ปรับขึ้น
แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)
คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้
คาดดัชนีฯ ปรับขึ้น แนวต้าน 1522 / 1530 จุด แนวรับ 1502 / 1495 จุด แนะนำ เก็งกำไร SCC EA SUPER ทางเทคนิคเกิดรูปแบบสัญญาณซื้อรอบใหม่ ปัจจัยบวก คือ การคาดว่าเฟดจะส่งสัญญาณสนับสนุนการผ่อนคลายมาตรการการเงินต่อไป ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตาม คือ รายงานผลกำไรบจ. สหรัฐฯ และไทย
ประเด็นที่มีผลต่อตลาดวันนี้
1) ลุ้นรายงานผลกำไรบจ. สหรัฐฯ Apple, Tesla, Facebook, Boeing (+ตลาดหุ้นสหรัฐฯ หากออกมาดีกว่าคาด)
2) ผลประชุมเฟดคืนนี้ คาดเป็นบวกต่อตลาดจากการส่งสัญญาณไม่เร่งออก Exit Strategy (+ตลาดหุ้นโลก กลุ่มไฟแนนซ์)
3) ผู้นำวุฒิสภา คาดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของไบเดนจะไม่ได้รับการพิจารณาจนถึงกลางเดือน มี.ค. (-ตลาดหุ้นสหรัฐฯ)
4) ศบค. ชุดใหญ่เตรียมพิจารณาผ่อนคลายมาตรการสำหรับจังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อลดลง (+ตลาดหุ้นไทย)
ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้ USA-FOMC Meeting คาดดงดอกเบี้ยและทำ QE USD120bn/เดือน, รายงานสินค้าคงทนเดือน ธ.ค. คาดเติบโต +0.9% MoM (Vs เดือน พ.ย. +0.9% MoM) / China-Industrial Profits เดือน ธ.ค. คาด +3.2% YoY (Vs เดือน พ.ย. +2.4% YoY) / Japan-Leading Economic Index เดือน พ.ย. คาด 96.6 (Vs เดือน ต.ค.94.3) / Germany Gfk Consumer Confidence เดือน ก.พ. คาด -7.9 (Vs เดือน ม.ค.-7.3) / Earnings: Facebook, Tesla, Apple, Boeing, Samsung, SCC (ไทย)
Global Market Summary: วันทำการที่ผ่านมา
+ ตลาดหุ้นไทยปิดบวกต่อเนื่อง: ตลาดหุ้นไทยอ่อนตัวในช่วงเช้าและปรับขึ้นแรงในภาคบ่าย กรอบ 1490.37-1514.82 จุด ก่อนปิดตลาดที่ 1512.83 จุด +11.21 จุด +0.75% วอลุ่ม 8.78 หมื่นล้านบาท นำขึ้นโดยกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ +7.99% เงินทุนและหลักทรัพย์ +1.94% สื่อและสิ่งพิมพ์ +1.78% หุ้นบวก >4% EA SCB DELTA OSP KEX SINGER TQM IHL HTC AH KTC WIIK SYNEX WICE ZIGA WORK INET หุ้นร่วง >4% SCGP TKN
+/- ตลาดหุ้นโลกปิดคละ: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ กลับมาปิดลบเล็กน้อย DJ -0.07% (-22.96 จุด) S&P500 -0.15% Nasdaq -0.07% จากการกังวลต่อการแพร่ระบาดของ COVID-19 รวมถึงรอผลประชุมเฟดและผลประกอบการของบจ. กลุ่มเทคโนโลยีขนาดใหญ่วันพุธ ส่วนตลาดหุ้นยุโรปพลิกกลับมาเป็นบวก DAX +1.66% FTSE +0.23% CAC40 +0.93% จากรายงานผลประกอบการที่ดีขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
