‘POLAR’ยื่นอุทรณ์หลังตลท.สั่งเพิกถอนหุ้น
POLARยื่นอุทรณ์หลังตลท.สั่งเพิกถอนหุ้น เพื่อให้บริษัทสามารถปกป้องผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้น 9,332 ท่าน
บริษัท โพลาริส แคปปิตัล จำกัด (มหาชน) จำกัด หรือ POLAR แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่ประเทศไทย หรือ ตลท. ว่าหลังจากตลท. ได้มีหนังสือที่อ้างถึงมายัง บริษัทและบริษัทได้รับหนังสือดังกล่าวแล้วเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2564 โดยมีสาระสำคัญโดยสรุปว่า
1.หุ้นสมัญของบริษัทฯ มีเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนตามข้อ 9(3)
และ 9(5) ของข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง การเพิกถอนหลักทรัพย์จดทะเบียน พ.ศ. 2542
2. บริษัท ยังไม่สามารถแก้ไขเหตุเพิกถอนดังกล่าวให้หมดไปภายในระยะเวลาที่ ตลท. กำหนดได้ จึงเป็นเหตุให้หุ้นสามัญขอบริษัทเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนจาก การป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนตามข้อ 9(15) ของข้อบังคับฯ
3.บริษัทไม่มีความคืบหน้าในการดำเนินการแก้ไขเหตุเพิกถอนให้หมดไป
4. ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าบริษัทจะสามารถแก้ไขเหตุเพิกถอนได้สำเร็จในระยะเวลาอันใกล้
5.คณะกรรมการ ตลท. จึงมีมติให้เพิกถอนหุ้นสามัญของบริษัทออกจากการป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน
บริษัทขอเรียนแจ้งว่า บริษัทไม่เห็นพ้องด้วยกับเหตุผลและคำวินิจนัยของคณะกรรมการ ตลท.ดังกล่าวทุก ข้อทุกประเด็น โดยบริษัทเห็นว่า หุ้นสามัญของบริษัทไม่มีหตุเข้าข่ายถูกเพิกถอนจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะบียนตามข้อบังคับฯ ไม่ว่าข้อใด เหตุดังกล่าว ถ้าหากจะมีอยู่จริง ก็เป็นหตุที่สามารถแก้ไขได้
ภายในระยะเวลาอันสมควร และว่าดุลยพินิจของคณะกรรมการ ตลท ที่ให้เพิกถอนหุ้นสามัญของบริษัทออกจากการเป็นหลักรัพย์จดทะเบียน เป็นการใช้ดุลยพินิจที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และขัดต่อข้อเท็จริง
เพื่อให้บริษัทสามารถปกป้องผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้น 9,332 ท่าน ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นผู้ถือหุ้นรายย่อยของบริษัท ได้อย่างสูงสุด และสอดคล้องกับเจตนารมณ์ในการจัดตั้งและการดำรงอยู่ของ ตลท.
บริษัทจึงขอแจ้งยืนยันแนวทางในการดำเนินการต่อไปว่า บริษัทจะอุทรณ์คัดค้านคำวินิจฉัยดังกล่าวต่อคณะกรรมการอุทธรณ์ ตลท. ทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายต่อไปจนคดีจะถึงที่สุดรวมถึงบริษัท มีความจำเป็นที่จะต้องตำเนินคดีทั้งคดีแพ่ง คดีอาญา และคดีปกครองกับบุคคลที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่บริษัท