'ประยุทธ์' สั่ง 'พาณิชย์' คุมเข้มหน้ากากอนามัยห้ามแพง - ขาดตลาด
นายก ฯ กำชับกระทรวงพาณิชย์ ดูแลราคาหน้ากากอนามัยไม่ให้แพง และไม่ให้ขาดตลาด ด้านพาณิชย์ยันคุมราคา 2.50 บาทต่อชิ้นและห้ามส่งออกเหตุดีมานต์ในประเทศยังสูง
วันนี้ (วันที่ 20 ธันวาคม 2563) นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นในประเทศ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กำชับกระทรวงพาณิชย์ ให้เข้มงวดเรื่องการบริหารจัดการหน้ากากอนามัย โดยประชาชนควรหาซื้อได้ง่าย ในราคาที่ไม่แพง
ทั้งนี้ ได้ให้กระทรวงพาณิชย์ควบคุมราคา รวมทั้งดูแลเรื่องการกระจายหน้ากากอนามัยให้ทั่วถึง และให้ใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดและจริงจังเพื่อสร้างความเป็นธรรมให้ประชาชน และลงโทษคนที่ทำผิดกฎหมายอย่างเด็ดขาด
นอกจากนี้ นายกฯ ขอให้ประชาชนปฎิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข โดยให้ประชาชนทั่วไปที่ไม่ป่วยสามารถสวมใส่หน้ากากผ้าได้ เพียงแต่ใช้แล้ว 1 วันต้องซัก จึงควรมีหน้ากากผ้าสลับสับเปลี่ยน และสิ่งที่สำคัญสำหรับคนไม่ป่วยคือ การล้างมือบ่อยๆ เพราะเชื้อจะติดได้นั้น หลักๆ คือ การสัมผัส ดังนั้นการล้างมือจะช่วยได้ ไม่ว่าจะล้างมือด้วยน้ำและสบู่ หรือล้างมือด้วยแอลกอฮอล์เจล และข้อสำคัญสุดท้ายคือการรักษาระยะห่าง หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด
ก่อนหน้านี้ นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ สั่งการให้ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กำชับพาณิชย์จังหวัดและค้าภายในจังหวัด ให้ติดตามสถานการณ์ความต้องการสินค้าป้องกันแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างใกล้ชิด โดยให้เน้นไม่ให้เกิดการฉวยโอกาสปรับราคาขายปลีก ที่หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ (Surgical Mask) ยังเป็นสินค้าควบคุมราคาไม่เกิน 2.50 บาทต่อชิ้น หากเจอทั้งการขายเกินราคา ปฎิเสธการขาย หรือบิดเบือนตลาดให้ปั่นป่วนให้เอาผิดตามกฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการได้ทันที มีโทษทั้งจำคุกและปรับ พร้อมกันนี้ ยังไม่อนุญาตให้ส่งออกหน้ากากอนามัย ทั้งๆที่มีผู้ผลิตทำหนังสือขอนุญาตมาต่อเนื่อง เพราะความต้องการในต่างประเทศยังสูง