เปิดใจซีอีโอใหม่ “อชิต โจชิ” นำทัพ ซันโทรี่ เป๊ปซี่ฯ กู้บัลลังก์น้ำอัดลม!!
เจาะภารกิจแม่ทัพใหม่ ซันโทรี่ เป๊ปซี่ฯ เคลื่อนธุรกิจเครื่องดื่มท่ามกลางวิกฤติโควิดระลอก 2 กับโจทย์หินที่ต้องทวงคืนผู้นำตลาดน้ำอัดลม การลุยขยายตลาด เติมพอร์ตโฟลิโอสุขภาพ เสริมแกร่งช่องทางจำหน่าย ปูพรมสู่ชัยชนะ!
หากจะพูดถึงยักษ์ใหญ่เครื่องดื่มระดับโลก “เป๊ปซี่” ต้องติดทำเนียบ เพราะไม่เพียงเป็นแบรนด์น้ำอัดลมที่อยู่รั้งตำแหน่งผู้นำตลาด บริษัทยังมีรายได้รวมระดับกว่า 6.7 หมื่นล้านดอลลาร์ มีสินค้าในพอร์ตโฟลิโอมากมาย เช่น เป๊ปซี่, เซเว่นอัฟ, อควาฟิน่า, เกตเตอร์เรต และลิปตันฯ รวมไปถึงขนมขบเคี้ยว(สแน็ค) เช่น เลย์
ขณะที่ตลาดเครื่องดื่มไทยถือเป็นหนึ่งในประเทศยุทธศาสตร์ของเป๊ปซี่ เพราะเคยเป็น “เบอร์ 1” มายาวนาน ก่อนเดินนโยบายใหม่และมีผลให้บริษัทตกเป็นมวยรอง นั่นทำให้ไม่ว่าจะมีผู้นำองค์กรคนใหม่กี่รายเข้ามา ภารกิจสำคัญคือการกอบกู้บัลลังก์กลับมาให้ได้ ล่าสุด “แม่ทัพใหม่” อชิต โจชิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด ให้สัมภาษณ์ กรุงเทพธุรกิจ ถึงภารกิจขับเคลื่อนธุรกิจเครื่องดื่มให้เติบโต
ตุลาคมที่ผ่านมา เป็นช่วงที่ “อชิต” มาจากเวียดนามเพื่อรับตำแหน่งซีอีโอ ท่ามกลางโควิดระบาด ต้องกักตัวตามระเบียบปฏิบัติ ซึ่งเวลานั้นยาหอมว่าประเทศไทยบริหารจัดการการแพร่ระบาดของไวรัสดีไม่ต่างจากเวียดนาม จึงค่อนข้างรู้สึกปลอดภัย
เมื่อต้องนำทัพธุรกิจเครื่องดื่มในไทย ที่เป็นตลาด “ปราบเซียน” ไม่น้อย และประสบการณ์ในสังเวียนนี้ไม่มาก แต่การคร่ำหวอดในตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคบริษัทข้ามชาติ การทำงานในบริษัทอินเดีย ดูแลตลาดไทยช่วงปี 2555-2559 ทำให้รู้จักและเข้าใจผู้บริโภคไทยเป็นแต้มต่อทำงานพอสมควร
“อชิต” มองตลาดเครื่องดื่มในไทยมีมูลค่าราว 2 แสนล้านบาท ปัจจุบันภูมิทัศน์ตลาดเปลี่ยน โดยเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพเข้ามามีบทบาทต่อการบริโภคมากขึ้น ทั้งสินค้าปราศจากน้ำตาล น้ำตาล 0% หวานน้อย แคลลอรี่ต่ำ เครื่องดื่มผสมวิตามิน โดยมีแรงส่งจากนโยบายภาครัฐ และความต้องการของผู้บริโภคเพิ่ม
“แลนด์สเคปตลาดเครื่องดื่มในไทยเปลี่ยน สินค้าสุขภาพมาแรงมาก แต่ที่น่าแปลกใจคือหมวดน้ำอัดลมมีการเติบโต” เขาประเมินว่าในช่วงที่ผู้บริโภคเผชิญความยากลำบาก จึงมองหาสินค้าและแบรนด์ที่คุ้นเคยตอบโจทย์ความต้องการ ทำให้น้ำอัดลม(น้ำดำและน้ำสี)ซึ่งมีมูลค่ากว่า 50,000 ล้านบาาท เติบโตในอัตรา 1 หลัก ท่ามกลางสถานการณ์ตลาดรวมที่ “ติดลบ”
