“จุรินทร์ “ประชุม"ทีมเซลส์แมนจังหวัด ภาคเอกชน เคาะ 4 มาตรการ "ช่วยพังงา-ภูเก็ต"

นายจุรินทร์  ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังประชุมหารือร่วมทีมเซลล์แมนจังหวัดภูเก็ต และพังงา ว่า ได้นัดหารือกับทีมเซลล์แมนจังหวัดจังหวัดพังงา และจังหวัดภูเก็ตรวมทั้งภาคเอกชน ด้านการท่องเที่ยวของทั้งสองจังหวัดมาร่วมหารือด้วย เพื่อหาแนวทางฟื้นฟูเศรษฐกิจในพื้นที่อันดามัน โดยทั้ง 2 จังหวัด เศรษฐกิจขึ้นอยู่กับด้านการเกษตร และด้านการท่องเที่ยว 

สำหรับปัจจัยด้านการเกษตรนั้น ในขณะนี้ถือว่าราคาพืชผลการเกษตรดีเกือบจะเรียกว่าทุกตัว ทั้งยางพารา ราคาเกินกว่า 60 บาทมาหลายเดือนแล้ว ปาล์มน้ำมัน ราคา กก.ละ 5- 6 บาท มาเกือบปีแล้ว ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่สูงกว่าหลายยุคที่ผ่านมา และเกษตรกรภาพรวมก็มีความพอใจ รวมทั้งผลไม้ ก็ถือว่ามีราคาอยู่ในเกณฑ์ดีมาก โดยเฉพาะล่าสุดมังคุดที่จังหวัดจันทบุรี ก็ได้รับรายงานว่า กก.ละ เกือบ 200 บาท ส่วนทุเรียน กก.ละ 100 กว่าบาท เพราะฉะนั้นพืชเกษตรในขณะนี้ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ประชาชนพอใจ โดยเฉพาะในจังหวัดภูเก็ต พังงาก็มีความพอใจ และมีผลให้ตัวเลข การส่งออกดีขึ้นเป็นลำดับด้วย เพราะว่ากลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่มีบทบาทสำคัญอยู่ในปัจจุบันนี้ที่จะช่วยเพิ่มจีดีพีให้กับประเทศที่เป็นพระเอกก็คือการส่งออกและในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาการส่งออกก็กระเตื้องดีขึ้นตามลำดับ โดยเดือนมี.ค. ที่ผ่านมามีตัวเลขเป็นบวก 8.5% และในเดือนเม.ย.ก็คาดว่าจะเป็นบวกไม่น้อยกว่า 13% 

ด้านการท่องเที่ยวนั้น ขณะนี้เครื่องยนต์ด้านการท่องเที่ยวยังติดขัดอยู่ เป็นผลมาจากสถานการณ์โควิด โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ดังนั้นจึงได้มีการหารือร่วมกันเพื่อเตรียมการกำหนดมาตรการต่างๆ สำหรับภาคปฏิบัติ เพื่อรองรับแผนการท่องเที่ยว โดยเฉพาะที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งจะมีการเปิด #phuketsandbox #ภูเก็ตแซนบล็อค ในวันที่ 1 ก.ค. ซึ่งจะครอบคลุมไปถึงพื้นที่จังหวัดพังงาด้วย เพราะมีความจำเป็นที่จะต้องทำงานร่วมกันในรูปแบบของอันดามันคลัสเตอร์ เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่จะมาจังหวัดภูเก็ต จะได้เดินทางไปเที่ยวที่จังหวัดพังงาด้วย ทั้งสองจังหวัด ซึ่งปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ จังหวัดภูเก็ตสามารถเริ่มเปิดเมือง

นายจุรินทร์ กล่าวว่า สำหรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศจะเดินทางมาได้ในวันที่ 1 ก.ค. 2564 นี้ได้ตามเป้าหมายหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับวัคซีนและการบริหารจัดการอื่นๆด้วย จากการประชุมหารือดังกล่าวได้มีข้อสรุปร่วมกัน โดยตนจะรับไปช่วยประสานกับ ศบค. และรัฐบาล ให้ดำเนินการต่อไปดังนี้ คือ 

