บิ๊กอสังหาฯเร่งเกมรุกบ้านหรู แห่ผุดโครงการซัพพลายพุ่ง2.5พันยูนิต
วิกฤติโควิด-19 หนุน ตลาดบ้านหรูระดับ 10 ล้านบาทอัพ!! โตแรง รับเทรนด์เว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) คนอยากมีบ้านแทนคอนโดมิเนียมมากขึ้น “คอลลิเออร์ส” สำรวจซัพพลายบ้านหรูปี 2563 พุ่ง 2,390 ยูนิตสูงสุดในรอบ 5 ปีคาดปีนี้เพิ่มขึ้นกว่า2,500ยูนิต
ภัทรชัย ทวีวงศ์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัยและการสื่อสาร คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย กล่าวว่า 5 ปีที่ผ่านมา อุปทานเปิดขายใหม่ของบ้านระดับราคาขายมากกว่า 10 ล้านบาทขึ้นไปในพื้นที่กรุงเทพฯ มีจำนวน 8,083 ยูนิต หรือ เฉลี่ยปีละ 1,616 ยูนิตต่อปี โดยปี 2563 มีอุปทานใหม่เพิ่มขึ้น 2,390 ยูนิต สูงสุดรอบ 5 ปี โดยการพัฒนาโครงการกระจายตัวอยู่ในหลายพื้นที่ อาทิ สุขุมวิทตอนกลาง-ปลาย เกษตร-นวมินทร์ พัฒนาการ กรุงเทพกรีฑา-กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ พระราม 9 วิภาวดี-รังสิต เย็นอากาศ สาทร-พระราม 3 บางนา และทำเลย่านพระเทพตัดใหม่ (พรานนก-พุทธมณฑลสาย 4) เป็นต้น
อุปทานเปิดขายใหม่ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น สะท้อนให้เห็นดีมานด์ที่เพิ่มขึ้นในแต่ละปี บวกกับราคาที่ดินในกรุงเทพฯ ที่ปรับเพิ่มขึ้นส่งผลต่อขนาดของโครงการที่เล็กลง กระจายอยู่ในหลายพื้นที่ของกรุงเทพฯ คาดว่าปี 2564 จะมีอุปทานเปิดขายใหม่ของบ้านระดับราคามากกว่า 10 ล้านบาทต่อยูนิต เพิ่มขึ้นกว่า 2,500 ยูนิต
สำหรับภาพรวมตลาดบ้านระดับ 10 ล้านบาทขึ้นไป ในกรุงเทพฯ จำแนกตามประเภท พบว่า “บ้านเดี่ยว” ยังคงเป็นสินค้าที่ผู้พัฒนาโครงการให้ความสนใจมากที่สุด คิดเป็นสัดส่วน 87% รองลงมา คือ ทาวน์เฮาส์หรือทาวน์โฮม 6% บ้านแฝด 5% และอาคารพาณิชย์ 2%
“ช่วงที่ผ่านมามีโครงการบ้านจัดสรรราคา 10 ล้านบาทขึ้นไปเปิดขายมากขึ้นในทำเลกรุงเทพฯ ชั้นใน ทดแทนกลุ่มลูกค้าที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยระดับบนแต่ไม่อยากอยู่คอนโดเพราะมีพื้นที่ใช้สอยจำกัด ผู้พัฒนาโครงการหลายรายจึงเลือกที่จะพัฒนาบ้านขนาดเล็กในพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นใน รองรับกำลังซื้อกลุ่มนี้ที่ต้องการมีพื้นที่ใช้สอยเพิ่มขึ้น และมีการออกแบบที่โดดเด่น ตั้งอยู่ในพื้นที่รอบใจกลางเมืองที่เดินทางได้สะดวกสบาย ซึ่งกระแสตอบรับค่อนข้างดี แม้เศรษฐกิจอยู่ในภาวะชะลอตัวเพราะกำลังซื้อกลุ่มนี้ไม่ค่อยได้รับผลกระทบ”
บ้านจัดสรรที่มีราคาขายมากกว่า 10 ล้านบาทต่อยูนิตขึ้นไปในพื้นที่กรุงเทพฯ ปัจจุบันเปิดขายทั้งหมด 135 โครงการ รวม 7,789 ยูนิต พบว่า 41% อยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ ตอนเหนือ ตามด้วย กรุงเทพฯ ตอนใต้ 18% กรุงเทพฯ ชั้นใน 11%
จากหน่วยขายทั้งหมดขายไปแล้ว 66.76% หากพิจารณาเฉพาะระดับราคาขายมากกว่า 25 ล้านบาทขึ้นไป ส่วนใหญ่กระจายตัวอยู่ในทำเลตั้งแต่สุขุมวิท 31 ถึง เอกมัย ส่วนใหญ่นิยมพัฒนาโครงการบ้านหรูขนาดเล็ก อยู่ในซอย จำนวนยูนิตน้อย เน้นรูปแบบที่โดดเด่น ทันสมัย จุดขาย ทำเลไพร์มโลเคชั่น!