กลยุทธ์การลุยตลาดเครื่องดื่มปี 2564 ซันโทรี่ เป๊ปซี่ฯ ยังเดินหน้าออกสินค้าใหม่เพื่อตอบสนองผู้บริโภค รวมถึง “เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ” ส่วน “กู๊ดมู้ด” ต้นตำรับน้ำดื่มผสมกลิ่น รสชาติ วิตามินหรือ water plus จะกลับมาทำตลาดท้าชิงน้ำดื่มผสมวิตามินหรือไม่ จะต้องพิจารณาโอกาสและอุปสรรคก่อน
“ความเร็วในการตอบสนองผู้บริโภคเป็นสิ่งสำคัญ เพราะผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา วันนี้ผู้บริโภคอยู่บ้าน ซื้อสินค้ากลับไปบริโภคที่บ้านมากขึ้น ผู้บริโภคยังนิยม Sigle Serve มากกว่าแพ็คใหญ่ เราต้องเกาะติดเทรนด์เหล่านี้”
ซันโทรี่ เป๊ปซี่ฯ มีช่องทางจำหน่ายหลากหลายทั้งร้านค้าทั่วไป ห้างค้าปลีก จึงต้องให้ทีมขายทำงานใกล้ชิดกับพันธมิตรมากขึ้นเพื่อเข้าใจความต้องการและจัดแพ็คเกจสินค้า ให้สิทธิประโยชน์ได้ตรงจุด ขณะเดียวกันต้องเจาะร้านอาหารให้มากขึ้น เพราะเป็นตลาดใหญ่และอาหารเครื่องดื่มเป็นสินค้าบริโภคคู่กัน(Combination) แต่เป๊ปซี่ เข้าถึงร้านค้าเพียง 7-8 หมื่นร้าน เป้าหมายถัดไปจะลุยผนึกพันธมิตรร้านอาหาร ภัตตาคารชั้นนำ ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยให้ขายสินค้ามากขึ้น แต่เพิ่มการมองเห็นแบรนด์เป๊ปซี่ ช่วยเกณฑ์ส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มได้
“ประเทศไทยมีร้านอาหารจำนวนมาก ทั้งสตรีทฟู้ด ไปจนถึงพรีเมี่ยม กลยุทธ์ขยายช่องทางจำหน่ายสู่ร้านอาหาร เป็นการเสิร์ฟเป๊ปซี่ทุกที่ทุกเวลา เข้าถึงทุกเซ็กเมนต์ ทุกกลุ่มเป้าหมาย”
วันนี้โควิด-19 กลับมาระบาดรอบ 2 ทำให้แนวโน้มตลาดเครื่องดื่มเปลี่ยนทิศ เดิม “อชิต” คาดว่าการฟื้นตัวจะเริ่มกลับมา ช่วงซัมเมอร์ เทศกาลสงกรานต์เป็นตัวแปรกระตุ้นการบริโภคอีกครั้ง จากปกติปลายปีเป็นอีกโอกาสทอง เพราะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาหนุน แต่ไวรัสร้ายกระทบสถานการณ์
อย่างไรก็ตาม การกุมบังเหียนซันโทรี่ เป๊ปซี่ฯ ท่ามกลางวิกฤติไวรัสระบาด พันธกิจสำคัญของ “อชิต” คือสร้างยอดขายและ “กำไร” ให้เติบโต แต่การดำเนินธุรกิจเวลานี้ยากลำบาก เพราะช่องทางจำหน่ายได้รับผลกระทบ ผู้บริโภคออกไปทานอาหารนอกบ้านน้อยลง จึงต้องทำงานกับพันธมิตรใกล้ชิด เพื่อเข้าใจธุรกิจ สามารถนำเสนอสิ่งที่ดีแก่ลูกค้าและผู้บริโภคได้ รวมถึงการกอบกู้ “บัลลังก์” น้ำอัดลมอีกครั้ง ซึ่งเป็นงานท้าทายมาก เพราะฟากคู่แข่งไม่ยอมง่ายๆ
“เราต้องการจะเป็นที่ 1 ตลาดน้ำอัดลมในสักวันหนึ่ง ซึ่งเป็นความท้าทายมาก เพราะมีผู้เล่นค่อนข้างมาก แต่ละเซ็กเมนต์มีผู้เล่นโดดเด่น การจะเป็นผู้นำ เราต้องขยายตลาดทุกเซ็กเมนต์สร้างพอร์ตโฟลิโอให้กว้างขวาง สร้างความแข็งแกร่งด้านจัดจำหน่ายและกระจายสินค้าทุกช่องทางเพื่อชนะในตลาด”