคือเครื่องบิน 12.05% และรถโดยสารประจำทาง 10.89% ขณะที่มากกว่า 60% เลือกพักในโรงแรมและรีสอร์ท มีเพียง 13.88% ที่เลือกพักบ้านเพื่อนหรือญาติ สำหรับกิจกรรมที่สนใจทำมากที่สุด ได้แก่ ชมทิวทัศน์ ชมธรรมชาติ ถ่ายรูป ชอปปิง เที่ยวศาสนสถาน รับประทานอาหารท้องถิ่น เป็นต้น
ผู้ว่าการ ททท.กล่าวเพิ่มเติมว่า อย่างไรก็ตามมีปัจจัยลบที่ส่งผลให้คนไทยเกิดความลังเลในการเดินทางท่องเที่ยวช่วงวันหยุดยาวนี้ ได้แก่ 1.การแพร่ระบาดระลอกใหม่ของโรคโควิด-19 จากคนไทยที่ลักลอบกลับเข้าประเทศไทยผ่านช่องทางธรรมชาติใน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ทำให้ธุรกิจท่องเที่ยวโดยเฉพาะใน จ.เชียงรายและ จ.เชียงใหม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากนักท่องเที่ยวเริ่มวิตกกังวลและไม่เชื่อมั่นกับสถานการณ์การกลับมาแพร่ระบาดภายในประเทศ
โดยกลุ่มที่มีความอ่อนไหวต่อข่าว อาทิ นักท่องเที่ยวกลุ่มครอบครัว กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มประชุมสัมมนา เริ่มทยอยยกเลิกการจองห้องพัก ยกเลิกการจัดงานสัมมนา และอีเวนต์ต่างๆ ในพื้นที่ และนักท่องเที่ยวบางส่วนอาจมีการปรับเปลี่ยนแผนการเดินทางในช่วงวันหยุดด้วยการหลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดหันมาเดินทางระยะใกล้ และชะลอการเดินทางระยะไกลไปในช่วงเทศกาลปีใหม่แทน ส่งผลให้อัตราการเข้าพักเฉลี่ยของภาคเหนือชะลอตัวลง นอกจากนี้ยังมีสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ได้แก่ นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี กระบี่ ตรัง พัทลุง และสงขลา ได้ส่งผลกระทบต่อการเดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่ ทำให้อัตราการเข้าพักเฉลี่ยของภาคใต้ลดลง