ประการที่หนึ่ง ภาคเอกชนขอให้ได้รับวัคซีนตามที่ปริมาณที่ได้กำหนดไว้ตามแผน กล่าวคือจังหวัดภูเก็ต ตั้งแต่เดือนเเม.ย.  จนถึงเดือนส.ค. ได้กำหนดขอรับวัคซีนไว้ จำนวน 930,000 โดส ส่วนจังหวัดพังงาตั้งแต่เดือนเม.ย. ถึงเดือนก.ย. ได้กำหนดขอรับวัคซีนไว้ จำนวน 210,000 โด๊ส หากทุกอย่างเป็นไปตามนี้แต่ละจังหวัดก็จะบริหารจัดการและมีการเตรียมการล่วงหน้าเพื่อให้การฉีดวัคซีนเป็นไปตามแผน และจะทำให้การเปิดเมือง 1 ก.ค 2564 เดินหน้าไปได้

ประการที่สอง จะขอให้จังหวัดพังงาได้เร่งปรับแผนโดยเร็ว เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศให้สอดคล้องกับจังหวัดภูเก็ตเพราะการขายทัวร์ หรือแผนการท่องเที่ยวกับนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ควรที่จะได้ขายร่วมกันทั้งสถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดพังงาควบคู่กันไป ซึ่งจะมีส่วนช่วยในการดึงดูดนักท่องเที่ยวให้สนใจเดินมามากขึ้นในรูปแบบ อันดามันคลัสเตอร์ ซึ่งเรื่องนี้จะได้นำไปประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดพังงาอีกครั้งหนึ่งให้เร่งปรับแผนเพื่อให้สอดคล้องกัน

ประการที่สาม ในการเดินทางมาหลังวันที่ 1 ก.ค. 2564 หากทุกอย่างเป็นไปตามแผน จะมีเที่ยวบินตรง (Direct Flight) บินมาจากประเทศคู่สัญญาที่เราจะเปิดรับนักท่องเที่ยว เนื่องจากไทยไม่ได้เปิดรับนักท่องเที่ยวจากทุกประเทศในโลก แต่จะเปิดให้เฉพาะประเทศที่ได้รับอนุญาต เช่น อังกฤษ เยอรมัน รัสเซีย สหรัฐอเมริกา อิสราเอล ฝรั่งเศส และกลุ่มประเทศสแกนดิเนเวีย เป็นต้น ซึ่งเรื่องนี้สนามบินภูเก็ตก็จะต้องได้เตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางมาของแต่ละเที่ยวบิน ซึ่งบางครั้งอาจจะมาในเวลาที่ไม่ใช่ช่วงเวลาทำการปกติ ดังนั้นสนามบินภูเก็ตจำเป็นจะต้องเตรียมบุคลากรให้พร้อมสำหรับการต้อนรับนักท่องเที่ยว ซึ่งขณะนี้ทราบว่ายังติดขัดอยู่บ้างสำหรับบุคลากรในบางหน่วยงาน เช่นด่านควบคุมโรค โดยเรื่องนี้ตนจะได้ประสานกับกระทรวงสาธารณสุขต่อไปว่าเมื่อถึงเวลานั้นก็ขอให้มีบุคลากรให้พร้อมเพื่อไม่ให้ติดขัดไปถึงกลไกอื่นๆในการรับนักท่องเที่ยวที่สนามบิน

และในประการที่สี่ จังหวัดภูเก็ตและพังงาจะทำแผนงานไทยเที่ยวไทยร่วมกันเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ให้สามารถดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวทั้งสองจังหวัดได้ เพื่อให้เกิดความสะดวกกับนักท่องเที่ยวคนไทยตามนโยบายของรัฐบาลต่อไป

ส่วนแนวทางของจังหวัดอันดามันอื่นๆ เช่น จังหวัดกระบี่ ตนจะได้มีการประชุมร่วมระหว่าง 3-5 จังหวัดในภาคอันดามัน อีกครั้งหนึ่ง เพื่อที่จะเข้ามาช่วยเสริมเติมในส่วนที่สามารถทำได้ต่อไป