น้ำมันดิบตลาดโลก ยังขาขยันรับคาดการณ์เศรษฐกิจฟื้น

หน่วยวิเคราะสถานการณ์ราคาน้ำมัน บริษัท ไทยออยล์ จำกัด(มหาชน) หรือ TOP เปิดเผยข้อมูลทิศทางราคาน้ำมันดิบตลาดโลก พบว่า ราคาน้ำมันดิบเมื่อวันที่ 11 มี.ค.2564 ปรับเพิ่ม จากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงและแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัว โดยราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อยู่ที่ 66.02 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลปรับเพิ่ม 1.58 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล น้ำมันดิบเบรนท์ อยู่ที่ 69.63 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.73 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และน้ำมันดิบดูไบ อยู่ที่ 66.96 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเพิ่มขึ้น 1.58 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ ปรับเพิ่ม จากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเนื่องจากความกังวลในอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นผ่อนคลายลง โดยค่าเงินดอลลาร์ร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่สามและอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบสัปดาห์เมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น

สำหรับปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อทิศทางราคาน้ำมัน ได้แก่ ราคาน้ำมันยังได้รับแรงหนุน หลังองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) คาดการณ์เศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวร้อยละ 5.6 ในปีนี้ ซึ่งมากกว่าการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่คาดว่าเศรษฐกิจโลกจะเติบโต 4.2% ในปี 2564 นอกจากนี้ในปี 2565 คาดว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัวที่อัตราร้อยละ 4.0

รวมถึง ความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนไวรัสโควิด-19ในสหรัฐฯ โดยเฉพาะที่นอร์ทแคโรไลนาและแคลิฟอร์เนีย ทำให้สามารถผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งส่งผลให้มีความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้น นอกจากนี้จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นคำร้องใหม่สำหรับสวัสดิการการว่างงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้วน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากสภาพแวดล้อมด้านสาธารณสุขที่ดีขึ้นช่วยให้หลายส่วนของเศรษฐกิจกลับมาเปิดอีกครั้ง

ขณะที่ราคาน้ำมันสำเร็จรูปตลาดสิงคโปร์ ปรับเพิ่มขึ้นสะท้อนราคาน้ำมันดิบ โดยเบนซิน อยู่ที่ 75.35 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.73 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงกว่า 11.87 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา

ส่วนราคาน้ำมันสำเร็จรูปดีเซล อยู่ที่ 70.89 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.93 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากตลาดยังถูกกดดันจากการที่จีนส่งออกน้ำมันดีเซลสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง