IIG - ซื้อ (24 มี.ค.64)
ได้แรงส่งต่อเนื่องจาก digital transformation
Event
อัพเดตแนวโน้มบริษัท
Impact
ผลประกอบการมีแนวโน้มสดใสในปี 2564F
เราคาดว่ากำไรสุทธิในปี 2564F จะทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 85 ล้านบาท (+36% YoY) เนื่องจาก i) คาดรายได้เติบโต 27% YoY และ ii) อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 170bps YoY เป็น 30.5% เนื่องจากมีการประหยัดต่อขนาดเพิ่มขึ้น เราคาดว่ารายได้ในปี 2564F จะโตจากทั้งธุรกิจ CRM (+30% YoY) และ ERP (+8% YoY) โดยแนวโน้มของธุรกิจ CRM ยังคงสดใสเพราะอัตราการใช้งานในประเทศไทยยังอยู่ใน early stage และ IIG ได้ลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ธุรกิจ ERP ก็จะได้แรงหนุนจากวัฏจักรการกลับเข้าลงทุน (reinvestment cycle) ใน cloud-based software นอกจากนี้ เราคาดว่าธุรกิจ data analytic ของบริษัทที่เพิ่งเปิดใหม่ก็น่าจะทำรายได้ให้บริษัท 20 ล้านบาทในปี 2564F
กำไรจะลดลง QoQ ใน 1Q64F จากผลของปัจจัยฤดูกาล
เราคาดว่ากำไรใน 1Q64F จะแผ่วลง QoQ เนื่องจากเป็นช่วง low season ของธุรกิจ CRM (Figure 1) ในขณะเดียวกัน แต่จะยังเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง YoY จาก snow ball effect ที่เกิดจากรายได้ recurring income (รายได้จากการ subscription บริการรายปีทั้งในส่วนของ software CRM และ ERP software) และการที่ทุกหน่วยธุรกิจของ IIG สามารถหาลูกค้าใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง
มูลค่าสัญญารายปี คิดเป็น 77% ของประมาณการรายได้จากการ subscription ในปี 2564F แล้ว
เมื่อสิ้นงวด 4Q63 IIG ทำสัญญา subscription รายปีไปแล้วคิดเป็นมูลค่า 216 ล้านบาท (จากทั้ง software CRM และ ERP) ทำให้แนวโน้มดูสดใสเพราะมูลค่าสัญญา subscription ที่มีอยู่คิดเป็น 77% ของประมาณการรายได้จากการ subscription ในปี 2564F ของเรา (Figure 8) นอกจากนี้ IIG ยังมี backlog ในมืออีก 145 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้เป็นรายได้ในปี 2564F และยังมีโครงการใน pipeline ที่บริษัทมีศักยภาพสูงอีก 351 ล้านบาท (เป็นรายได้ทั้งประเภท recurring และ non-recurring)
ปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2564-65F ขึ้นอีก 7%
เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2564-65F ขึ้นอีก 7% (Figure 9) เพื่อสะท้อนถึงสัดส่วน SG&A ต่อยอดขายที่ลดลง
Valuation & Action
IIG ยังคงเป็นหนึ่งในหุ้นหลักที่จะได้อานิสงส์จากกระแส digital transformation ในประเทศไทย ซึ่งจะเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตของบริษัทในระยะยาว เราขยับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2565F และคงคำแนะนำ ซื้อ โดยให้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 40.00 บาท อิงจาก P/E ปี 2565F ที่ 37.0x เท่ากับค่าเฉลี่ยระยะ
ยาวของหุ้นกลุ่มนี้ในภูมิภาค +1.0 S.D.
Risks
ความเสี่ยงด้านเทคโนโลยี และปัญหาขาดแคลนแรงงาน