ปัจจัยลบรุมเร้า
แรงขายจาก FTSE rebalance ที่ลดน้ำหนักหุ้นไทยลงจาก 2.3% เป็น 2.25% (มีผลวันนี้)จะกดดันต่อดัชนี
ตลาดหุ้นวานนี้
แผ่วปลาย SET เปิดกระโดด 13 จุด ตอบรับเฟดคงดอกเบี้ยและวงเงิน QE แต่ท้ายตลาดมีแรงขายทำกำไร และลดความเสี่ยงหลัง US Bond yield เร่งตัวสู่ระดับ 1.73% ทำสถิติสูงสุดในรอบ 13 เดือน กดดัน SET เหลือปิดบวกเพียง 2 จุด ปิดที่ระดับ 1,568.82 จุด มูลค่าการซื้อขาย 8.1 หมื่นล้านบาท
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้
คาด SET ปรับตัวลงแนวรับ 1,555 / 1,560 จุด จากแรงกดดัน US bond yield ที่พุ่งขึ้นเหนือ 1.7% ตามความกังวลอัตราเงินเฟ้อที่จะเร่งตัวขึ้น ,ราคาน้ำมันที่ทรุดตัวลงแรงหลุด 60 US/Barrel หลังหลายประเทศฝั่งยุโรปกลับมาล็อกดาวน์อีกครั้ง นอกจากนี้แรงขายจาก FTSE rebalance ที่ลดน้ำหนักหุ้นไทยลงจาก 2.3% เป็น 2.25% (มีผลวันนี้)จะกดดันต่อดัชนี
กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy
- AOT MINT CENTEL AAV BA CPN CRC MAJOR ได้อานิสงส์วัคซีน Covid-19
- HANA KCE TU CPF อานิสงส์เงินบาทที่อ่อนค่าลง
- หุ้นกระแสกัญชง CBG ICHI SAPPE RBF DOD IP TACC GUNKUL KISS
หุ้นแนะนำวันนี้
- CPF (ปิด 30.5 ซื้อ/เป้า 42.2) มีข่าวบวกเตรียมออกผลิตภัณฑ์กัญชง ขณะที่ราคาหมู ไก่ ยังทรงตัวในระดับสูง ส่วนแบ่งกำไรจากลุ่มบริษัทลูกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะจาก CPALL ซึ่งรวมงบกับ TESCO Lotus เข้ามาเต็มปี CPALL
- TACC (ปิด 7.9 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 9.5 บาท) ธุรกิจเดิมเติบโตไปพร้อมกับ 7-11 จากการขยายสาขาสู่กัมพูชาและลาวรวมถึงการเพิ่มสินค้าใน Lotus เข้าลงทุน และมี Growth story ใหม่จากการลงทุน 30% ใน TCI เพื่อทำธุรกิจผลิตและแปรรูปกัญชงและกัญชา
บทวิเคราะห์วันนี้
Transportation sector (Top pick: BTS, BEM)
ประเด็นสำคัญวันนี้
- (-) น้ำมันร่วงหนักกังวลยุโรป Lockdown: ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 4.60 ดอลลาร์ (–7.1%) ปิดที่ 60$/bbl ลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 กังวลดีมานด์ฟื้นตัวช้าหลังยุโรปเตรียมประกาศใช้มาตรการ lockdown เพื่อควบคุมการระบาดของไวรัส Covid-19 อีกครั้ง อาทิ อิตาลีเตรียม lockdown ในช่วงเทศกาลอิสเตอร์ และ ฝรั่งเศสเตรียม lockdown กรุงปารีส เป็นเวลา 1 เดือนหลังจากจำนวนผู้ป่วย Covid-19 กลับมาเร่งตัวขึ้น
- (+/-) ตลท.เปิดรับฟังความคิดเห็นปรับเกณฑ์ Free float ใหม่: ตลาดหลักทรัพย์อยู่ระหว่างเปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้องในการปรับเกณฑ์ในการคำนวณดัชนีโดยกำหนดให้นำ Free float มาใช้เป็นเกณฑ์ในการคำนวณดัชนีร่วมด้วยซึ่งเริ่มเปิดรับฟังความเห็นวานนี้ (18 มี.ค.) เป็นวันแรกหากได้ข้อสรุปและบังคับใช้จริงจะส่งผลกระทบต่อหุ้นที่เข้าออก SET50/100 รวมไปถึงน้ำหนักในการคำนวณดัชนีของแต่ละหลักทรัพย์ โดยหุ้นที่คาดว่าจะปรับเข้า SET50 คือ STGT IRPC STA ส่วนหุ้นที่คาดว่าจะถูกปรับออกคือ BJC TOA และ VGI หุ้นที่จะถูกปรับเพิ่มน้ำหนักคือ BBL SCB KBANK SCC ส่วนหุ้นที่คาดว่าน้ำหนักการลงทุนลดลงคือ DELTA OR GULF ADVANC