ขณะที่ ภาพรวมตลาดบ้านในกรุงเทพฯ ปี 2563 มีอัตราดูดซับเฉลี่ย 4.3% ของทุกช่วงระดับราคา แต่หากพิจารณาเฉพาะบ้านราคาขายสูงกว่า 10 ล้านบาทขึ้นไป มีอัตราการดูดซับเฉลี่ย 4.8% สูงกว่าอัตราการดูดซับเฉลี่ยรวมของตลาดถึง 0.5% ซึ่งอัตราการดูดซับเฉลี่ยที่ค่อนข้างสูง สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถด้านการขายของบ้านจัดสรรระดับบนที่ค่อนข้างคึกคักบางโครงการสามารถปิดการขายได้ 100%
ภัทรชัย คาดการณ์ว่า ตลาดบ้านระดับบนมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 2564 เพราะผู้พัฒนารายใหญ่ อย่าง เอสซี แอสเสท แสนสิริ เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม และ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ต่างประกาศแผนพัฒนาโครงการบ้านระดับบนออกมาเป็นจำนวนมาก
"สิ่งที่ดึงดูดใจลูกค้าอย่างแรก คือ ทำเล ต้องเป็นทำเลที่ดี ตั้งอยู่ในพื้นที่ใจกลางเมือง หรือทำเลศักยภาพที่สามารถเชื่อมต่อการเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองได้สะดวกสบาย และมีการพัฒนา ฟังก์ชั่น ที่สามารถตอบสนองกับไลฟ์สไตล์ลูกค้า โดยโครงการจะอยู่บนที่ดินที่มีขนาดเล็กลง แนวบ้านทรงสูงขึ้น แต่ยังมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบครันและมีพื้นที่ใช้สอยสำหรับการทำกิจกรรมต่างๆ เพราะลูกค้าส่วนใหญ่มักจะเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ ที่ต้องการที่อยู่อาศัยที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพื่อเสริมสร้างภาพลักษณ์ และคุ้มค่าการลงทุน”
สอดคล้องกับที่ “แสนผิน สุขี” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม (ประเทศไทย) ระบุว่า ปีนี้จะขยายโครงการ “เซ็กเมนต์ใหม่” เพื่อทดลองโครงการ “ซิตี้โฮม” นำร่อง โดยจะเป็นแนวราบระดับลักชัวรีราคาตั้งแต่ 15-40 ล้านบาท เป็นทาวน์เฮาส์ บ้านแฝด หรือบ้านเดี่ยว 3 ชั้น ทำเลใกล้เมือง ย่าน วิภาวดี พระราม 9 และสาธุประดิษฐ์
“สินค้าประเภทนี้เริ่มเป็นที่ต้องการสูงขึ้นหลัง โควิด-19 เพราะตลาดระดับบนที่เคยเลือกซื้อคอนโดลักชัวรีกลางเมืองในราคาเดียวกัน เริ่มให้ความสำคัญกับการมี พื้นที่ภายในบ้านเพิ่มขึ้นเป็น และพิจารณาเลือกบ้านแทนคอนโด แม้จะต้องขยับออกมาจากใจกลางเมืองแต่ยังเดินทางสะดวก ให้ความรู้สึกความเป็นส่วนตัวและปลอดภัยมากขึ้น”
ขณะที่ค่ายแสนสิริ เตรียมเปิดตัว “BuGaan” แบรนด์ใหม่ของบ้านเดี่ยว 3 ชั้นระดับราคา 30-80 ล้านบาท เจาะกลุ่ม Young Successor ในทำเลโยธินพัฒนา เป็นเอ็กซ์คลูซีฟ เรสซิเดนซ์ จำนวน 14 ยูนิต หรือ โครงการแกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด ของค่ายเอสซี แอสเสท ราคาเริ่ม 28-50 ล้านบาท