“วีรศักดิ์”สั่งแก้ปัญหาการค้าชายแดน

“วีรศักดิ์”สั่งแก้ปัญหาการค้าชายแดน

“วีรศักดิ์”ลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานีและศรีสะเกษ ถกคณะกรรมการขับเคลื่อนไทย ย้ำต้องป้องกัน​โควิดระบาดระลอก 2 เร่งรัดเจรจาแก้ปัญหาการค้าชายแดนเพื่อให้เกษตรกร​จำหน่ายผลผลิตได้ดีขึ้น พร้อมทำแผนช่วยเหลือประชาชนและภาคธุรกิจในพื้น

นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดศรีสะเกษในระหว่างวันที่ 4-5 ก.พ.2564 ว่า จากการประชุมร่วมกับคณะกรรมการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันระดับจังหวัด เพื่อติดตามปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนและภาคธุรกิจ ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหา​การแพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิด 19 ในส่วนของจังหวัดอุบลราชธานี​ พบว่า ขณะนี้จังหวัดอุบลราชธานี​ได้ประกาศ​ปิดทำการด่านชายแดน จุดผ่านแดนถาวร และจุดผ่อนปรนการค้าทุกจุดเป็นการชั่วคราว ยกเว้นจุดผ่านแดนถาวรช่องเม็กเพียงจุดเดียว ที่ยังคงสามารถ​เปิดทำการเพื่อการส่งออกและนำเข้าสินค้าได้ โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 18 มี.ค. 2563 ซึ่งก็มีปัญหา​ผู้ประกอบการ​ไม่สามารถส่งออกสินค้า​เกษตร​ออกไปจำหน่ายได้ โดยเฉพาะ​สินค้าประมง

จึงได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัด​อุบลราชธานี​เร่งประสานงานไปยังฝ่าย สปป.ลาว เพื่อพูดคุยแก้ปัญหา​ในระดับพื้นที่ก่อน หากไม่สามารถแก้ไขได้ในระดับจังหวัด และต้องการการสนับสนุนในระดับกระทรวงหรือระดับรัฐบาล ก็ขอให้เสนอเข้ามาเพื่อนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณา​แก้ไขปัญหา​ในที่ประชุม​คณะรัฐมนตรี​ต่อไป นอกจากนี้ยังสั่งการให้ทำแผนจ้างงานนักศึกษาจบใหม่ รวมถึงเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ​ภาครัฐให้เร็วขึ้น หลังพบว่าจังหวัด​อุบล​ราชธานี​ยังเบิกจ่ายงบประมาณ​ไปใช้แก้ปัญหาในพื้นที่​ล่าช้า

  161250626622

ในส่วนของจังหวัดศรีสะเกษ​ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดยุทธศาสตร์​ให้จังหวัดศรีสะเกษ​เป็นจังหวัดต้นแบบในการนำร่องลดต้นทุนการผลิตภาคเกษตร​โดยเฉพาะ​การเลี้ยงโคเนื้อ​ลงให้ได้ 40 %​ หลังพบว่าเกษตรกร​ยังมีปัญหา​ต้นทุนสูง ขาดความรู้ในการปรับปรุง​พันธุ์​ การเลี้ยงการจัดการ การป้องกันโรค และที่สำ​คัญคือ​ขาดแคลนพืชอาหารสัตว์ที่มีคุณภาพ ทำให้ได้ผลผลิต​ที่ได้จากการเลี้ยงโคลดลง นอกจากนี้ จ.ศรีสะเกษ​ ยังมีปัญหา​การขาดแคลนน้ำอุปโภค​บริโภค​ ซึ่งทางจังหวัดได้เสนอแผนการแก้ไขปัญหาไปยังกระทรวงทรัพยา​กรธรรมชาติ​และสิ่งแวดล้อม​เพื่อพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนแล้ว

 

"จะเร่งผลักดันการแก้ปัญหา​เรื่องขาดแคลนน้ำของจังวัดศรีสะเกษ​ในระดับนโยบาย​ เพราะน้ำเป็นต้นทุนของทุกชีวิต โดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้ง หากไม่มีน้ำเพียงพอหล่อเลี้ยงต้นทุเรียน หอมแดง และพืชเกษตร​อื่นๆ จะกระทบกับรายได้เกษตร และภาคอุตสาหกรรม​ จึงต้องเร่งรัดผลักดันให้เกิดการแก้ไขปัญหา​อย่างเป็นรูปธรรม" นายวีร​ศักดิ์​ กล่าว

 

นอกจากนี้​ยังได้กำชับที่ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนไทยระดับจังหวัด​ ทั้งจ.อุบล​ราชธานี​และศรีสะเกษ​ ว่าจะต้องดำเนินการตามมาตร​การทางสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดในทุกๆ มิติ เพื่อป้องกันไม่ให้มีปัญหา​โควิดระบาดระลอก 2 พร้อมทั้งต้องทำแผนช่วยเหลือประชาชนและภาคธุรกิจในพื้นที่อย่างเป็น​รูปธรรม​ เพื่อให้เศรษฐกิจ​ของจ.อุบล​ราชธานี​และศรีสะเกษ​ ฟื้นตัวอย่างชัดเจน เช่น การลดต้นทุน​การผลิต และสร้างอัตลักษณ์​สินค้าชุมชนผ่านงานวิจัยพืชพันธุ์​ใหม่ และสร้างนวัตกรรม​ในผลิตภัณฑ์​ ให้สอดรับกับพฤติกรรม​ของผู้บริโภค​ในยุค New Normal และ Next Normal​ ที่ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพ​อนามัยมากขึ้น