บล เอเชียพลัส ชี้เศรษฐกิจไทยฐานะการคลังปึ้ก

จากกระแสความกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 2564 และฐานะการคลังมีความเปราะบางจนประเทศอาจล้มละลาย ทำให้เมื่อวานนี้ รัฐมนตรีคลัง อาคม เติมพิทยาไพสิฐ ออกมาย้ำว่าไม่จริง หลักๆ

1.)ตัวเลขเศรษฐกิจเดือน ธ.ค. หลาย Indicator ส่งออก การบริโภค ฯ กลับมาฟื้นตัว

2.) โดยฐานะทางการคลังมีความมั่นคงและมีสภาพคล่อง เห็นได้จากหนี้สาธารณะปัจจุบันยังอยู่ที่ระดับ 52.13% ของ GDP ต่ำกว่ากรอบเพดานหนี้สาธารณะที่ไม่เกิน 60% ของ GDP สอดคล้องกับ ASPS เคยนำเสนอ

3.)ฐานะทางการเงินระหว่างประเทศยังแข็งแกร่ง ASPS เคยนำเสนอ ปัจจุบัน ไทยมีทุนสำรองระหว่างประเทศในระดับสูง เทียบกับประเทศอื่นๆในภูมิภาค โดยมีมากกว่าหนี้ต่างประเทศถึง 1.24 เท่า และสามารถรองรับการจ่ายค่าสินค้านำเข้าจากต่างประเทศได้นานถึง 13.5 เดือน

โดยรวมมุมมองของบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเชียพลัส หรือ  ASPS ประเมินว่า ฐานะการเงินการคลังของไทยยังอยู่ในระดับที่ยังไม่น่ากังวล โดยประเมินการเติบโตเศรษฐกิจไทยปี 2564 ขยายตัว 2.5%yoy (Consensus คาดในช่วง 1.5-3.2%) โดยประเมินในปี 2664 ท่าทีของรัฐบาลนอกเหนือจากการอัดฉีดเงินในส่วนของ Covid-19 ปีนี้จากที่รวบรวมข้อมูลล่าสุด ถึง 4 ก.พ. ยังมีแผนอัดฉีดเงินเข้าระบบจาก 2 ส่วน

กระตุ้นฝั่งการบริโภคเอกชน ตั้งแต่ต้นปีมีมาตรการที่ผลแล้ววงเงินรวมกว่า 3.28 แสนล้านบาท เช่น คนละครึ่งเฟส 2, เราชนะ, เรารักกัน

ผลักดันโครงการลงทุนภาครัฐขนาดใหญ่ในปีนี้ ASPS ประเมินโครงการที่มีโอกาสเปิดประมูลและเป็นไปได้ในปีนี้ราว 4.35 แสนล้านบาท : อาทิ โครงการรถไฟทางคู่บ้านไผ่-นครพนม, เด่นชัย-เชียงของ รถไฟฟ้าสีส้มช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี,รถไฟฟ้าสีม่วงเตาปูน-ราฎร์บูรณะ (ดังรูป) คาดจะหนุนกระแสกลุ่มก่อสร้าง

จากกระแสการผลักดันโครงการลงทุนรัฐที่คาดจะเกิดขึ้นต่อไป โดย ASPS ชื่นชอบ STEC เพราะมีพื้นฐานแข็งแกร่งที่สุดในบรรดาบริษัทรับเหมาใหญ่ ทั้งปริมาณ Backlog และโครงสร้างการเงิน พร้อมกลับมาสร้างกำไรเติบโตในปีนี้ ขณะที่ราคาหุ้นซื้อขายต่ำกว่า Historical PBV 5Y ถึง 54% แนะนำ ซื้อ ประเมิน FV อิง PER 24 เท่า ให้ราคาเหมาะสม 18 บาท