'เลย์' หนุนเกษตรกรใช้ 'ระบบน้ำหยด' เพิ่มผลผลิตสูง 2 เท่า

'เลย์' หนุนเกษตรกรใช้ 'ระบบน้ำหยด' เพิ่มผลผลิตสูง 2 เท่า

"เลย์" ส่งเสริมเกษตรกรใช้ระบบน้ำหยด – ติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์ เพิ่มผลผลิตมันฝรั่งสูงถึง 5 ตันต่อไร่ ลดค่าใช้จ่าย ดันรายได้เพิ่ม สร้างความมั่นคงทางอาชีพและพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกร

นายชวาลา วงศ์ใหญ่ ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมการเกษตร ภูมิภาคเอเชีย บริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง หรือผู้จำหน่าย เลย์  จำกัด  เปิดเผยว่า เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรไทยทำการเกษตรอย่างยั่งยืนมีคุณภาพชีวิตที่ดีและอยู่กับสิ่งแวดล้อมได้อย่างสมดุลไม่ใช้ทรัพยากรธรรมชาติเกินพอดี ไม่สร้างมลภาวะ บริษัทได้การส่งเสริมสนับสนุนการใช้เทคโนโลยีช่วย ในแปลงปลูกมันฝรั่งสายพันธุ์โรงงานของเกษตรกรในระบบเกษตรพันธสัญญากับบริษัทเป๊ปซี่ฯ ด้วยการพัฒนารูปแบบการปลูกด้วยระบบน้ำหยด คือการปลูกที่ให้น้ำและสารอาหารพืชในปริมาณที่เหมาะสม ช่วยให้เกษตรกรควบคุมทั้งปริมาณน้ำและสารอาหารที่พืชต้องการได้

อีกทั้งมีการติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์ ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการทำการเกษตรลดลงอย่างเห็นได้ชัด ผลผลิตต่อไร่มีปริมาณที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของแปลงปลูกมันฝรั่งทั่วไปกว่า 2 เท่า ส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้ที่เพิ่มสูงขึ้นในระยะยาว

นางสาววรรณภร วัฒนาเกษมสัตย์ ผู้จัดการอาวุโสองค์กรสัมพันธ์ บริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด กล่าวว่า เป๊ปซี่โคเล็งเห็นถึงความสำคัญในการทำการเกษตรที่สามารถสร้างรายได้ต่อเกษตรกรให้สามารถดำรงชีวิตที่มีคุณภาพอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตและคุณภาพผลผลิต โดยเฉพาะในด้านการพัฒนาทักษะและความรู้ ซึ่งจะช่วยยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันได้ในระยะยาว

อีกทั้งยังสอดคล้องกับนโยบายของบริษัทฯ ในการมุ่งเน้นการส่งเสริมอาชีพ การสร้างรายได้ ซึ่งส่งผลต่อชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของเกษตรกรและสร้างความยั่งยืนให้กับทุกชุมชนที่เราดำเนินธุรกิจ นับตั้งแต่เริ่มดำเนินธุรกิจขนมขบเคี้ยวในประเทศไทยในปี พ.ศ. 2538 เป๊ปซี่โคได้ยึดถือนโยบายการส่งเสริมการเกษตรอย่างยั่งยืนมาโดยตลอด

โดยให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการสนับสนุนเกษตรกรจากต้นน้ำถึงปลายน้ำผ่าน ‘โครงการส่งเสริมการเพาะปลูกมันฝรั่งอย่างยั่งยืนภายใต้สัญญาข้อตกลงซื้อขายผลผลิตมันฝรั่งที่กำหนดราคารับซื้อที่แน่นอน ซึ่งครอบคลุมทั้งการพัฒนาและถ่ายทอดองค์ความรู้จากต่างประเทศในด้านเทคนิคการเพาะปลูกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำการเกษตรและช่วยเพิ่มผลิตผลต่อไร่ให้สูงขึ้น การสนับสนุนหัวพันธุ์มันฝรั่งคุณภาพและปัจจัยการผลิตต่างๆ

รวมทั้งรับซื้อมันฝรั่งจากเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการฯ อย่างต่อเนื่องทุกปี โดยที่ผ่านมามีเกษตรกรที่เข้าร่วมกว่า 3,800 ราย ครอบคลุมพื้นที่การปลูกรวมกว่า 22,000 ไร่ ใน 6 จังหวัดภาคเหนือ อันได้แก่  จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา และตาก และบางจังหวัดในภาคอีสาน อาทิ จังหวัดสกลนคร และนครพนม เป็นต้น”

นายมงคล ศรีวรรณตัน เกษตรกรผู้ปลูกมันฝรั่งในอำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า มีพื้นที่ปลูกมันฝรั่งประมาณ 1,000 ไร่ ส่วนหนึ่งอยู่ที่อำเภอสันทราย ได้พัฒนาเรียนรู้และทดลองการเพาะปลูกร่วมกับภาครัฐและภาคเอกชนมาอย่างต่อเนื่องกว่า 20 ปีจนสามารถสร้างผลผลิตมันฝรั่งได้สูงสุดถึง 5 ตันต่อไร่ สูงกว่าทั่วไปที่มีผลผลิตเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 2 – 3 ตันต่อไร่

ทั้งนี้เพราะได้ใช้เทคโนโลยีเข้าช่วยในการเพาะปลูกด้วยระบบน้ำหยด ค่าใช้จ่ายในการทำการเกษตรลดลงจากการปรับตัว ทำเกษตรกรแบบใช้องค์ความรู้ขณะนี้ได้ถ่ายทอดวิชาชีพที่ให้ลูกชายเข้ามารับช่วงต่อแล้ว