เซ็นทรัลปลุกความร่วมมือสู้โควิด!เดิมพันประเทศไทย

เซ็นทรัลปลุกความร่วมมือสู้โควิด!เดิมพันประเทศไทย

"เซ็นทรัล” เร่งการฉีดวัคซีนใครพร้อมฉีดก่อน! พร้อมหนุน “สถานที่-การบริหารจัดการ” กู้วิกฤติโควิด ดันโครงการ “ฮักไทย” กิน เที่ยว ใช้ (ช้อป) ของไทย ฟื้นฟูเศรษฐกิจ หวังปลุกเม็ดเงินสะพัด 4 ล้านล้าน

"ญนน์ โภคทรัพย์" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า ภาคเอกชนพร้อมผนึกกำลังและสนับสนุนภาครัฐในเรื่องการฉีดวัคซีนให้ได้ตามเป้าหมาย เพื่อป็นการกระตุ้นให้ระบบเศรษฐกิจกลับมาเดินได้อย่างรวดเร็ว

"นี่คือการเดิมพันครั้งสุดท้ายของประเทศไทยขึ้นอยู่กับความร่วมมือของทุกคน ไม่ให้มีการระบาดมากกว่านี้ และเร่งฉีดวัคซีนใครพร้อมก็ฉีดเลย"

ทั้งนี้ ในฐานะประธานกลุ่มการค้าและบริการ หอการค้าไทย ยังดูแลรับผิดชอบ 3 เรื่องใหญ่ กล่าวคือ

1.การจัดหาพื้นที่ในการเข้าถึงวัคซีนให้แก่ประชาชนอย่างรวดเร็ว ปลอดภัยและทั่วถึง โดย "ทีมคุณญนน์" รับผิดชอบส่วนของการสนับสนุนการกระจายและฉีดวัคซีน ซึ่งได้มีการประสานงานกับกรุงเทพมหานครในการเตรียมการและสำรวจพื้นที่ เพื่อเตรียมที่จะนำเสนอสถานที่ของภาคเอกชนทั้ง 10 แห่งในกรุงเทพมหานคร จากจำนวนทั้งหมดที่เสนอไป 49 แห่งเพื่อให้ทางคณะกรรมการควบคุมโรค กรุงเทพมหานคร พิจารณาอนุมัติต่อไป

นอกจากในกรุงเทพมหานครแล้ว กลุ่มการค้าและบริการได้ประสานงานกับเครือข่ายหอการค้าใน 6 จังหวัดนำร่อง และจังหวัดที่เหลือทั่วประเทศในการจัดหาพื้นที่สำหรับการฉีดวัคซีน โดยกลุ่มการค้าและบริการได้เสนอพื้นที่ทั่วประเทศทั้งหมด จำนวน 283 แห่ง, กรุงเทพฯ ทั้งสิ้น 49 แห่ง, จังหวัดท่องเที่ยว 6 จังหวัด จำนวนทั้งสิ้น 59 แห่ง และ พื้นที่ทั่วประเทศที่เหลือ จำนวน 175 แห่ง

2.การจัดหาแหล่งเงินทุนให้ SME ซึ่งกลุ่มการค้าและบริการได้ทำงานร่วมกับธนาคารพาณิชย์ และผู้ประกอบการ SME ในการรวบรวมข้อมูลเพื่อจะนำเสนอให้กับธนาคารพาณิชย์เพื่อพิจารณาอนุมัติสินเชื่อได้อย่างรวดเร็ว โดยคาดว่าภายใน 99 วัน น่าจะสรุปในเรื่องการจัดหาแหล่งเงินทุนให้กับ SME กลุ่มแรกได้

กลุ่มการค้าและบริการของหอการค้าไทย จะขอเป็นตัวเชื่อมระหว่างผู้ประกอบการ SME กับธนาคารพาณิชย์ในการปล่อยสินเชื่อ ผ่าน Retail Platform เพื่อเสริมสภาพคล่องและการลงทุนให้กับผู้ประกอบการ SME ได้อย่างง่ายดาย รวดเร็ว และทั่วถึง

