“พิพัฒน์” สั่ง ททท.ประสานคลัง-กรุงไทย ตรวจสอบพฤติกรรมฉ้อโกงจองโรงแรมโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน”
“พิพัฒน์” สั่งการ ททท.ประสานกระทรวงการคลัง-กรุงไทย ตรวจสอบพฤติกรรมฉ้อโกงจอง รร.โครงการ“เราเที่ยวด้วยกัน” หลังพบธุรกรรมการจองสิทธิ 5 ล้านคืนผิดปกติ ด้าน “ยุทธศักดิ์” ผู้ว่า ททท.นัดแถลงข่าว 8.30 น.วันนี้ ชี้เป็นการร่วมมือระหว่างโรงแรมและผู้ได้รับสิทธิ์
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า กระทรวงฯได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการฉ้อโกงโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ที่รัฐบาลช่วยจ่ายเงินสนับสนุนค่าห้องพัก 40% แต่สูงสุดไม่เกิน 3,000 บาทต่อคืน ให้ผู้ร่วมรับสิทธิค่าโรงแรมที่พัก 5 ล้านคืน โดยกำหนดโควตาคนละ 10 คืน เริ่มต้นโครงการฯมาตั้งแต่วันที่ 18 ก.ค.2563 เดิมจะสิ้นสุดวันที่ 31 ม.ค.2564 แต่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้ขยายไปถึงวันที่ 30 เม.ย.2564 พร้อมเพิ่มสิทธิห้องพักอีก 1 ล้านคืน รวมเป็น 6 ล้านคืน
ล่าสุดห้องพัก 5 ล้านคืนแรกมีผู้ใช้สิทธิจองไปครบ คงเหลือจำนวนศูนย์คืนแล้ว ทั้งนี้เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.ที่ผ่านมายังเหลือจำนวนห้องพัก 225,922 คืน แต่ได้หมดลงในวันที่ 11 ธ.ค.2563 ส่วนตั๋วเครื่องบินวันนี้ (15 ธ.ค.) ยังคงเหลือ 1.58 ล้านสิทธิ ซึ่งล่าสุดการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้ประสานกับกระทรวงการคลังและธนาคารกรุงไทย ทำการวิเคราะห์ธุรกรรมในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาและประสานงานกับสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) เพื่อหาทางป้องกันการหลอกลวงในอนาคต
“การจองที่รวดเร็วเป็นพิเศษอาจได้รับแรงสนับสนุนจากความต้องการออกท่องเที่ยวสูงในช่วงไฮซีซั่น แต่ต้องตรวจสอบธุรกรรมเหล่านั้นเพื่อดูว่ามีการกระทำผิดหรือไม่ ซึ่งรูปแบบการฉ้อโกงพบได้อย่างสม่ำเสมอในแคมเปญกระตุ้นการท่องเที่ยวหลายรายการที่เปิดตัวก่อนหน้านี้และรัฐบาลพยายามมากขึ้นในการหาแนวทางแก้ไขที่เป็นประโยชน์เพื่อป้องกันเหตุการณ์ดังกล่าว”
ด้านนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ททท.จะแถลงข่าวถึงกรณีที่เกิดความร่วมมือฉ้อโกงในโครงการเราเที่ยวด้วยกันที่อาคารสำนักงาน ททท. วันที่ 15 ธ.ค.2563 เวลา 8.30 น. ซึ่งการโกงจะเกิดขึ้นไม่ได้หากโรงแรมไม่ให้ความร่วมมือกับผู้ที่ได้รับสิทธิ เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเป็นโรงแรมขนาดเล็ก ซึ่ง ททท.ได้ประสานกับสำนักงานเศรษฐกิจการคลังและธนาคารกรุงไทย ตรวจสอบธุรกรรมที่ผิดปกติ อย่างไรก็ตามการฉ้อโกงที่เกิดขึ้นจะถูกแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ส่วนที่ ครม.มีมติเพิ่มห้องพักอีก 1 ล้านห้องนั้นจะต้องดูความพร้อมของระบบก่อน ซึ่งอาจจะยังไม่ใช่วันที่ 16 ธ.ค.นี้