'คนละครึ่ง' รอลุ้น! คลังเล็งเปิด 'คนละครึ่งเฟส 3' หนุนเศรษฐกิจ
คลังเตรียมขยายโครงการ "คนละครึ่ง เฟส 3" หวังสร้างกำลังซื้อในระบบ หนุนเศรษฐกิจโตต่อเนื่อง
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังกำลังอยู่ในระหว่างการ ออกแบบโครงการ "คนละครึ่ง" เฟส 3 เพื่อสร้างกำลังซื้อต่อเนื่องให้กับระบบเศรษฐกิจ
"ขณะนี้ คลังกำลังพิจารณาว่า คนที่สมควรได้รับสิทธิ์ ควรที่อยู่ที่จำนวนเท่าไหร่ และวงเงินที่จะให้ต่อรายควรจะเป็นเท่าไหร่ โดยประเมินว่า หากต้องการทั้ง 30 ล้านคนเท่ากับโครงการเราชนะ จะต้องใช้เงินเท่าไหร่ และมีเงินเพียงพอหรือไม่ อย่างไรก็ตามยังไม่ได้สรุปว่าจำนวนคนที่จะได้รับสิทธิ์นั้นเป็นจำนวนเท่าไหร่"
สำหรับความแตกต่างของโครงการ "คนละครึ่งเฟสสาม" ที่จะต่างจาก "คนละครึ่งเฟสแรก" และ "คนละครึ่งเฟสสอง" ก็คือ โครงการเฟสสามจะเปิดให้ผู้ได้รับสิทธิ์สามารถนำไปใช้จ่ายเพื่อซื้อบริการได้ด้วย เช่น การจ่ายเพื่อค่าขนส่งสาธารณะ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
- 'เราชนะ' กลุ่มไหนยัง 'ทบทวนสิทธิ' ได้บ้าง?
- 'เราชนะ' ตรวจสอบทบทวนสิทธิ รีบเช็ค! คลังประกาศผล '3 กลุ่ม' แล้ว
- 'เราชนะ' ยังเปิดรับสมัคร 'ร้านค้าเราชนะ' เปิด 5 ขั้นตอนลงทะเบียนง่ายๆ
“สาเหตุที่เราจำเป็นต้องทำโครงการคนละครึ่งเฟสสาม เพราะเราต้องการเห็นแรงกระตุ้นเศรษฐกิจที่อยู่ในช่วงของการฟื้นฟู ซึ่งโครงการคนละครึ่งถือเป็นโครงการที่กระจายไปทุกภาคส่วน โดยเฉพาะร้านค้าขนาดเล็กที่เข้าร่วมโครงการเกือบ 2 ล้านราย ที่ขายสินค้าและบริการ อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นให้คนออกเงินอีกครึ่งหนึ่งเพื่อใช้จ่ายด้วย” นายกฤษฎา กล่าว
ส่วนแหล่งเงินที่จะใช้ในโครงการเฟสที่สามจะมาจาก พ.ร.ก. เงินกู้ 1 ล้านล้านหรือไม่นั้น นายกฤษฎา กล่าวว่า กระทรวงการคลังกำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณา
ปัจจุบัน เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท นั้น ในส่วนของที่ใช้เยียวยาประชาชาชน 5.55 แสนล้านบาท ใกล้จะหมดแล้ว ,ส่วนที่กันไว้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจที่กันไว้ 4 แสนล้านบาท ปัจจุบัน เหลืออยู่ราว 2 แสนล้านบาท ซึ่งสามารถโยกมาใช้ในโครงการเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด ,ส่วนเงินที่กันไว้เพื่อการสาธารณะ 4.5 หมื่นล้านบาทนั้น ปัจจุบันได้ใช้ออกไปเพียงเล็กน้อย
เขายังได้กล่าวถึง ข้อเรียกร้องให้รัฐบาลทำโครงการชอปดีมีคืนต่อว่า กระทรวงการคลัง คงไม่ดำเนินการต่อ แต่จะให้คนหันมาใช้โครงการคนละครึ่งเฟสสามแทน
ในส่วนของข้อเสนอให้กระทรวงการคลัง ลดภาษีเงินได้นิติบุคคลลงต่ำกว่า 20 %ในปัจจุบันนั้น,นายกฤษฎา กล่าวว่า หากเราต้องการแข่งขันกับประเทศอื่นเพื่อจูงใจนักลงทุนก็อาจพิจารณาปรับลดได้ แต่การเสนอของกระทรวงการคลังนั้น จะต้องเสนอเป็น Package คือจะต้องมีทั้งลดภาษี และการหารายได้ทดแทน ส่วนที่หายไปด้วย
ก่อนหน้านี้กระทรวงการคลังได้ทำโครงการคนละครึ่ง ไปแล้วสองเฟส รวมคนที่ได้รับประโยชน์ 15 ล้านคน โดยจะได้รับวงเงินใน e-wallet คนละ 3,500 บาท สำหรับคนที่สามารถลงทะเบียนได้สำเร็จ