มนุษย์จะอยู่อย่างไรในโลก Digital
ทุกครั้งของการเปลี่ยนแปลงจะมีมนุษย์บางกลุ่มทะยานไปข้างหน้าเป็นผู้นำของโลก ช่วงชิงโอกาสมากมายจากนวัตกรรมนั้นๆ ขณะเดียวกันก็จะมีมนุษย์บางเผ่าพันธุ์ที่ไม่ยอมปรับตัวหรือเชื่องช้าจนกลายเป็นชนชั้นล่างในหมู่มนุษย์ด้วยกัน
‘Digital Disruption’ เป็นคำที่ถูกนำมากล่าวถึงอยู่ตลอดเวลา มีการคาดการณ์ว่าการเข้ามาของ Digital จะทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป บริษัทขนาดใหญ่จะล่มสลาย ผู้คนจะตกงาน นิสิตนักศึกษาที่จบใหม่จะไม่มีงานทำ อาชีพมากมายจะหายไปจากโลกใบนี้ ซึ่งข้อเท็จจริงที่ว่าทุกอย่างจะไม่เหมือนเดิมเมื่อ Digital เข้ามานั่นก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่มนุษย์คิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ ที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของโลก
และทุกๆ ครั้งของการเปลี่ยนแปลงก็จะมีมนุษย์บางกลุ่มบางเผ่าพันธุ์ทะยานไปข้างหน้าเป็นผู้นำของโลก ช่วงชิงโอกาสแสวงหาผลประโยชน์มากมายจากนวัตกรรมนั้นๆ ในขณะเดียวกันก็จะมีมนุษย์บางเผ่าพันธุ์ที่ไม่ยอมปรับตัวหรือเชื่องช้าจนกลายเป็นชนชั้นล่างในหมู่มนุษย์ด้วยกัน
- กำเนิดโลก Digital
โลก Digital เริ่มต้นจากมนุษย์ได้พัฒนาระบบคอมพิวเตอร์ ที่ใช้รูปแบบและทฤษฎีตัวเลขฐานสอง หรือ 01 มาใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลจำนวนมากมายมหาศาลไว้ในฟอร์มเดียวกัน ทำให้ง่ายต่อการจัดเก็บ คำนวณและประมวลผล
ต่อมาเมื่อมนุษย์คิดค้นระบบอินเทอร์เน็ตที่พัฒนาต่อยอดมาจากระบบการสื่อสารแบบโทรเลขและโทรศัพท์มาเป็นการส่งภาพส่งเสียงส่งข้อมูลขนาดใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว การเกิดขึ้นของ World Wide Web (WWW.) ทำให้มนุษย์สามารถสื่อสาร เข้าถึงและแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้ทุกที่ทุกเวลาโดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง การนำเสนอข้อมูลบนโลกของ www. ทำให้มนุษย์จำนวนมหาศาลบนโลกสามารถเห็นในสิ่งเดียวกันได้พร้อมกัน ความสะดวกรวดเร็วง่ายทำให้สังคมแบบเดิมๆ ที่มนุษย์เคยดำรงชีวิตอยู่ก่อนหน้าค่อยๆ หมดไป และเปลี่ยนเป็น social network หรือเครือข่ายสังคมออนไลน์อย่างเต็มรูปแบบ
มนุษย์เริ่มสละความเป็นปัจเจกและเข้าสู่สังคมแห่งการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ได้อย่างสบาย เพราะมนุษย์ถือกำเนิดมาโดยมีพันธุกรรมแบบสัตว์สังคมมาแต่ดึกดำบรรพ์
เมื่อมนุษย์เกือบทั้งโลกดำรงชีวิตผ่านโลกออนไลน์ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสาร การเรียนรู้ การทำมาหากิน การทำงาน หรือแม้กระทั่งการพักผ่อน แนวคิดของการจัดเก็บ Data หรือ Big Data เพื่อมาต่อยอดการทำธุรกิจและบริการจึงเกิดขึ้น ด้วยปริมาณ Data ที่มหาศาลมนุษย์ได้พัฒนาระบบที่ใช้ศึกษาพฤติกรรมคัดแยกความต้องการ ความเหมือน ความต่าง ของมนุษย์ด้วยกัน เพื่อประโยชน์ในการจัดสรรอุปสงค์และอุปทานให้เหมาะสม
ระบบนี้มีการพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว Machine Learning, Social Listening และอื่นๆ เป็นตัวอย่างของระบบที่ Programmer ทั้งหลายเขียนขึ้นเพื่อดึงข้อมูลจาก Big Data