3.โครงการ “ฮักไทย” กิน เที่ยว ใช้ (ช้อป) ของไทย  ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการเพื่อส่งเสริมสินค้าไทย กินของไทยและท่องเที่ยวไทย เพื่อช่วยกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย

เสนอแผน “ฮักไทย” นำร่องภูเก็ต 

"ญนน์" กล่าวต่อว่า การกระตุ้นให้ใช้สินค้าไทยและการท่องเที่ยวในกลุ่มคนไทยและต่างชาติเป็นสิ่งที่จำเป็น โดยหอการค้าไทยมีแผนเพื่อช่วยผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยกระตุ้นให้มีการใช้สินค้าไทยผ่านโครงการ “ฮักไทย” (Hug Thais) สนับสนุนให้ใช้ของไทย กินของไทย และเที่ยวเมืองไทย ซึ่งจะร่วมมือกับภาคเอกชนเสนอสิทธิพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจต่างชาติแบบ “Long Stay”ยิ่งอยู่นาน ยิ่งได้สิทธิพิเศษเพิ่ม พร้อมเชิญชวนให้เที่ยวประเทศไทยเชิงอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย

โครงการ “ฮักไทย” สำหรับคนไทยเป็นโครงการที่ส่งเสริมสินค้าแบรนด์ไทย หรือ วัสดุไทย หรือ สินค้าที่ผลิตในประเทศไทย รวมไปถึงซอฟต์แวรและแพลตฟอร์ม ที่พัฒนาโดยคนไทย เพื่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ และเกิดการหมุนเวียนเศรษฐกิจในประเทศ 

โดยการสร้าง “ฮักไทย” ให้เป็นสัญญลักษณ์สำหรับทุกจังหวัด เพื่อเป็นการรวมสินค้าชุมชน เป็นการสร้างภาพลักษณ์ของประเทศไทยให้มีชื่อเสียงทั่วโลก โดยกลุ่มการค้าและบริการ หอการค้าไทย จะช่วยหาพื้นที่และช่องทางออนไลน์ในการจัดจำหน่ายสินค้า “ฮักไทย” และ เสนอภาครัฐให้รวมสินค้าฮักไทยเข้าในระบบจัดซื้อจัดจ้าง และเข้าร่วมทุกโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐพร้อมทั้งกระตุ้นให้ส่วนงานราชการและบริษัทต่างๆ จัดงานสัมมนาและประชุมในประเทศ และโรดโชว์ไปทุกจังหวัด

ทั้งนี้ ตามแผนเปิดภูเก็ตของรัฐบาลในวันที่ 1 ก.ค.นี้ กลุ่มการค้าและบริการขานรับนโยบาย “แซนด์บ็อกซ์ภูเก็ต” เพื่อเป็นต้นแบบการเปิดประเทศ ผ่านโครงการ “ฮักไทย ฮักภูเก็ต” (Hug Thais Hug Phuket) สำหรับคนไทยและต่างชาติ มากิน เที่ยว และอุดหนุนสินค้าไทยในจังหวัดภูเก็ต

นอกจากนี้ยังเสนอให้มีการ “Work from Phuket” สำหรับนักธุรกิจชาวต่างชาติ พร้อมรับสิทธิพิเศษเพิ่มจากร้านค้า และ บริการต่างๆ เมื่อแสดง วัคซีนพาสปอร์ต

เชื่อว่า โครงการ “ฮักไทย” จะช่วยกระตุ้นการบริโภคในประเทศ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ  คาดมีมูลค่า 4 ล้านล้านบาท โดยคำนวนจากเม็ดเงินหมุนเวียนการบริโภคภาคเอกชนซึ่งมีมูลค่า 5.6 ล้านล้านบาท ในปี 2563