พาณิชย์กางแผนส่งออกปี64
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศกางแผนขับเคลื่อนส่งออกปี 64 เตรียมจัดเจรจาธุรกิจออนไลน์ถี่ยิบไตรมาส 1-2 รวม 22 ครั้ง ครอบคลุมทุกกลุ่มสินค้า เข้าร่วมงานแฟร์ในต่างประเทศและจัดกิจกรรมในรูปแบบ Mirror & Mirror ส่งเสริมการขายสินค้าไทยทั้งออนไลน์ ออฟไลน์
นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยถึงแผนการทำงานขับเคลื่อนการส่งออกในปี 2564 ตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ว่า ปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังไม่คลี่คลาย กรมฯ จึงได้ปรับแผนการส่งเสริมและผลักดันการส่งออกของปี 2564 ให้เหมาะสม โดยจะเน้นใช้ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ แต่กิจกรรมส่วนใหญ่จะเป็นช่องทางออนไลน์ เพราะช่องทางออฟไลน์ ยังไม่น่าจะดำเนินการได้เต็มที่
สำหรับช่องทางออนไลน์ที่จะนำมาใช้ จะให้ความสำคัญกับการเจรจาธุรกิจออนไลน์เฉลี่ยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง หรือช่วงไตรมาส 1-2 จะมีการจัดรวม 22 ครั้ง แยกเป็นไตรมาส 1 จำนวน 1 ครั้ง ในกลุ่มสินค้าเพื่อสุขภาพ ชิ้นส่วนยานยนต์ ฮาลาล สปา อาหารสำเร็จรูป เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน เครื่องประดับ และไตรมาส 2 อีก 10 ครั้ง ในกลุ่มสินค้าแม่และเด็ก อาหารสัตว์ อาหารและเครื่องดื่ม เครื่องมือแพทย์ และยางพาราและผลิตภัณฑ์
นายสมเด็จกล่าวว่า กรมฯ ยังจะเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในต่างประเทศ และจัดกิจกรรมในรูปแบบ Mirror & Mirror ด้วยการนำสินค้าไทยไปจัดแสดง และให้ทูตพาณิชย์และล่ามทำหน้าที่ขาย และจัดเจรจาธุรกิจระหว่างผู้ซื้อ ผู้นำเข้ากับผู้ส่งออกไทยผ่านทางออนไลน์ มีเป้าหมายเข้าร่วมงาน เช่น Tokyo International Gift Show , Fashion World Tokyo , China International Import Expo , China-ASEAN Expo และ Gulfood รวมทั้งจะจัดงานแสดงสินค้าไทยในต่างประเทศในรูปแบบ M&M ในงาน Top Thai Brands , Thailand Week และ Mini Thailand Week กว่า 20 งาน ในพนมเปญ ฮานอย โฮจิมินห์ ย่างกุ้ง ปูเน่ ไฮเดอราบัด เจนไน นิวเดลี ธากา หรือการาจี และคุนหมิง เป็นต้น
ขณะเดียวกัน จะจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายในต่างประเทศ ทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ โดยมีแผนร่วมกับห้างสรรพสินค้า และผู้นำเข้า เช่น ญี่ปุ่น ห้าง AEON , Beisia , DONKI เน้นสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม และผลไม้พรีเมี่ยม จีน ต่อยอดกิจกรรม Thai Fruits Golden Months in China 10 เมืองทั่วจีน อาเซียน ผลักดันสินค้าไทยรายการใหม่ๆ สู่ห้าง Modern Trade กว่า 800 สาขาทั่วภูมิภาคอาเซียน และจะร่วมกับแพลตฟอร์มออนไลน์จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย เช่น Tmall จีน , Coupang เกาหลีใต้ , Bigbasket อินเดีย , Klangthai กัมพูชา , Lazada Redmart และ Amazon สิงคโปร์ และ Prestomall.com มาเลเซีย
ส่วนการประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์สินค้าไทย จะเน้นประชาสัมพันธ์ตราสัญลักษณ์ Thai Select ส่งเสริมการขายอาหารไทยร่วมกับร้านอาหารที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thai Select ผ่านสื่อโซเชียลมีเดียที่ได้รับความนิยมในตลาดเป้าหมาย เช่น สหรัฐฯ ยุโรป รัสเซีย ตะวันออกกลาง และสร้างภาพลักษณ์ เพิ่มความเชื่อมั่นสินค้าไทย เป็นแคมเปญใหญ่ทั่วโลก เน้นด้านคุณภาพ มาตรฐาน และความปลอดภัยในสินค้าอาหารว่าสินค้าไทยปลอดโควิด-19
นอกจากนี้ จะจัดงานแสดงสินค้าในรูปแบบเสมือนจริง (Virtual Exhibition) ซึ่งได้ประเดิมจัดไปแล้วในงานบางกอกเจมส์ เดือนพ.ย.2563 และมีแผนจัดงานแสดงสินค้านานาชาติอีก เช่น Bangkok Gems and Jewelry Fair ต้นปี 2564 , STYLE , THAIFEX ANUGA ASIA , TAPA , TILOG-LOGISTIX
สำหรับกิจกรรมอื่นๆ จะเร่งขยายตลาดเมืองรอง เร่งขยายความสัมพันธ์ทางการค้า และจัดให้มีการลงนามความร่วมมือ MOU กับหน่วยงานภาครัฐในเมืองและมณฑลต่างๆ ของประเทศเป้าหมาย เช่น จีน อินเดีย โดยมีแผนที่จะลงนาม MOU ระหว่างรัฐเตลังกานากับกระทรวงพาณิชย์ของไทย พร้อมจัดกิจกรรม Sourcing for India ระหว่าง 18-22 ม.ค.2564 เน้นสินค้าน้ำมันปาล์ม อาหาร สัตว์เลี้ยง เครื่องสำอาง และของเล่นเด็ก
