เปิดอาณาจักร 'โอ้กะจู๋' ร้านผักออร์แกนิก ที่ 'OR' ยังอยากซื้อ!

ความเคลื่อนไหวจากฝั่ง OR หรือ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) ยังคงมีมาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่เปิดให้ประชาชนทั่วไปได้จองซื้อหุ้นเป็นครั้งแรก และกลายเป็นบริษัทที่มีการจองซื้อสูงสุดเป็นประวัติการณ์ อย่างที่หลายคนรู้จัก นอกจากธุรกิจที่คนคุ้นเคยกันดีอย่าง "PTT Station" รวมถึงร้านกาแฟ "คาเฟ่ อเมซอน" แล้ว OR ยังได้รุกสู่กลุ่มธุรกิจค้าปลีกอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด เดินหน้าเข้าซื้อหุ้น 20% ใน บริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด หรือ “โอ้กะจู๋” ร้านสลัดชื่อดังจากเชียงใหม่ โดยคาดว่าจะมีมูลค่าไม่เกิน 500 ล้านบาท โดยหวังจะต่อยอดธุรกิจ F&B 

   

• “โอ้กะจู๋” น่าสนใจตรงไหน ทำไม OR อยากร่วมลงทุน ? 

ในประเด็นนี้ “จิราพร ขาวสวัสดิ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) อธิบายโดยสรุปได้ดังนี้ 

1. เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ของ OR ที่จะมุ่งเน้นการเติบโตจากภายนอกเพื่อเพิ่มผลกำไรในระยะยาว จึงเน้นการดำนินธุรกิจในรูปแบบ "การร่วมทุน" กับบริษัทที่มีศักยภาพ

2. OR พยายามแสวงหาโอกาสและช่องทางในการพัฒนาธุรกิจค้าปลีกในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม (Food & Beverage : F&B) จึงตัดสินใจเข้าลงทุนใน “โอ้กะจู๋” ภายใต้ บริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด” ผู้ดำเนินกิจการร้านอาหารเพื่อสุขภาพ มีจุดเด่นในเรื่องของความสดใหม่ของผักที่ปลูกด้วยระบบเกษตรอินทรัย์ และส่งตรงจากฟาร์มผักขนาดใหญ่ที่จังหวัดเชียงใหม่ 

3. เป็นการสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs และเกษตรกรผู้ปลูกผักในรูปแบบเกษตรอินทรีย์ให้มีรายได้เพิ่มขึ้น

4. เพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภค ที่มีไลฟ์สไตล์ที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพ วิถีชีวิตที่เต็มไปด้วยความเร่งรีบและหันมาเลือกซื้ออาหารปรุงสำเร็จแทนการนั่งกินในร้านมากขึ้น เนื่องจากเป้าหมายการลงทุนครั้งนี้จะเน้นการขยายสาขาร้านโอ้กะจู๋เพิ่มเติมในสถานีบริการน้ำมัน PTT Station

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :  'โอ้กะจู๋' ฝันเล็กที่ยิ่งใหญ่ 

ทั้งนี้ OR ข้ามาลงทุนใน โอ้กะจู๋ ด้วยการลงทุนในสัดส่วน 20% หรือมูลค่าไม่เกิน 500 ล้านบาท ซึ่งมีการตั้งเป้าขยายสาขาร้านโอ้กะจู๋เพิ่มเติมในสถานีบริการน้ำมัน พีทีที สเตชั่น รวมถึงการจำหน่ายอาหารแบบ Grab & Go ผ่านร้าน Café Amazon ในเขตกรุงเทพและปริมณฑล และภาคเหนือ โดยเบื้องต้นมีการลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นและสัญญาระหว่างผู้ถือหุ้นแล้ว ระหว่างบริษัท มอดูลัส เวนเจอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ OR กับ บริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด หรือ โอ้กะจู๋

   

• “โอ้กะจู๋” ร้านผักออร์แกนิกแบรนด์ดังจากเชียงใหม่ น่าสนใจแค่ไหน?

ก่อนอื่นมาทำความรู้จักจุดเริ่มต้นของธุรกิจ “โอ้กะจู๋” ร้านอาหารที่ชูจุดเด่นวัตถุดิบผักออร์แกนิก มารังสรรค์เป็นเมนูจานเด็ดที่วันนี้ครองใจกลุ่มลูกค้ารักสุขภาพ เมื่อความสนใจเรื่องของเกษตรกรรมเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ประกอบกับประสบการณ์การไปทัศนศึกษาและเรียนที่คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ทำให้สองคูหูเพื่อนสนิท “อู๋ กะ โจ้” ปิ๊งไอเดียเริ่มปลูกผักแบบเกษตรอินทรีย์ ไม่พึ่งสารเคมี และนำผลผลิตที่ได้ไปประกอบอาหารในครอบครัว และมีเพื่อนเก่าอย่าง “ต้อง” เข้ามาเสริมทัพให้แกร่งยิ่งขึ้น

จุดเริ่มต้นเล็กๆ ที่แฝงไปด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ ผลักดันให้เกิดการต่อยอดเป็นร้านคาเฟ่เล็กๆ ภายใต้คอนเซ็ปต์ Farm to Table สาขาแรก คือสาขาสันทราย จนกระทั่งวันนี้ขยายสาขาไปแล้วรวมทั้งหมด 14 สาขา ใน 2 จังหวัด ได้แก่ 