แต่สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและนำพาทุกคนเข้าสู่โลก Digital อย่างแท้จริงก็คือ การเชื่อมโยงทุกระบบเข้าด้วยกัน ตั้งแต่สื่อสาร ระบบ Big Data ที่ผ่านการประมวลผล วิเคราะห์พฤติกรรม อุปกรณ์หรือ device ที่ติดตั้งไว้ในจุดต่างๆ เพื่อตรวจจับและส่งข้อมูลแบบ Real Time ไปยังคอมพิวเตอร์ประมวลผลขนาดใหญ่เพื่อนำมาสู่การพยากรณ์ หรือคาดการณ์ถึงความน่าจะเป็นของสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตไม่ว่าจะเป็นเรื่องของปรากฏการณ์ธรรมชาติ แนวโน้มของสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ สังคม หรือแม้กระทั่งความคิด พฤติกรรม การตอบสนองของมนุษย์ต่อสิ่งเร้าต่างๆ ที่ได้อย่างแม่นยำด้วยพื้นฐานของข้อมูลจำนวนมหาศาลที่ถูกเก็บรวบรวมไว้ในระบบคอมพิวเตอร์นั่นเอง
- มนุษย์ VS เทคโนโลยี
การเข้ามาอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยี Digital ได้ถูกวาดภาพให้มนุษย์ชาติเกิดความหวาดกลัวอย่างมหาศาล เครื่องจักรที่จะทำงานแบบไม่ขี้เกียจ ไม่มีวันหยุด ไม่มีอารมณ์ ไม่มีรัก โลภ โกรธ หลง รวดเร็ว แม่นยำ เที่ยงตรง ดูจะมาตอบโจทย์จุดอ่อนของมนุษย์ได้เกือบทั้งหมด
แต่ในความเป็นจริงแล้วเครื่องจักรแม้จะล้ำแค่ไหนก็จะทำได้เฉพาะโจทย์หรือบทบาทที่มนุษย์สั่งเท่านั้น จริงอยู่เราอาจจะได้ยินข่าวที่บอกว่าหุ่นยนต์สามารถเอาชนะนักหมากรุกมือหนึ่งของโลกได้ แต่นั่นเป็นเพราะกีฬาหมากรุกเป็นกีฬาที่อยู่ในตารางสี่เหลี่ยมหุ่นยนต์เรียนรู้และพัฒนาได้จากการทำซ้ำเก็บข้อมูลมากมายมาใช้ในการตัดสินใจ ไม่มีอารมณ์ ไม่มีอ่อนไหว ไม่มีเสียสมาธิ เช่นกันกับอีกหลายๆ อย่างที่มนุษย์สั่งการผ่านระบบ Digital ให้หุ่นยนต์หรือเครื่องจักรมาทำงานแทน ก็ล้วนแล้วแต่เป็นงานประจำ งานที่ทำแบบเดิมๆ ซ้ำซาก ซึ่งต่างจากมนุษย์ที่ถึงแม้จะมีอารมณ์ มีเหนื่อยล้า แต่สิ่งสำคัญที่มนุษย์แตกต่างจากเครื่องจักรหรือแม้กระทั่งสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ก็คือ จินตนาการและความคิดสร้างสรรค์
มนุษย์ในโลกยุค Digital จำเป็นจะต้องเรียนรู้การนำเทคโนโลยี Digital มาใช้อย่างเหมาะสม ตรงจุด ถูกที่ถูกเวลา ผ่านจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์เพื่อประโยชน์ในการดำรงชีวิตของมนุษย์ชาติให้ดีขึ้น
- ผู้ใช้ VS ผู้ถูกใช้
วิวัฒนาการที่เกิดขึ้นมาในช่วงระยะเวลาต่างๆ ของมนุษย์ชาติ ล้วนแต่ส่งผลให้คุณภาพชีวิตของมนุษย์ดีขึ้นตามลำดับ แม้ว่าในทุกวิวัฒนาการจะส่งผลทางลบให้กับมนุษย์ชาติบ้าง แต่มนุษย์ส่วนใหญ่ก็จะคิดค้นวิธีการแก้ไขหรือปรับปรุงให้ดีขึ้นได้เสมอ การเกิดขึ้นของ Digital นั้น แน่นอนว่ามนุษย์ที่ปรับตัวเป็นผู้ใช้ Digital จะได้รับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สะดวกสบายขึ้น ทำทุกอย่างได้รวดเร็วขึ้น ง่ายดายขึ้น
Digital จะไม่ได้มาทำอะไรที่ “ซ้ำซ้อน” แต่จะมา “ซ้ำเสริม” การดำเนินชีวิตประจำวันของมนุษย์ให้สะดวก รวดเร็วและสมบูรณ์มากขึ้น ในส่วนของการทำงานหรือประกอบอาชีพนั้น Digital จะช่วยมนุษย์ในการเพิ่มผลผลิต ช่วยตัดสินใจในเรื่องที่ยากและซับซ้อนด้วยข้อมูลที่นำเสนออย่างเป็นเหตุเป็นผล เป็นระบบ โปร่งใสและตรงไปตรงมา
สิ่งเดียวที่มนุษย์ต้องทำก็คือการเรียนรู้และยอมรับที่จะใช้ Digital ตอบโจทย์ความต้องการในการดำเนินชีวิตและประกอบหน้าที่การงาน Digital จะไม่ได้เข้ามาทำงานเป็นเจ้านายมนุษย์
จะมีก็แต่มนุษย์ที่รู้จักใช้ Digital เท่านั้นที่จะมาทำงานและเป็นเจ้านายของมนุษย์ที่ปฏิเสธการใช้ Digital