‘FSMART’เล็งเปิดตัว ‘พันธมิตรใหม่’ไตรมาส2 หวังดันยอดเติมพุ่ง

นายณรงค์ศักดิ์ เลิศทรัพย์ทวี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ FSMART เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมงบลงทุนในปีนี้ ราว 400-500 ล้านบาท เพิ่มตู้รุ่นใหม่ๆ ตู้เอทีเอ็ม และการลงทุนถือหุ้นเพิ่มเติมในบริษัท ฟอร์ท เวนดิ้ง จำกัด

รวมถึงการให้บริการสินเชื่อสินเชื่อบุคคลและนาโนไฟแนนซ์ ดอกเบี้ย 26% หลังจากปีที่ผ่านมาได้เริ่มทดลองปล่อยสินเชื่อดังกล่าวในกลุ่มตัวแทนและสร้างทีมติดตามหนี้ รวมถึงการแพร่ระบาดโควิด -19 แม้บริษัทจะปล่อยสินเชื่อไม่ได้ตามแผน แต่สามารถมีกำไรได้ และควบคุมหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL ) ระดับต่ำไม่ถึง 3 %โดยในปีนี้ยังคงระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อต่อเนื่อง ในกลุ่มคนที่มีตู้อยู่หน้าบ้านหรือเครือข่ายตัวแทนเป็นหลัก

สำหรับเป้าหมายในปี 2564 คาดหวังรายได้ปีเติบโตเป็นสองหลักหรือมากกว่า 10% และในช่วงปลายไตรมาส2 นี้เราจะมีการร่วมมือกับพันธมิตรใหม่  ซึ่งจะทำให้ยอดเติมในช่วงไตรมาส3 นี้ เด้งขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด 

ขณะที่แผนการเติบโตรายได้ยังคงมาจาก3ธุรกิจหลัก คือ " ธุรกิจการชำระเงิน หรือเติมเงิน"  ผ่านตู้บุญเติม จะพยายามรักษาให้รายได้และกำไรต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทจะผลักดันให้กลุ่มลูกค้าเดิมที่เติมเงินมือถือเพียงอย่างเดียวหันมาใช้บริการอื่นๆ เพิ่ม อีกทั้งบริษัทจะพยายามรักษายอดการเติมอีวอเลต ( e-Wallet) เติบโตประมาณ 90% จากปีก่อน

รวมถึงขยายตู้บุญเติมเพิ่มอีกประมาณ 5,000 ตู้ในปีนี้ จากเดิมที่มีประมาณ 1.3 แสนตู้ โดยคาดว่าปีนี้ยอดเติมหรือยอดใช้บริการผ่านตู้จะเพิ่มขึ้น 20% แตะระดับ 46,500 ล้านบาท จากปี 2563 ที่ 38,632 ล้านบาท เนื่องจากเราจะเข้าไปเติมเข้าไปในส่วนที่ผู้เล่นรายอื่นที่หายไปจากตลาดช่วงโควิด-19 และจะเข้าไปให้บริหารใหม่เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ด้วยการเพิ่มการต่อทะเบียนและขายประกัน พ.ร.บ. จากปีก่อนเน้นขายประกันเป็นหลัก

ทางด้าน "กลุ่มธุรกิจการเงินครบวงจร" ตั้งเป้าเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% ต่อปี ในช่วง 3 ปีข้างหน้า หรือเติบโตถึง 30% ในปีนี้ โดยในครึ่งหลังปี 2564 บริษัทจะมีบริการถอนเงิน ,บริการการโอนเงินข้ามประเทศ ช่วยเสริมภาพรวมรายได้ จากปีที่ผ่านมามีเพียงบริการฝากเงินเท่านั้น และคาดว่าปีนี้จะมีตัวแทนธนาคารเพิ่มขึ้นอีก 2 ราย เป็น 6 รายจากปัจจุบันมี 4 ราย ได้แก่ ธนาคารกรุงศรี ออมสิน ธ.ก.ส. และไทยพาณิชย์

“ปัจจุบันภาพรวมธุรกรรมถอนเงิน มีมูลค่ามากกว่าธุรกรรมฝากเงินถึง 8 เท่า แต่ในส่วนของเราธุรกรรมถอนเงินต้องใช้เวลาราว 2-3 ปีในการเติบโต ด้วยการเพิ่มฐานลูกค้าคนต่างด้างและเพิ่มธุรกรรมการโอนเงินข้ามประเทศ ตอบโจทย์ลูกค้าลูกค้าระดับชุมชนด้วยบริการตู้เอทีเอ็มถอนเงินในระดับหมู่บ้านและตอบโจทย์ธนาคารในการขยายธนาคารชุมนุนและช่วยบริหารค่าใช้จ่าย”

นายณรงค์ศักดิ์ กล่าวว่า ขณะเดียวกันบริษัทยังรับรู้รายได้ในส่วน "ธุรกิจตู้ขายสินค้าอัตโนมัติ(Vending Machine)"  จะสนับสนุนการสร้างรายได้ในระยะยาว โดยปีนี้จะเห็นบริการตู้ขายเครื่องดื่มหรือ “คาเฟ่อัตโนมัติ” ซึ่งมีอัตรากำไรสูงประมาณ 60-70% ตั้งเป้า 3 ปี (2564-2566) ติดตั้งตู้เครื่องดื่มประมาณ 20,000 ตู้ คาดว่าจะสร้างรายได้ต่อปีเฉลี่ย 5,000 ล้านบาท

โดยธุรกิจดังกล่าวดำเนินการผ่านบริษัท ฟอร์ท เวนดิ้ง จำกัด ซึ่ง FSMART ถือหุ้นอยู่ 10% โดยเราจะมีรายได้ 3 ส่วนจาก ส่วนแบ่งกำไรจากการเข้าไปถือหุ้น เป็นเงินปันผล , ขยายจุดเติมเงินไปกับตู้ดังกล่าว และค่าบริหารจัดการตู้

นอกจากนี้ ทุกปีบริษัทยังสามารถประหยัดค่าเสื่อมหรือรายจ่ายลดลงได้ถึง 28-30 ล้านบาท และในปี 2 ปีข้างหน้าคาดว่าลดได้ถึง 40-50 ล้านบาท เนื่องจากการตัดค่าเสื่อมดำเนินการทุก 8 ปี แต่บางตู้ 10 ปีแล้วยังใช้งานได้ปกติ