• เชียงใหม่ 2 สาขา ได้แก่ สันทราย และ Nim City Daily 
• กรุงเทพฯ 12 สาขา ได้แก่ สยามสแควร์ ซอย 7, สยามสแควร์วัน, เดอะ เซอเคิล ราชพฤกษ์, โครงการดาดฟ้า ลาซาล, สยามสแควร์ ซอย 2, เดอะ พาซิโอ พาร์ค, SB Design Square พระราม 2, บีทีเอส เสนานิคม, ลาดพร้าว 97, เพชรบุรี-เอกมัย, มาร์เก็ต วิลเลจ รังสิต และเดอะ คริสตัล เอกมัน-รามอินทรา 

ไม่เพียงเท่านั้นปัจจุบันโอ้กะจู๋ยังมีการขยายพื้นที่ปลูกผักเพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันมีแปลงผักอยู่ 4 ที่ ตรงสันทราย ดอยสะเก็ด และสารภี ทั้งหมด 200 กว่าไร่อยู่ในเชียงใหม่หมดเลย ผักสลัด 20 กว่าชนิดเราปลูกเองหมดเลย แต่ผักกินผลไม้เรามีพันธมิตรช่วยปลูกให้ เช่น แตงกวา แครอท บีทรูท ฟักทอง ฯลฯ ก่อนมากรุงเทพฯ เราก็ขึ้นไปที่แม่กลาง ตรงดอยอินทนนท์ ส่งเสริมให้เกษตรกรทิ้งสารเคมีมาปลูกแบบอินทรีย์ แต่ดอกไม้กินได้ผมปลูกเอง

ซึ่งในส่วนของแหล่งผลิตวัตถุดิบคุณภาพหลักๆ นี้ ต้องรอดูความเคลื่อนไหวต่อไปของโอ้กะจู๋ว่าจะมีการขยายเพื่อรองรับการขยายสาขาที่เพิ่มขึ้นหลังจาก OR เข้ามาซื้อหุ้นหรือไม่ อย่างไร? เนื่องจากแน่นอนว่าความต้องการจะเพิ่มมากขึ้นอย่างมหาศาลในอนาคต

• ส่องรายได้ “โอ้กะจู๋” เติบโตแค่ไหน?

ทั้งนี้ข้อมูลจาก กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ระบุ “โอ้กะจู๋” หรือที่ดำเนินธุรกิจในนาม บริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด นั้น เริ่มจดทะเบียนในฐานะบริษัทจำกัด เมื่อวันที่ 10 ก.ค.2557 หรือเป็นระยะเวลาเกือบ 7 ปีแล้ว โดยทุนจดทะเบียนอยู่ที่ 100 ล้านบาท ด้วยการถือหุ้นจาก 3 รายหลักๆ 

หากดูในส่วนของงบกำไรขาดทุน พบว่าปี 2562 โอ้กะจู๋ ทำรายได้รวมไปกว่า 643.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้ากว่า 451.49 ล้านบาท หรือคิดเป็น 254.20% ซึ่งโกยกำไรไปราว 79.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 68.04 ล้านบาท หรือ 577.24% 

ต้องยอมรับว่า วันนี้กระแสตอบรับร้านอาหารแบรนด์นี้ยังคงดีอย่างต่อเนื่อง บางช่วงจำเป็นต้องสำรองที่นั่ง เนื่องจากลูกค้าค่อนข้างแน่น โดยทางร้านมีการแบ่งสัดส่วนไว้ให้สำรองการจองโต๊ะ 25% และอีก 75% เปิดให้กับลูกค้าที่ Walk in เข้ามา 

ขณะที่จุดเด่นอยู่ที่เมนูอาหารที่ชูวัตถุดิบผักสดๆ ใหม่ๆ จากฟาร์ม ก็นำมารังสรรค์เป็นเมนูทั้งเครื่องดื่มและเมนูอาหาร ซิกเนเจอร์ เช่น ซี่โครงสะพานโค้ง ที่เสิร์ฟมาพร้อมผักออร์กนิก, เลดี้ ริบส์ โอ้กะจู๋, สลัดผลไม้ สลัดเมืองเหนือ และน้ำผักสกัดเย็น เป็นต้น ขณะเดียวกันยังมีการทำการตลาดบนโซเชียลมีเดีย และออกโปรโมชั่นอิงกับเทศกาลต่างๆ อีกทั้งยังมีการออกบัตรสมาชิกเพื่อรับคูปองสมนาคุณต่างๆ ด้วย 

อย่างไร “โอ้กะจู๋” นับเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่น่าจับตามอง เพราะไม่เพียงแต่การจับเทรนด์อาหารเพื่อสุขภาพที่มาก่อนกาล และเติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วงเกือบ 7 ปีที่ผ่านมา ขณะที่อนาคตธุรกิจร้านอาหารประเภทนี้จะได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้นอีกจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น อีกหนึ่งแนวรบต่อจากนี้คือจำนวนสาขาที่จะเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล และสามารถเจาะตลาดได้มากขึ้น เนื่องจากทำเลสถานีบริการน้ำมันที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย และกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายขึ้น 

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ, โอ้กะจู๋, กรุงเทพธุรกิจ2, กรมพัฒนาธุรกิจการค้า