รัฐดัน PPP 2 แสนล้านฟื้นเศรษฐกิจ ‘คมนาคม’เร่งเปิดชิงรถไฟฟ้า 'ส้ม-ม่วง'
สคร.เดินหน้าลงทุน “พีพีพี” ปีนี้ 10 โครงการ มูลค่า 2 แสนล้าน อนุมัติแล้ว 4 โปรเจค 1.6 แสนล้านหวังดันเศรษฐกิจ “ศักดิ์สยาม” เขย่างบเมกะโปรเจค “พีพีพี-ทีเอฟเอฟ” 41 โครงการ วงเงิน 7.4 แสนล้านบาท รฟม.ลุยประมูลรถไฟฟ้า 2 สาย สีส้ม-สีม่วง
นางปานทิพย์ ศรีพิมล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยกรุงเทพธุรกิจว่า สถานการณ์โควิด-19 ที่กระทบเศรษฐกิจ ทำให้การลงทุนภาครัฐเป็นเครื่องมือสำคัญในการพยุงเศรษฐกิจ ดังนั้น สคร.จึงเร่งรัดการลงทุนภาครัฐและรัฐวิสาหกิจให้เป็นไปตามแผน เพื่อให้เงินงบลงทุนเข้าระบบเศรษฐกิจมากขึ้น
สำหรับแผนการประมูลลงทุนรูปแบบการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (PPP) ปี 2564 มี 10 โครงการ มูลค่ากว่า 200,000 ล้านบาท โดยคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน อนุมัติแล้ว 4 โครงการ มูลค่า 160,000 ล้านบาท ได้แก่
1.โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) มูลค่า 124,791 ล้านบาท
2.โครงการพัฒนาและบริหารจัดการที่พักริมทาง (Rest Area) บนทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางปะอิน-นครราชสีมา มูลค่า 1,606 ล้านบาท
3.โครงการพัฒนาและบริหารจัดการที่พักริมทาง (Rest Area) บนทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางใหญ่-กาญจนบุรีมูลค่า 1,454ล้านบาท
4.โครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ต ระยะที่ 1 ช่วงท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต-ห้าแยกฉลอง (รฟม.) มูลค่า 35,201 ล้านบาท
นอกจากนี้ คณะกรรมการฯ เห็นชอบปรับปรุงแผนโครงการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนปี 2563-2570 ที่เดิมมีโครงการใน Pipe line 92 โครงการ มูลค่า 1.09 ล้านล้านบาท โดยปรับเหลือ 77 โครงการจาก 9 กระทรวง มูลค่า 1 ล้านล้านบาท เพราะบางโครงการอาจไม่ต้องใช้ PPP และบางโครงการเปลี่ยนเป็นจัดซื้อจัดจ้างแทน ในจำนวนนี้เป็นโครงการร่วมลงทุนกลุ่มจำเป็นเร่งด่วน 20 โครงการ รวม 503,153 ล้านบาท
ทั้งนี้ แผนการจัดทำโครงการ PPP ข้างต้น จะสร้างความสนใจและดึงดูดเอกชนมาร่วมลงทุนภายใต้แผนดังกล่าว ลดข้อจำกัดการลงทุนจากเงินงบประมาณแผ่นดินและเงินกู้จากภาครัฐ ตลอดจนเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการโครงสร้างพื้นฐานและบริการสาธารณะ โดยใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญและนวัตกรรมของเอกชน
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า สั่งการให้หน่วยงานสังกัดกระทรวงคมนาคมเร่งทบทวนรายละเอียดวงเงินลงทุนโครงการพีพีพี และการลงทุนที่ใช้เงินจากกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (TFF) รวม 41 โครงการ วงเงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 7.4 แสนล้านบาท เพื่อเสนอคณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ)
“ผมสั่งทุกหน่วยตรวจสอบความถูกต้องและความพร้อมลงทุนทุกโครงการเพื่อเสนอ ครม.เศรษฐกิจ โดยครอบคลุมทั้งโครงการทางบก น้ำ ราง อากาศ ซึ่งเร่งสรุปวงเงินลงทุนให้ครบเพราะมีบางโครงการที่รายละเอียดการลงทุนยังไม่ชัดเจน”
นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคมเร่งรัดเบิกจ่ายให้เป็นไปตามแผน เบื้องต้นมอบให้แต่ละหน่วยงานเร่งรัดลงนามสัญญาโครงการให้แล้วเสร็จภายในเดือน มี.ค.นี้ โดยขอให้ส่วนราชการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณในปีงบ 2564 ให้ทันภายในเดือน ส.ค.นี้ ขณะที่รัฐวิสาหกิจเร่งรัดการเบิกจ่ายงบปี 2564 ภายในเดือน ธ.ค.นี้
รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม ระบุว่า การลงทุนเมกะโปรเจครูปแบบพีพีพี ขณะนี้มีโครงการที่อยู่ในขั้นตอนประกวดราคา คือ
1.โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี ในส่วนงานก่อสร้างช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี และงานติดตั้งระบบเดินรถทั้งเส้นทาง มูลค่า 1.4 แสนล้านบาท ส่วนโครงการที่ผลักดันกระบวนการเปิดประกวดราคา เช่น ทางพิเศษ สายกระทู้-ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต วงเงิน 1.4 หมื่นล้านบาท
2.โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ วงเงิน 1.2 แสนล้านบาท
นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการถไฟฟ้าขนส่งแห่งประเทศไทย (รฟม.) กล่าวว่า รฟม.กำลังรับฟังความคิดเห็นเพื่อประกอบการจัดทำเอกสารยื่นข้อเสนอโครงการ (RFP) รถไฟฟ้าสายสีส้ม คาดว่าจะเสร็จในเดือน มี.ค.นี้ หากไม่มีปัญหาติดขัดจะขายซองข้อเสนอได้เดือน เม.ย.2564 และเข้ากระบวนการพิจารณาข้อเสนอเพื่อเสนอผลประมูลให้ ครม.เดือน ส.ค.นี้ โดยหากการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินแล้วเสร็จ รฟม.จะเร่งรัดให้เอกชนเริ่มงานก่อสร้างทันทีในปีนี้
ส่วนโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) คาดว่าเดือน มิ.ย.นี้ จะขายซองประกวดราคา ซึ่งอยู่ระหว่างทำเอกสารประกวดราคา และสำรวจอสังหาริมทรัพย์ คาดว่าจะเสร็จภายใน 2 เดือนหลังจากนี้ โดยมีเป้าหมายเริ่มงานก่อสร้างภายในเดือน ธ.ค.นี้ เปิดให้บริการประชาชนเดือน มี.ค.2570