EAรับรู้รายได้อีวี เสริมธุรกิจปีนี้โต
EAคาดรับรู้รายได้ธุรกิจอีวีไตรมาส 2 เป็นต้นไป ผลัดดันผลประกอบปี 64 เติบโตต่อเนื่อง เดินหน้าทยอยส่งมอบรถอีบัสขนาดเล็กครึ่งปีแรก พร้อมขยายสถานีประจุไฟฟ้า-อีเฟอร์รี่-โรงแบตเตอร์รี่ และตั้งงบลงทุน 6.1 พันล้านบาท
นายศรุต เรียวรักษา ผู้จัดการฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA เปิดเผยว่า แผนธุรกิจปีนี้บริษัทให้ความสำคัญกับการเดินหน้าธุรกิจใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มรถยนต์อีวี เพื่อการโดยสารสาธารณะ เนื่องจากได้มีการเข้าไปลงทุน โดยเฉพาะอีบัสหรือรถโดยสารสาธารณะไฟฟ้า คาดทยอยส่งมอบรถบัสขนาดเล็กได้ช่วงกลางปีนี้ โดยกำลังการผลิตอีบัสอยู่ที่ปีละ 3,000 คันเฟสแรก
ด้านสถานีประจุไฟฟ้ายังคงเดินหน้าติดตั้งต่อเนื่อง ปัจจุบัน 400 สถานีมากกว่า มีจำนวนหัวชาร์จมากกว่า 1,600 หัว และอีเฟอร์รี่ได้เริ่มให้บริการไปเมื่อปลายเดือนธ.ค. แบบวิ่งฟรีไปจนถึงในช่วงเดือนมี.ค.นี้ และจะวิ่งเต็มรูปแบบเก็บค่าโดยสารต่อไป
ส่วนโรงงานแบตเตอร์รี่ยังเดินหน้าไปตามแผน แม้ว่ามีสถานการณ์โควิด-19 การก่อสร้างก็ยังเดินหน้าได้ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการติดตั้งเครื่องจักรและคาดว่าจะเริ่มการผลิตได้ในไตรมาส 2 ปีนี้
พร้อมกันนี้ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด -19 บริษัทตัดสินใจเลื่อนส่งมอบรถยนต์อีวี เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการกลุ่มสหกรณ์แท็กซี่สุวรรณภูมิไปก่อนจนกว่าจะมีความพร้อมและคาดว่าจะพิจารณาอีกครั้งในช่วงปลายปี 2564
สำหรับเป้าหมายการเติบโตปีนี้บริษัทจะมีรายได้ธุรกิจใหม่เข้ามาตั้งแต่ไตรมาส 2 ปีนี้เป็นต้นไป โดยจะเน้นไปที่รถยนต์อีวีและอีบัสที่จะทยอยส่งมอบได้กลางปีนี้ และหลังจากนั้นจะรับรู้รายได้เข้ามาต่อเนื่อง ซึ่งจะเห็นการเติบโตเต็มปีของธุรกิจใหม่ในปีหน้า จากปีนี้รายได้ส่วนใหญ่จะมาจากธุรกิจเดิม คือ โรงไฟฟ้าโซลาร์และลม และไบโอดีเซลเป็นหลัก
ปีนี้ตั้งงบลงทุนที่ 6,100 ล้านบาท แบ่งเป็นธุรกิจพลังงาน (Power Business ) สัดส่วน 46% , ธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า (EV Bussiness) 25% , ธุรกิจแบตเตอร์รี่ 20% , ธุรกิจสถานีชาร์จ (Charging Stations) 7 % และ อีก 2% สำหรับลงทุนโครงการใหม่ ส่วนธุรกิจไบโอดีเซล & PCM ลงทุนเพียงเล็กน้อย งบลงทุนส่วนใหญ่นำไปใช้ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตโครงการโรงไฟฟ้าต่าง ๆ เพื่อให้มีกำลังการผลิตไฟฟ้าดีขึ้น รวมถึงมองหาการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าใหม่ๆเพิ่มเติม