+/- ตลาดน้ำมันปิดผสมผสาน ส่วนทองร่วงต่อ: ตลาดน้ำมันดิบโลกกลับมาปิดคละ WTI -16 เซนต์ ปิดที่ USD52.61/บาร์เรล Brent +3 เซนต์ ปิดที่ USD55.91/บาร์เรล กังวลอุปสงค์น้ำมันดิบโลกลดลง จาก COVID-19 ระบาด ส่วนตลาดทองคำร่วงต่ออีก -USD4.2 ปิดที่ USD1,854.80/ออนซ์ จากการขายสินทรัพย์ปลอดภัย
ประเด็นสำคัญ
+ IMF: ปรับเพิ่มการเติบโตเศรษฐกิจโลกปี 2020E เป็น -3.5% (เดิม -4,4%) ปี 2021E เป็น 5.5% (เดิม 5.2%) และปี 2022E อยู่ที่ 4.2% โดยปรับเพิ่ม USA ปี 2020-22E เป็น -3.4% (เดิม -4.3%) +5.1% (เดิม 3.1%) และ 2.5% ตามลำดับ
+ ไทย: ครม. เห็นชอบ 3 มาตรการด้านภาษี 1) ขยายเวลายื่นชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาปี 2020 เป็น วันที่ 30 มิ.ย. 2021 2) ลดอัตราจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างรอบปี 2021 ลง 90% และให้จัดเก็บจริงเพียง 10% 3) ขยายมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนซื้ออสังหาริมทรัพย์ราคาบ้านไม่เกิน 3 ล้านบาท เหลือ 0.01% และลดค่าจดจานองเหลือ 0.01%
- ไทย: ศบค. ชุดใหญ่เตรียมนัดประชุมวันที่ 29 ม.ค.นี้ คาดว่าจะมีการพิจารณาผ่อนคลายมาตรการเป็นรายพื้นที่
+ FOMC Meeting: คาดไม่เปลี่ยนแปลงนโยบายการเงิน แต่ตลาดการเงินจะให้ความสนใจต่อการแถลงข่าวของประธาน Fed ซึ่งคาดว่าเฟดจะส่งสัญญาณว่ายังไม่ใช่เวลาที่จะเริ่มพูดคุยเรื่อง กลยุทธ์ขาออก (exit strategy) จากนโยบายผ่อนคลาย
+/- SCGP (TP Bt59.30): ปี 2020 มีกำไร 6.46 พันล้านบาท หากไม่รวมขาดทุน Fx ธุรกิจปกติมีกำไร 6.68 พันล้านบาท ส่วนปี 2021E คาดเติบโต 28% YoY จากขยายกำลังการผลิต
+ USA: วุฒิสภาโหวต 84 ต่อ 15 เสียง เห็นชอบให้ นาง Janet Yellen เป็นรมว. คลังคนใหม่ โดยจะเป็นรมว. คลังหญิงรายแรกของประวัติศาสตร์สหรัฐฯ
- USA: ผู้นำสภาสูง Chuck Schumer ส่งสัญญาณว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของไบเดน ขนาด USD1.9Trn อาจจะไม่สามารถได้รับการอนุมัติจนถึงกลางเดือน มี.ค.
- China: การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนเริ่มมีความไม่แน่นอน หลังจากต้นทุนกู้ยืมเงินระยะสั้นปรับตัวสูงขึ้น เพราะธนาคารกลางจีน PBOC เริ่มปรับลดสภาพคล่องในตลาดการเงิน และส่งสัญญาณเตือนถึงการเกิดภาวะฟองสบู่ในตลาดหุ้นจีน
+ อุตสาหกรรมรถยนต์: Toyota คาดยอดขายรถยนต์ในประเทศปี 2021E อยู่ที่ 8.5-9.0 แสนคัน เพิ่มขึ้น 7-14% ซึ่งดีขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2020 ที่มียอดขาย 7.92 แสนคัน -21.4%
กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)
หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: KBANK BDMS MTC
หุ้นแนะนำเก็งกำไร: SCC EA SUPER
Derivatives: แนะเปิด Long / Short S50H21 ตามเงื่อนไขที่ให้ (ติดตามรายละเอียดเพิ่มใน KTZ-D Report)