ปตท.สผ.เบรกก่อสร้างโครงการโมซัมบิก หลังเกิดเหตุความไม่สงบ
ปตท.สผ.ระบุ ยุติพัฒนาโครงการโมซัมบิก แอเรีย วัน หลังเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นที่เมือง Palma ประเทศโมซัมบิก พร้อมติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด
นายพงศธร ทวีสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า จากกรณีเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นที่เมือง Palma ประเทศโมซัมบิก ซึ่งอยู่ห่างจากที่ตั้งโครงการพัฒนาและก่อสร้างโรงงานผลิตก๊าซธรรมชาติเหลวโครงการโมซัมบิก แอเรีย วัน (Mozambique LNG) ประมาณ 20 กิโลเมตร
และมีบริษัท พีทีทีอีพี โมซัมบิก แอเรีย 1 จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ ปตท.สผ. ถือสัดส่วนการลงทุนในโครงการดังกล่าว 8.5% ร่วมกับบริษัท ENH Rovuma Área Um, S.A. (15%), บริษัท Mitsui E&P Mozambique Area1 Limited (20%), บริษัท ONGC Videsh Rovuma Limited (10%), บริษัท Beas Rovuma Energy Mozambique Limited (10%), บริษัท BPRL Ventures Mozambique B.V. (10%) และบริษัท TOTAL E&P Mozambique Area 1 Limitada ซึ่งถือสัดส่วนการลงทุน 26.5% และเป็นผู้ดำเนินการ (Operator) นั้น
บริษัทขอแจ้งให้ทราบว่าพนักงานและผู้รับเหมาของโครงการไม่ได้รับอันตรายจากเหตุการณ์ดังกล่าว โดยผู้ดำเนินการได้ทำการอพยพ พนักงาน และผู้รับเหมาของโครงการทั้งหมดออกจากพื้นที่และได้ส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างให้รัฐบาลโมซัมบิกดูแลเพื่อความปลอดภัยแล้ว โดยในเวลาต่อมา ผู้ดำเนินการได้ตัดสินใจประกาศหยุดดำเนินการก่อสร้างด้วยเหตุสุดวิสัย (Force Majeure) เพื่อความปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม บริษัทอยู่ระหว่างการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และประเมินผล กระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อไป
ทั้งนี้ โครงการโมซัมบิก แอเรีย 1 เป็นโครงการก๊าซธรรมชาติขนาดใหญ่ ตั้งอยู่นอกชายฝั่งของโมซัมบิก ซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนา (Development Phase) ในปี 2563 โครงการการปรับพื้นที่ก่อสร้างโครงการ (Afungi Site Improvement) ซึ่งประกอบด้วย สนามบินภายในโครงการ อาคารที่พักอาศัยพนักงาน ถนนทางเข้าโครงการ และท่าเรือขนส่งอุปกรณ์ชั่วคราว แล้วเสร็จเป็นที่เรียบร้อยตามแผนงาน
ก่อนหน้านี้ ปตท.สผ.คาดว่า ในระยะแรก โรงงานผลิตก๊าซธรรมชาติเหลวจะประกอบด้วย 2 สายการผลิต (train) มีกำลังการผลิตรวม 12.88 ล้านตันต่อปี จากแหล่งโกลฟินโญ-อาตุม ซึ่งเป็นแหล่งก๊าซธรรมชาตินอกชายฝั่งแหล่งหนึ่งในโครงการ ปัจจุบันโครงการมีสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติเหลวในระยะยาวกับผู้ซื้อทั้งจากทวีปเอเชียและยุโรปรวมแล้วประมาณ 11.1 ล้านตันต่อปี โดยมีแผนที่จะเริ่มการผลิตก๊าซธรรมชาติเหลวได้ในปี 2567 และคาดว่าจะสามารถเพิ่มปริมาณสำรองปิโตรเลียมที่พิสูจน์แล้ว (Proved Reserves) ให้กับ ปตท.สผ. ตามสัดส่วนการลงทุนประมาณ 140 ล้านบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